...วุ่นวายนักจู่ๆ มีพ่อเป็นซุปตาร์...บทที่4.
เหมือนแม่จะรู้ความคิดฉัน “ไม่ต้องห่วงหรอกเอล แม่ไม่มีทางให้พวกลูกๆ อด”
นี่ไงใจแม่ฉัน แม่คือแม่ แม่ที่รักลูก ความคิดของฉันเลยไม่เคยมีเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น มีแค่แม่ก็พอแล้วล่ะ สำหรับฉัน
บทที่4.ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่าง
คืนนั้นฉันคงหลับไปพร้อมกับความวุ่นวายในหัว ฉันโตมากแล้ว ฉันน่าจะหาทางช่วยแม่ได้ ไม่ใช่เป็นแค่ภาระให้แม่อยู่ทุกวันเช่นนี้ ฉันน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระแม่ได้สักทาง แม่จะได้สบายใจ และไม่โทรมมากไปกว่านี้ ฉันนึกถึงหมอนั่น ผู้ชายที่เป็น ‘พ่อ’ ฉัน หากแม่ฉันมีอายุเลขสี่ปลายๆ หมอนั่นอายุก็น่าจะพอๆ กับแม่ฉันนั่นแหละ แต่หน้าตาเขา หากบอกคนรอบตัวว่าแค่ยี่สิบปลายๆ ก็น่าจะมีคนเชื่อ เขาไม่ได้ลำบากเลือดตาแทบกระเด็นเหมือนแม่ฉันนี่ เขามีอาชีพแสนสบาย และมองไม่เห็นความลำบากของเขาเลย
ฉันผุดลุกขึ้นนั่ง เมื่อฝืนข่มตาให้หลับไม่ลง
คงต้องไปค้นหาความจริงบางอย่าง บางทีฉันอาจมีช่องทางช่วยแม่ได้ ฉันไม่ได้นึกอยากมีพ่อเป็นคนดังหรอกนะ สิบกว่าปีมานี่ มีแม่แค่คนเดียวฉันก็พอใจแล้ว แต่...ผู้ชายคนนั้นควรรู้ว่ายังมีฉันอีกคน ฉันที่เป็นส่วนหนึ่งของเขา สายเลือดที่บังเอิญแบ่งมาจากเขาเสี้ยวหนึ่ง
โทรศัพท์ของแม่ ราคาถูกและเก่าเอาการ
ฉันไม่มีโทรศัพท์ใช้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเทคโนโลยีพวกนี้ฉันจะไม่รู้จัก ฉันจัดการสมัครเน็ต และกะว่าเช้าจะเติมเงินในโทรศัพท์คืนให้แม่เท่าเดิม การหาข้อมูลผู้ชายคนนั้น ทางเดียวที่สะดวกสุดคือค้นหาในโลกอินเทอร์เน็ต เขาเป็นซุปเปอร์สตาร์นี่นะ
ฉันเดาส่งๆ เพราะไม่รู้จักเขาเลย ฉันรู้แค่หน้าตาเขาเป็นอย่างไร และเขามีอาชีพอะไร แต่คนดังก็คือคนดังนั่นแหละ ข่าวของเขามีไม่น้อยเลย ในที่สุดฉันก็ได้รู้จักเขา ‘เดวิด เหลียง’ ฉันว่าแล้ว ผู้ชายคนนี้ต้องไม่ใช่คนไทยร้อยเปอร์เซ็น เขาเป็นลูกเสี้ยวที่เกิดและโตที่ประเทศไทย โชคดีที่เขาเกิดมาหน้าตาดี ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจับพลัดจับพลูอะไร ถึงเข้าไปอยู่ในวงการบันเทิงได้
เขาเริ่มต้นในเส้นทางนั้น ตอนช่วงที่ฉันเกิดมาพอดี
วันนั้นคงเป็นวันที่เขาบอกลาแม่ฉันสินะ เขาจากไปโดยไม่รู้ว่ามีฉันอยู่
ฉันรู้จักบ้านเขาผ่านการท่องโซเซียล ฉันหาปากกากับกระดาษมาจดที่อยู่ และวางแผนในใจคร่าวๆ ฉันต้องหาทางออกไปเจอเขา
บางทีฉันอาจมีช่องทางช่วยแม่ได้
ฉันไม่คิดจะบอกเขาหรอก ฉันแค่จะใช้เขา เพื่อหาทางช่วยแม่...
นิสัยแบบนี้ฉันติดมาจากใครไม่รู้ แต่คงไม่น่าใช่แม่ แม่ฉันไม่ซับซ้อน แม่ดูออกง่ายๆ ไม่มีเล่ห์กลอะไรเลย แม่สมกับการเป็นแม่พระของฉันจริงๆ
เช้าวันต่อมา ฉันตื่นเวลาเดิม และพยายามไม่แสดงพิรุธออกมาให้แม่เห็น จนกระทั่งความวุ่นวายตอนเช้าจบลง “แม่ วันนี้เอลออกไปข้างนอกนะคะ” ฉันซึ่งไม่เคยออกไปไหน ถ้าไม่ใช่ธุระสำคัญ
แม่เลยไว้ใจฉัน แม่ไม่ถามสักคำว่าฉันจะไปไหน
ฉันสะพายกระเป๋าใบเก่ง ย่ามผ้าที่แม่เย็บให้ มันมีขนาดใหญ่และสะดวกสำหรับการพกของเยอะๆ ตอนเรียนฉันใช้ประจำ และคนรอบตัวพากันหัวเราะขบขำ เมื่อมันคือย่ามผ้า ไม่ได้มีรูปแบบทันสมัย ฉันไม่ชอบตามเทรนนี่ ของใช้ฉันทุกชิ้นต้องใช้ได้จริง
เสียงหัวเราะเหล่านั้นไม่เคยทำให้ฉันสะเทือน
ตราบใดที่เกรดของฉันยังล้ำหน้าทุกๆ คนอยู่
คนเรียนเก่งแบบฉันเลยไม่จำเป็นต้องแคร์เสียงหัวเราะของใคร ฉันผู้ซึ่งเป็นตัวแทนของโรงเรียน ไม่ว่าจะการแข่งขันทางวิชาการ หรือการแสดง ฉันเพิ่งเข้าใจตัวเองวันนี้ สายเลือดนักแสดงที่เข้มข้นในตัวฉันมาจากผู้ชายคนนั้นนั่นเอง
ฉันเป็นคนสวย ฉันรู้ตัวดีมาตลอด แต่ฉันก็ไม่ชอบการตกเป็นเป้าสายตา
ชุดเห่ยๆ ไม่เหมาะกับฉันเลยกลายเป็นเครื่องอำพรางชั้นดี
แต่วันนี้ไม่ใช่วันเก่าๆ ฉันอยากเป็นเป้าสายตาเพื่อดึงความสนใจของใครบางคน
“ว้าว...พอเอลแต่งตัวแบบนี้สวยจนแม่จำแทบไม่ได้” ตอนที่เดินออกจากบ้านแม่จึงเป็นคนแรกที่แซวฉัน
“ทุกวันเอลไม่สวยเหรอคะแม่” ฉันไม่ได้รู้สึกรู้สาสักนิด