บท
ตั้งค่า

Chapter 2 รามิล

“ไปไหนมา”

น้ำเสียงแข็งกระด้างที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้เจ้าของเรือนร่างที่มีส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรถึงกับชะงัก ขณะกำลังก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกเพื่อไปยังห้องนอน

“ปาร์ตี้กับเพื่อนค่ะ” เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองใบหน้าของอีกฝ่าย จึงไม่เห็นว่าดวงตาคู่นั้นกำลังไล่มองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยแววตาแบบไหน

“เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวสำส่อน”

คำพูดที่บ่งบอกถึงการดูถูกเหยียดหยามทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มรีบหันขวับแล้วจ้องมองเจ้าของประโยคนั้นด้วยความไม่พอใจ

รามิล ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาดูสะอาดสะอ้านและค่อนข้างเนี้ยบตามแบบฉบับนักธุรกิจที่ต้องมีบุคลิกซึ่งบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ เขาอายุสามสิบแปดย่างสามสิบเก้าปีที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะสร้างครอบครัวในเร็ววันนี้ ถึงแม้จะเป็นลูกชายเพียงคนเดียวก็ตาม เพราะแค่ต้องบริหารจัดการโรงแรมหรูอย่าง A.W.Hotel ก็แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองแล้ว

ก่อนหน้านี้หากมีเวลาว่างอันน้อยนิดก็มักจะใช้เวลานั้นผ่อนคลายตามสไตล์หนุ่มโสดที่ไม่มีพันธะให้ต้องกังวล โดยมีเลขาสาวคอยจัดการเรียกผู้หญิงเหล่านั้นมาปรนเปรออย่างที่ต้องการ แต่ครั้นหญิงสาวที่เขาส่งไปศึกษาต่อที่แคนาดาเมื่อสี่ปีก่อนกลับมาก็ดูเหมือนว่าเรื่องชวนปวดหัวย่อมตามมาด้วย ก็เธอเล่นออกไปข้างนอกดึกดื่นไม่เว้นแต่ละวัน

“คุณป๋าว่าไงนะคะ” คิ้วสวยได้รูปเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากกระจับเล็กจะเอ่ยถามออกมาอีกครั้งราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าคำพูดเหล่านั้นจะออกมาจากปากของคนตรงหน้า

“บอกว่าให้เลิกทำตัวสำส่อนแล้วก็เลิกแต่งตัวเหมือนผู้หญิงอย่างว่าซะที!” รามิลตวาดออกมาด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวเพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของเธอ

วันวิวาห์สะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจกับท่าทางของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกตอกกลับไปในสิ่งที่คิดอย่างไม่ยอมแพ้

“ผู้หญิงอย่างว่าที่หมายถึง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงที่คุณป๋านอนด้วยไม่ใช่เหรอคะ”

“วันวิวาห์!”

“ทำไมคะ วีว่าพูดผิดตรงไหน” คนที่ถูกต่อว่าต่างๆ นานากลับไม่ได้มองเขาด้วยความโกรธอย่างที่ควรจะเป็น บัดนี้แววตาของเธอเต็มไปด้วยการตัดพ้อและอารมณ์น้อยใจอย่างชัดเจน จนคนที่เพิ่งตวาดเธอถึงกับนิ่งเงียบ

“จะบอกอะไรให้นะคะ วีว่าไม่เคยสนใจว่าใครจะมองยังไง เพราะวีว่ารู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

“อวดดี”

สิ้นคำพูดนั้นความเงียบเริ่มเข้าปกคลุมบริเวณรอบๆ ขณะเดียวกันสายตาของเธอก็ประสานกับนัยน์ตาสีดำสนิทของอีกฝ่ายไม่ต่างกับการทำสงครามประสาท และเธอก็เป็นฝ่ายแพ้ไปโดยปริยาย จนต้องเอ่ยออกมาทำลายความเงียบที่ชวนน่าอึดอัดนั้น

“ไหนๆ เราก็พูดเรื่องนี้แล้ว ต่อไปนี้คุณป๋าห้ามพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านอีก วีว่าไม่อนุญาต" คำพูดชัดถ้อยชัดคำที่มาจากความต้องการของเธอเพียงคนเดียว ทำให้คนถูกสั่งถึงกับกระตุกยิ้มมุมปาก

“คิดยังไงถึงกล้าสั่งอะไรแบบนี้?”

“วีว่าแค่ไม่อยากได้ยินเสียงโหยหวนอย่างกับผีเปรตแบบนั้นอีก" หญิงสาวพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา ครั้นอีกฝ่ายได้ยินอย่างนั้นก็ทำท่าจะดุ แต่เธอก็รีบโพล่งออกมาอีกครั้ง

"ไม่อย่างนั้นวีว่าจะออกไปอยู่คอนโด”

"ไม่ได้"

"คุณป๋าจะเอายังไงกันแน่คะ เอาอย่างนี้มั้ยคะ ถ้าคุณป๋าพาผู้หญิงเข้าบ้านได้ วีว่าก็พาผู้ชายเข้าบ้านได้เหมือนกัน"

“จะมากเกินไปแล้วนะวันวิวาห์"

"..."

