2 - ลองมั้ย ?

ตอนนี้ฉันกำลังยืนอยู่ที่หน้าห้องของพี่เลย์ ที่นี่เป็นคอนโดนะ ทันทีที่ประตูห้องเปิดออกฉันก็ได้เห็นว่าภายในห้องพี่เลย์นั้นมันรกขนาดไหน

“ที่คอนโดไม่มีแม่บ้านคอยเก็บห้องให้เหรอคะ” ฉันถามอย่างแปลกใจพลางปลายตามองเสื้อผ้าที่พาดไว้อยู่บนโซฟา

“จะทำอะไรก็ทำ จะถามมากทำไม” พี่เลย์บอกอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วโยนมาพาดเอาไว้ที่โซฟารวมๆ กองที่พาดไว้ก่อนหน้า

พอเห็นว่าพี่เลย์ถอดเสื้อออกฉันก็รีบหันหน้าหนีทันที นี่มันครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นผู้ชายคนอื่นเปลือยท่อนบนต่อหน้า มันทำให้ฉันแทบไม่กล้ามองพี่เลย์เลย

“จัดการให้ด้วยแล้วกัน” เสียงของพี่เลย์พูดทิ้งท้าย แล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอน พอเห็นว่าพี่เลย์ไปแล้วฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ฉันเอื้อมมือไปหยิบเสื้อขึ้นมาจากโซฟา ทันใดนั้นพี่เลย์ก็เดินออกมาจากห้องอีกครั้ง ทำให้ฉันรีบหมุนตัวหันหลังให้เขาทันที แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องกลั้นหายใจด้วย คงเป็นเพราะฉันไม่ชินกับการเห็นผู้ชายถอดเสื้อ

“เป็นอะไร…” เสียงของพี่เลย์กระซิบถามใกล้ๆ กับหูของฉันเอามากๆ ทำให้ฉันตกใจรีบหมุนตัวกลับไปมอง

ปรากฎว่าตอนนี้ใบหน้าของฉันกับใบหน้าของพี่เลย์มันอยู่ใกล้กันเอามากๆ ฉันจึงรีบกระโดดหนี แต่!!! ขาเจ้ากรรมมันดันขัดกัน ทำให้ฉันจะล้มหน้าขมำ ดีที่พี่เลย์คว้ามาจับเอวฉันไว้ได้ทันก่อนที่ฉันจะล้มกระแทกพื้น

“ขะ ขอบคุณค่ะ….”

ตอนนี้ฉันอยู่ในท่าที่เหมือนกับท่าเจ้าสาว ตัวฉันเอนไปทางด้านหลังเล็กน้อย แล้วมีพี่เลย์เอาแขนประคองหลังไว้ ตัวของฉันแข็งทื่อ แขนเหยียดตรงเหมือนหุ่นยนต์ ไม่กล้าขยับแม้แต่หายใจยังรู้สึกประหม่า

แบบนี้มันใกล้เกินไปแล้ว…

“ซุ่มซ่ามฉิบ!!”

“ขะ ขอโทษ…”

“พูดคำอื่นไม่เป็น ?” พี่เลย์เลิกคิ้วขึ้นถาม สีหน้าของเขาดูไร้ความรู้สึกมาก

“ปะ ปล่อยไอริสได้แล้วค่ะ”

พี่เลย์ค่อยๆ ปล่อยตัวฉัน ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ฉันจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

ฉันก้มมองตรงพื้นเห็นตะกร้าผ้าวางอยู่ คงเป็นพี่เลย์ที่ยกออกมาว่างให้เมื่อกี้

หลังจากตั้งสติได้ฉันก็เริ่มเก็บผ้าที่พาดไว้บนโซฟาใส่ตะกร้า เก็บได้สามสี่ตัวฉันก็ต้องตกใจ ก่อนจะค่อยๆ หยิบสิ่งที่เห็นตรงหน้าขึ้นมาดู

“สะ เสื้อชั้นใน” ฉันอุทานออกมาเบาๆ ไม่คิดว่าในห้องผู้ชายจะมีของแบบนี้ เป็นของใครกัน

