บทที่2 ซาตาน
"ตื่น..จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน" เสียงตวาดดังลั่น และแรงเขย่าอย่างรุนแรงทำให้พระพายที่เพิ่งผล็อยหลับไปเมื่อตีสามเพราะมัวแต่นอนร้องไห้สะดุ้งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยอาการตื่นตระหนก
"คะ..คุณอลัน" รีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งอัตโนมัติเมื่อปรือตาขึ้นมาเห็นชายหนุ่มที่ยืนทำหน้ายักษ์จับจ้องเธอด้วยแววตาเกรี้ยวกราดอยู่ข้างเตียง
เขาหายไปตั้งแต่เมื่อคืนเธอคิดว่าน่าจะหายไปหลาย ๆ วันแบบในนิยายที่เคยอ่านเสียอีกไม่คิดว่าตื่นมาก็ต้องเห็นหน้าเขาแล้ว
จากที่อาการง่วงงุนก็หายเป็นปลิดทิ้ง จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่เข้าเพราะนี่ก็เพิ่งหกโมงเช้าเขาจะรีบปลุกเธอทำไมกัน "คุณอลันมีอะไรคะ"
"อย่าคิดว่าแต่งงานกับฉันแล้วจะได้อยู่อย่างสุขสบายนั่งชี้นิ้วสั่งเป็นคุณนายพระพาย ลุกขึ้นไปทำอาหารเช้าให้ฉันเดี๋ยวนี้" อลันออกคำสั่งอย่างเผด็จการพลางเอื้อมมือไปบีบข้อมือเล็กแรง ๆ "นับตั้งแต่วันนี้ไปเธอต้องทำทุกอย่างในบ้านด้วยตัวเองเพราะที่นี่ไม่มีแม่บ้านค่อยอำนวยความสะดวกสบายให้เธอ"
แรงบีบจากมือหนาสร้างความเจ็บให้พระพายไม่น้อยจนน้ำสีใสเอ่อคลอดวงตา พยายามบิดข้อมือออกจากบีบรัดแต่ก็เปล่าประโยชน์
เธอได้แต่กัดฟันข่มความเจ็บไว้ไม่คิดโต้เพราะรู้ดีว่าพูดอะไรไปก็เปลืองน้ำลายเปล่า ทว่าในใจก็อดสงสัยไม่ได้
เมื่อวานเธอเห็นว่ามีแม่บ้านสองสามคน แต่ผ่านไปเพียงชั่วข้ามคืนแม่บ้านกลับไม่มีถ้าให้เดาเขาคงไล่ทุกคนไป แล้วให้เธอทำทุกอย่างเองเพราะต้องการทรมานเธอเหมือนที่ลั่นวาจาเอาไว้เมื่อคืน
"ปะ..ปล่อยมือพายสิคะ พายจะไปทำอาหารให้" เสียงสั่นเครือจากความเจ็บร้องท้วงเบา ๆ เมื่อพยายามบิดข้อมือออกจากการจับกุมของมือหนาเท่าไรก็ไม่เป็นผลจึงยกคำสั่งของเขามาเป็นข้ออ้าง
อีกคนยอมคลายมือออกแต่โดยดีเพราะเขาก็ไม่ได้พิศวาสหรืออยากแตะต้องตัวเธอเหมือนกัน ทันทีที่มือได้รับอิสระพระพายก็ผลุนผลันลงจากเตียงเดินออกจากห้องด้วยความเร็ว เธอเองก็ไม่ได้อยากอยู่ใกล้คนอันตรายอย่างเขาเท่าไรนัก
เธอเดินเข้ามาล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำสำหรับแขกที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน เมื่อเสร็จก็เดินเข้าไปเปิดตู้เย็นในครัวดูว่าพอมีอะไรจะทำอาหารได้บ้าง แต่ก็พบแค่ตู้เย็นว่างเปล่ามีเพียงน้ำอยู่ 2-3 ขวด