"หรือถ้ากล้าก็ลองดู รับรองเลยว่าพวกผู้ชายของเธอได้ออกไปแค่ร่างไร้วิญญาณแน่ ...” เสียงลอดไรฟันถูกเปล่งออกมาอย่างคนที่พยายามข่มอารมณ์เดือดดาล

"ไม่ยุติธรรมนี่!"

"อย่ามาหาความยุติธรรมที่นี่ แล้วก็ทำตัวให้มันดีๆ หน่อย"

"..."

"และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รถคันนั้นรวมถึงบัตรทุกใบ เราจะไม่มีสิทธิ์แตะต้องมันอีก จนกว่าจะทำตัวให้มีประโยชน์"

“คุณป๋าจะทำแบบนี้กับวีว่าไม่ได้นะ!”

“เราทำตัวเองนะ วีว่า”

“คนบ้าอำนาจ!” ริมฝีปากกระจับเบะใส่อีกฝ่ายไม่ต่างจากเด็กที่ถูกผู้ปกครองขัดใจ แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะสนใจปฏิกิริยานั้น

“ทั้งยังใช้บัตรเปิดห้องนอนโรงแรมตั้งกี่คืน อย่าคิดว่าป๋าไม่รู้ เราไปทำอะไรกันแน่ วีว่า” ครั้นเอ่ยถึงเรื่องนี้สีหน้าและแววตาของเขาดูจริงจังขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า จนวันวิวาห์ถึงกับต้องลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

"คุณป๋าคิดว่าไงล่ะคะ บ้านก็มี แต่กลับไปนอนโรงแรม" อันที่จริงเธอขับรถไม่ไหวแล้วเปิดห้องนอนต่างหาก

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อยากลองของเพื่อต้องการเห็นอาการของเขา หากเอ่ยในทางที่ชวนคิดไปไกล แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่เป็นไปอย่างใจหวังแถมยังย่ำแย่กว่าเดิม

“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ก็เลิกปาร์ตี้ซะ เราเป็นผู้หญิงนะวีว่า” เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสได้ถึงความห่วงใยในน้ำเสียงนั้น จนใบหน้าที่บูดบึ้งในตอนแรกเริ่มคลายลง

“คุณป๋าเป็นห่วงวีว่าเหรอคะ”

เขาไม่ตอบคำถามนั้น แต่กล่าวในสิ่งที่ทำให้ใบหน้าของเธอบูดบึ้งหนักกว่าเดิม

“เดี๋ยวป๋าจะหาคนขับรถให้แล้วกัน”

“คุณป๋าจะทำเหมือนวีว่าเป็นเด็กไม่ได้นะคะ” หญิงสาวรู้ดีว่าการมีคนขับรถส่วนตัวคือการไร้ซึ่งอิสรภาพ เพราะการไปไหนมาไหนย่อมตกอยู่ในสายตาของเขา

“ถ้าคิดว่าตัวเองโตแล้วก็ไปเริ่มงานในโรงแรมซะ”

“ไม่ค่ะ วีว่าไม่อยากทำงานที่นั่น” เธอส่ายหน้ารัวๆ ทันทีเมื่อนึกถึงโรงแรมของเขา

รามิลขมวดคิ้วแล้วจ้องมองอย่างคนที่ไม่เข้าใจ เขาส่งไปเรียนถึงต่างประเทศ ไม่ได้ทำให้เธอโตขึ้นหรือคิดได้เลยอย่างนั้นหรือ?

"แล้วจะทำอะไร ปาร์ตี้ไปวันๆ อย่างที่ทำอยู่นะเหรอ"

“วีว่าจะไปเป็นดีเจค่ะ” เธอประกาศกร้าว แววตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง

“ว่าไงนะ?”

“วีว่าอยากเป็นดีเจค่ะ ในเมื่อใบปริญญาวีว่าก็เอามาให้คุณป๋าแล้ว แถมผลการเรียนยังดีสุดๆ ไปเลย เพราะฉะนั้นคุณป๋าจงภูมิใจเถอะค่ะ แต่วีว่าจะไปเป็นดีเจ”

“…”

“อีกอย่าง พรุ่งนี้วีว่าต้องออกไปสมัครงานตามคลับ ถ้าไม่อวยพรก็ไม่เป็นไรค่ะ ขออย่าขัดขวางวีว่าก็พอ” พูดจบก็หมุนตัวเดินขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปยังห้องของตัวเองด้วยความเร็วแสง จนคนที่ยืนอยู่ถึงกับขบกรามเข้าหากันแน่น

"วีว่า เรายังคุยกันไม่จบ"

"..."

"วีว่า!"

"..."

“คิดว่าจะได้งานง่ายๆ เหรอ ฝันไปเถอะ วันวิวาห์...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel