3
“คิดจะฟ้องอะไรพี่ชายตัวเองอีกล่ะ” เสียงประชดประชันนั้นจากสามี ทำให้ฟ้าลดาเม้มปากเล็กน้อย เธอกับเขาคงพูดกันดี ๆ ไม่ได้อีกแล้ว
“เปล่าค่ะ ฟ้าไม่ได้ฟ้องอะไร” เธอหันมาประจันหน้ากับเขา เห็นเพียงแค่ใบหน้าบึ้งตึง รำคาญและรังเกียจ!
“มื้อกลางวันเกริกทำอะไรคะ เดี๋ยวให้แม่บ้านทำให้กิน” แต่งงานกันแล้วเธอก็อยากที่จะประคับประคองชีวิตครอบครัวไปให้ตลอดรอดฝั่ง
อย่างแรกก็คือไม่อยากให้พี่ชายเสียใจ อย่างที่สองไม่อยากให้ใครมาสมน้ำหน้า
“คนแบบคุณนี่มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เคยทำอะไรเองเป็นบ้าง แค่กับข้าวยังทำไม่เป็น น่าสมเพชจริง ๆ”
“ไม่ว่าฟ้าจะทำอะไรก็คงไม่มีอะไรดีเลยใช่ไหมคะ”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว”
“นั่นเกริกจะไปไหนคะ”
“ไปทำงานยังไงล่ะ หาเงินใช้หนี้ กอบกู้ครอบครัวตัวเอง ผมไม่ใช่ผู้ชายหน้าตัวเมีย เกาะชายกระโปรงผู้หญิงหรอกนะ”
“ถ้าครอบครัวของเกริกเป็นหนี้พี่ไฟจริง ฟ้าจะพูดกับพี่ไฟให้ยกหนี้ให้ เกริกไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ” เธอรีบบอกเขาด้วยรอยยิ้ม สำหรับเธอแล้วไม่ว่าจะขออะไร พี่ชายของเธอไม่ทางปฏิเสธแน่ ๆ
“อย่ามายุ่งกับผม ผมแต่งงานเป็นผัวคุณแล้วก็คงจะพอแค่นี้สำหรับเรา”
“ไม่รักฟ้าแล้วมาแต่งงานกับฟ้าทำไม” ฟ้าลดาเอ่ยถามออกไป คนที่กำลังจะเดินหนีชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันมามองด้วยใบหน้ากระด้าง
“ก็ถ้าผมไม่มีความสุข ก็อย่าหวังเลยว่าคุณจะมีความสุข เมื่อก่อนคุณทำเรื่องเลวร้ายอะไรเอาไว้บ้างผมจำได้หมด โดยเฉพาะเรื่องเมนิลา” เขามองเธออย่างรังเกียจ ก่อนจะเดินจากไปไม่เหลียวหลัง
ฟ้าลดานั่งเขี่ยอาหารไปมาอยู่คนเดียวเพราะไร้เงาสามี เกริกขังตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน เขากำลังเล่นหุ้นตัวหนึ่งอยู่ ช้อนซื้อและพอราคาขึ้นก็ขาย เธอไม่ค่อยรู้หรอกว่าเขาเล่นหุ้นกันยังไง ไม่รู้จักวิธีการทำงานเสียด้วยซ้ำ รู้อย่างเดียวคือใช้เงินไปวัน ๆ เพราะพี่ชายเลี้ยงมาแบบนี้
เธอไม่กล้าเข้าไปรบกวนเขา ได้แต่แอบดู เกริกออกมาจากห้องทำงานด้วยสภาพที่ค่อนข้างโทรม แต่สีหน้าของเขายิ้มแย้ม
“เกริกทำงานหนักไปหรือเปล่าคะ กินนอนอยู่แต่ในห้องทำงาน อาบน้ำพักผ่อนก่อนไหมคะ เดี๋ยวฟ้าจะนวดตัวให้” ฟ้าลดาอยากเอาใจสามี เมื่อเห็นว่าเขาออกจากห้องทำงานได้เสียที
เขาเดินผ่านเธอไปเหมือนอากาศธาตุ แต่เขาไปอาบน้ำจริง ๆ เพราะคงจะเหนื่อยล้ามาหลายวัน เธอรีบจัดเสื้อผ้าให้เขาอย่างเอาใจ ยิ้มกว้างเมื่อคิดว่าเขาต้องชอบเสื้อผ้าที่เธอจัดการให้