ลมหายใจหนัก ๆ ถูกพ่นออกจากจมูกโด่งรั้นพรืดใหญ่ เธอลืมคิดไปเสียสนิทเลยว่าเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ซึ่งเป็นเรือนหอที่พ่อแม่บุตรธรรมสร้างให้เธอกับชายหนุ่มเป็นของขวัญวันแต่งงานเมื่อวาน ของใช้ทุกอย่างภายในบ้านจึงยังไม่มีมันคงเป็นหน้าที่เธอที่ต้องจัดการทุกอย่างภายในบ้านสินะเพราะแม่บ้านก็ไม่มีสักคน
"จะยืนบื้ออีกนานไหม" ระหว่างที่พระพายกำลังยืนถอนหายใจซ้ำ ๆ เสียงทุ้มอันทรงพลังก็ดังขึ้นทางด้านหลังทำเอาเธอถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ก่อนหันหน้าไปตอบกลับเจ้าของประโยคแสนร้ายกาจด้วยความไม่เต็มใจมากนัก "ในครัวไม่มีอาหารสด ไม่มีเครื่องปรุงอะไรเลยค่ะคงต้องออกไปซื้อก่อน"
"รู้แล้วก็ไปซื้อมาสิ" อลันเอ่ยเสียงดุกอดอกจับจ้องร่างบางตรงหน้าด้วยแววตาวาวโรจน์ ความจริงเขารู้อยู่แล้วว่าในบ้านไม่มีของสด หรืออะไรที่พอทำอาหารได้เลย
ส่วนเรื่องแม่บ้านทั้งสามคนที่บิดาส่งให้มารับใช้เขาก็สั่งให้พวกเธอกลับไปนอนกินเงินเดือนอยู่ที่บ้านเฉย ๆ เพราะต้องการให้หญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทางนิตินัยทำทุกอย่างเองทั้งหมด เขาจะทรมานเธอทุกวิถีทางที่สามารถทำได้
พระพายเพียงมองใบหน้าคมคายแวบหนึ่งแล้วเดินเลี่ยงออกไปไม่ได้ตอบอะไรกลับ ไม่อยากเสวนากับคนอัธพาลแบบเขาให้เสียเวลา แต่เหมือนอีกคนจะไม่ยอมเลิกราเดินตามมาสาดคำพูดเสีย ๆ ใส่เธออีก "จัดการเอาหมอน เอาผ้าห่ม แล้วก็ผ้าปูที่นอนที่เธอใช้เมื่อคืนออกไปทิ้งด้วยนะฉันรังเกียจ ของทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอเอาออกไปให้หมดเพราะฉันจะนอนห้องนั้น ส่วนเธอจะไปนอนที่ไหนก็เชิญ"
ร่างบางได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจพยายามอดทนอดกลั้นอย่างมากไม่ให้ตัวเองหันไปสวนกลับร่างสูง หากเธอน่ารังเกียจเขามันก็น่ารังเกียจยิ่งกว่าเธอเสียอีกรังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าเขาเป็นเทพบุตรแต่สำหรับเธอเขาคือซาตานต่างหาก
"ค่ะ" เธอเปล่งเสียงตอบทั้งที่ยังยืนหันหลัง ว่าจบก็เดินดุ่ม ๆ ขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนจัดการเก็บทุกอย่างตามที่เขาสั่งโดยไม่ลังเล มันเป็นการดีสำหรับเธอเสียอีกที่ไม่ต้องสุ่มเสี่ยง และทนอยู่ร่วมห้องกับเขาให้อึดอัดใจ
เธอเลือกหอบสัมภาระตัวเองมาไว้ยังห้องริมสุดถัดจากห้องเดิมสองห้อง หลังจากเก็บของให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยก็อาบน้ำแต่งตัวเรียกแกร็บคาร์มารับเพื่อกลับไปเอารถของเธอที่บ้านพ่อแม่บุตรธรรม แล้วค่อยไปซื้อของเข้าบ้านเพราะสะดวกกว่าเรียกรถแท็กซี่หรือแกร็บคาร์