ฉันทำท่าคิด ก่อนจะเบิกตากว้างพร้อมกับอุทานออกมาอีกครั้ง “ระ หรือว่าพี่เลย์จะเป็น ปะ เป็นเกย์”

ฉันรีบวางเสื้อชั้นในลงในตะกร้าทันที ไม่ใช่มีแค่เสื้อชั้นในนะ มีชุดอะไรก็ไม่รู้ เนื้อผ้ามันทั้งบางแถมยังแหวกลึกซะจนฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัว

ฉันรู้จักกับพี่เลย์มาตั้งแต่เด็ก ดูไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นเกย์ ทำเอาฉันตกใจมากๆ

“ทำอะไร!!” เสียงของพี่เลย์ท้วงขึ้น ทำให้ฉันรีบหอบเอาผ้าบนโซฟาใส่ตะกร้าแบบลวกๆ ด้วยความตกใจ

โชคดีที่ตอนนี้พี่เลย์ใส่เสื้อแล้ว

“อะ ไอริสไม่รู้ ไอริสสัญญาจะไม่บอกใคร….” ฉันเผลอพูดออกไปโดยไม่ทันระวังปาก บ้าที่สุดเลย!!

“ไม่รู้ ไม่บอกใคร ?” พี่เลย์ขมวดคิ้วเป็นปมมองฉันด้วยความสงสัย “หมายถึงอะไร ?”

“กะ ก็….” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อถูกคนตรงหน้าคาดคั้นด้วยสายตา “ก็เรื่องที่พี่เลย์เป็นเกย์…”

ฉันเม้มปากแน่น พอเห็นแววตาเกี้ยวกราดของพี่เลย์ก็รีบก้มหน้าลงหลบสายตาทันที

เรื่องแบบนี้ใครเขาให้เอามาพูดกันล่ะไอ้ริสเอ๊ย…

ฉันได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจ ไม่น่าพูดออกไปแบบนั้นเลย น่าจะตอบปฏิเสธไปซะก็จบเรื่อง แบบนี้พี่เลย์คงอายแย่

“ใครบอกเธอ ?” พี่เลย์ถามเสียงเข้ม

“มะ ไม่มีใครบอกค่ะ”

“แล้วเธอเอาอะไรมาพูด!!” พี่เลย์เริ่มถามตะคอกเสียงดังขึ้น

“กะ ก็ไอริสเห็นชุดชั้นในวางอยู่ ตะ ตรงนั้น ถ้าไม่ใช่ของพี่เลย์แล้วจะเป็นของใครล่ะคะ” ฉันตอบออกไปตามความจริง

คำตอบของฉันทำให้พี่เลย์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยท่าทางหัวเสีย “เห็นแค่นั้นก็กล่าวหาว่าเป็นของฉันว่างั้น ?”

“…..”

“ลองกับฉันดูไหม จะได้รู้ว่าฉันเป็นอย่างที่เธอว่าหรือเปล่า”

“ลอง ? ลองอะไรเหรอคะ” ฉันถามด้วยความไม่เข้าใจในคำพูดของพี่เลย์

พี่เลย์กระตุกยิ้มมุมปากแล้วเดินมาใกล้ๆ ทำให้ฉันต้องรีบถอยห่างอัตโนมัติ “ลองทำกับฉันไง…”

“ทำอะไรคะ…” ฉันถามอีกครั้ง ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพี่เลย์กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่

“เวลาผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองทำอะไรกัน ฉันก็หมายความว่าแบบนั้น” พูดจบพี่เลย์ก็ใช้สายตาไล่มองสำรวจตัวฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า

ฉันทำท่าคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “มะ ไม่รู้สิคะ ไอริสว่าก็คงจะนั่งคุยกันล่ะมั้ง…”

คำตอบของฉันทำให้พี่เลย์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ สายตาคมกริบจ้องมองใบหน้าของฉัน ราวกับว่าคำตอบของฉันมันทำให้เขาหงุดหงิดมาก

“ชิท!! เธอนี่มันซื่อบื้อได้โล่จริงๆ”