ตอนที่ 1 อี้ซาน
Blood Lover วุ่นรักเทพบุตรแวมไพร์
โลกนี้มันมีอะไรที่คนไม่รู้อีกมาก มันมีทั้งเผ่าพันธ์มนุษย์และเผ่าพันที่แตกต่าง ซึ่งอยู่ปะปนกันไปหมด จนบางทีก็แยกกันไม่ออกว่าที่คุยอยู่นั่นใช่มนุษย์รึเปล่า
" แม่จะไปไหนอ่ะ แม่ แม่ อี้ถามว่าแม่จะไปไหน แม่ แม่ กลับมา แม่!!!!!!"
อี้ซานผุดลุกออกจากเตียงของเขาด้วยเหงื่อที่ท่วมตัวกรงเล็บที่มือและเขี้ยวที่งอกออกมาจากปากเตรียมพร้อมจัดการผู้บุกรุก เขาหายใจหอบ ราวกับว่าไปวิ่งรอบสนามมาเป็น 100 รอบ นี่เขาแค่หลับตาลงเท่านั้นเขากลับเห็นแม่ที่เดินออกจากบ้านและทิ้งเขาไปเมื่อตอนเขายังเล็กแค่เขาหลับตาเท่านั้นเอง เขากลับเห็นภาพ เมื่อ 200 ปีก่อน
ผมเหงื่อแตกเต็มไปหมด หลังจากที่ผมเห็นภาพของแม่อีกแล้วหลังจากลืมตาขึ้นมา ผมถึงไม่อยากหลับไง เพราะทุกครั้งภาพที่แม่ทิ้งผมไปจะปรากฏขึ้นเสมอ
"นายน้อย นายน้อยเป็นอะไรรึเปล่าครับ นายน้อย"เสียง อาตงลูกน้องคนสนิทของผม เคาะประตูเรียกผมอย่างเป็นห่วง
" ยุ่งน่า แกอย่ามายุ่งกับฉัน ออกไป" ผมตะโกนลั่นห้องเลย ผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผม ถ้าผมไม่เรียกหรือต้องการเอง
" ครับนายน้อย" เสียงอาตงเดินออกไปจากหน้าห้อง แต่ไปหยุดที่บันได ผมรู้ครับว่า อาตงมันเป็นห่วงผม แต่ผมไม่ต้องการไง ผมไม่ต้องใครให้มาเป็นห่วงผมทั้งนั้น
" ถ้าแกไม่ไป ฉันจะหักคอแกซะ" พอผมพูดจบเสียงฝีเท้าของอาตงก็เดินจากไป
ผมจึงเดินมามองตัวเองที่หน้ากระจก มันทำให้ผมนึกภาพสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก ผมเป็นเด็กที่เกิดจากแวมไพร์ และหมาป่า เป็นการผสมพันธ์ที่เกิดจากความรักที่ข้ามสาพันธ์ข้ามสปีชีส์ หลังจากที่ผมเกิดได้ 1 เดือน ผมก็เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไป 6 เดือนผมก็โตเท่าเด็กอายุ 13 แล้ว แล้วหลังจากนั้น แม่ผม ก็เดินจากผมไป ผมไม่ได้ข่าวแม่อีกเลย แม้ผมจะพยายามตามหาท่านแค่ไหนก็ไม่เคยได้ข่าวคราวท่านเลย ใช่ครับ ผมเป็นลูกครึ่งแวมไพร์ครึ่งหมาป่า ผมมีความแตกต่างจากแวมไพร์คนอื่นผมหลับได้เหมือนมนุษย์ ผมมีเหงื่อออกเหมือนมนุษย์ และผม กินอาหารได้เหมือนมนุษย์ ผมมีความคล้ายมนุษย์แทบจะทุกอย่าง แต่ในความเหมือนมนุษย์ผมก็มีความเป็นแวมไพร์ทุกอย่างเช่นกัน
ผมมีชีวิตอยู่มา 200 ปีแล้ว โดยทุกยุคทุกสมัยผมต้องพยายามปรับตัวตลอด ส่วนพ่อผมก็เปลี่ยนอาชีพมาทุกอย่างแล้วเช่นกัน จนมาถึงยุคปัจจุบัน ที่พ่อทำอาชีพ เจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเมกา และเกาหลี ผมที่เป็นลูกชายคนเดียว จึงถูกพ่อตามใจจนกลายเป็นเด็ก อารมณ์ร้อน ถ้าไม่ได้อย่างใจ ผมก็อาละวาดเลยครับ ผมไม่สนหน้าไหนทั้งนั้นแหละ และอีกอาชีพของผมคือผมเป็นหมอ ว่างๆ ผมก็เอาเลือดของคนไข้ออกมากิน แต่ต้องเป็นเลือดของพวกคนชั่วเท่านั้นนะ เพราะผมคิดว่าพวกมันอยู่ไปก็ไร้ซึ่งประโยชน์
และเหตุการณ์ที่ผมไปไทย ผมก็ได้ช่วยเหลือ ไอ้ขุนกับผัวมัน(จากเรื่องรักมั้ยคับพี่ชายรูมเมท)โดยการ ใช้เลือดแวมไพร์ที่สกัดออกมาเป็นเซรุ่ม ช่วยชีวิตมัน 2 คนครับ มันจะกลายเป็นมนุษย์ที่มีพลังเยอะ แผลรักษาตัวเอง เหมือนกับจะเป็นอมตะ แต่ไม่ใช่ มันมีหนทางที่จะทำให้พวกมันตายอยู่ และเวลาของพวกมันก็เดินตามอายุไขปกติ มันก็ตายเหมือนคนปกติทั่วไปนี่แหละครับ แต่สาเหตุการตาย คือมันจะหัวใจวายตายเท่านั้นเมื่อถึงเวลา
ผมจัดการแต่งตัว ก่อนจะเดินลงมาข้างล่าง ผมก็เจอเข้ากับพ่อที่กำลังนั่งดื่มเลือดที่เตรียมวางไว้บนโต๊ะ และมีสเต็กเนื้อของผมพร้อมเลือดด้วยเหมือนกัน และพอพ่อเห็นผม ท่านก็เอ่ยทักด้วยความดีใจ
" กลับมาทำไมไม่ไปหาพ่อละอี้ซาน " พ่อหันมามองผม สายตาพ่อจะอ่อนโยนเสมอเมื่อท่านพูดกับผม
"ผมง่วงครับ"ผมตอบพ่อสั้นๆ เพราะขี้เกียจพูดมาก ซึ่งพ่อจะรู้ว่านิสัยผมเป็นแบบนี้ไม่ได้โกรธท่านหรืออะไร แต่มันเป็นของมันเอง
" ดีละพักผ่อนเยอะๆ แล้วที่พ่อให้ไปหานักสู้สาวคนนั้น ได้เรื่องมั้ย" พ่อยกเลือดขึ้นมาดื่มก่อนจะถามผมอย่างอารมณ์ดี
"ได้ครับ แต่ผมถามพ่ออย่างนึง พ่ออยากรู้จักเธอไปทำไม" ผมพูดขึ้นในขณะที่ค่อยๆตัดเนื้อกึ่งสุกกึ่งดิบเข้าปาก
" มันดีต่อแวมไพร์อย่างพวกเราไม่ใช่เหรอถ้าได้เธอมา เพราะพวกที่สู้กับเธอบอกว่า พอเธอจับตัวพวกมันก็อ่อนระทวย ไร้เรี่ยวแรงทันที ถ้าได้เธอมาอยู่กับเรา ไม่ว่าแวมไพร์เผ่าไหน เราก็ไม่ต้องกลัว ถูกมั้ย"พ่อสาธยายทุกอย่างให้ผมฟัง ก่อนที่ท่านจะยิ้มให้ผม
" ไร้สาระ" ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะยื่นรูปและที่อยู่ของเธอให้ท่าน แล้วผมก็จัดการอาหารตรงหน้าต่อไป จะว่าไปผู้หญิงคนนั้น น้องไอ้ขุนนะ เธออาจจะช่วยเผ่าพงค์ของพวกเราได้อย่างที่พ่อบอกก็จริง แต่เธอก็น่ากลัวเช่นกันหลังจากที่เธอได้แตะตัวผมครั้งเมื่อเจอกันครั้งแรก มันก็ทำให้ผมได้รู้ว่าเธอ คือผู้หญิงที่เป็นตัวอันตรายกับแวมไพร์ผมไม่ชอบเธอเอามากๆเลยจริงๆนะ อาจคงจะเป็นเพราะ .... ช่างมันเถอะ