ร่างสูงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ออกมาโดยการนุ่งผ้าเช็ดตัวแค่เพียงผืนเดียว หยดน้ำเกาะพราวไปทั่วเนื้อตัวของเขา ทำให้เธอมองเห็นผิวเรียบตึงและกล้ามเนื้อแข็งแรงของเขาอย่างชัดเจน
“เกริกคะ ฟ้าเตรียมเสื้อผ้าให้คุณแล้วนะคะ” เธอหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาให้เขาดูด้วยรอยยิ้ม แต่เกริกเดินผ่านเลยไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบเสื้อยืดกับกางเกงยีนตัวเก่งออกมาสวมใส่
“เกริกไม่ใส่เสื้อผ้าที่ฟ้าเตรียมให้เหรอคะ ชุดนี้ฟ้าซื้อเองกับมือเลยนะคะ”
“เสื้อผ้าราคาแพงขนาดนี้ผมใส่ไม่ได้หรอก มันไม่เหมาะกับยาจกอย่างผม” เขาสวมแค่เสื้อยืดและกางเกงยีนตัวเก่าที่ชอบ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างเฉยชา ฟ้าลดามองไปอย่างเสียใจ รู้สึกปวดแปลบในอก จนใบหน้าสวยหงอยไปถนัดตา
เขาเข้าไปจัดการทำอาหารด้วยตัวเอง เธอจึงรีบอาสา
“ให้ฟ้าช่วยทำไหมคะ ฟ้าก็ยังไม่ได้ทานมื้อกลางวันเหมือนกัน” เธอคิดว่าถ้าได้ทำอาหารกับเขาอาจจะกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสามีภรรยาได้บ้าง จึงโบกไม้โบกมือให้แม่บ้านออกไปก่อน
“คนอย่างเธอทำอาหารเป็นด้วยเหรอ” ตั้งแต่รู้จักกันมา เขาเองก็ไม่เคยเห็นว่าเธอจะทำอาหารอะไรเป็น นอกจากออกไปกินอาหารร้านข้างนอก กับสั่งอาหารมากินที่บ้าน
“ฟ้าจะหัดทำค่ะ” เธอรีบยิ้มให้เขา ฟ้าลดาสัญญากับตัวเองว่าต่อไปเธอจะหัดทำอะไรด้วยตัวเอง
เธอเห็นเขาล้างผักและทำท่าจะหั่นจึงรีบอาสาจะช่วยทำ
“มาค่ะฟ้าช่วยหั่น” เธอรีบเอ่ยบอกเขา จัดการดึงไปหั่นเองจนเกริกนึกรำคาญ แต่เขาก็ปล่อยให้เธอทำ
“โอ๊ย!” ฟ้าลดาร้องเพราะมีดบาดมือ เกริกมองแล้วทำหน้ารำคาญหนักกว่าเดิม
“คนแบบคุณนี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ ไปหายาใส่เถอะ ผมทำเอง” เขาไล่และจัดการหั่นผักเสียเอง ฟ้าลดาใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ เดินออกมาข้างนอกเพื่อจะหาอุปกรณ์ทำแผล แต่เธอซุ่มซ่ามตกกระจัดกระจายไปหมด
เธอได้ยินเสียงรำคาญของเขา ก่อนที่เกริกจะคว้ามือของเธอไปกุมเอาไว้ แล้วเริ่มทำแผลให้
“โอ๊ย!” เธอร้องด้วยความเจ็บ ใบหน้าเหยเก เขาก็ทำหน้ารำคาญดังเดิม แต่ก็ยังทำแผลให้เธอ เธอมองเขาแล้วยิ้ม อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นห่วงเธออยู่มาก
เขาทำแผลเสร็จก็เดินไปทำอาหารต่อ เธอเลยไปยืนเก้ ๆ กัง ๆ มองเขาทำอาหารอยู่ในห้องครัว
เขาทำอาหารง่าย ๆ เป็นผัดผักรวมกับกุ้งสด ไข่เจียวหมูสับและปลาทอดกระเทียม
เธอเห็นเขากำลังจะกินข้าวจึงไปถือจานมานั่งลงใกล้ ๆ เพื่อจะกินกับเขาด้วย
“ฟ้าขอกินข้าวด้วยคนนะคะ” เขาไม่ได้พูดว่าอะไร เธอก็เลยตักข้าวนั่งกินกับเขาเงียบ ๆ
แม้จะเป็นกับข้าวง่าย ๆ แค่ไข่เจียว ผัดผัก ปลาทอดแต่มันกลับอร่อยใช้ได้ เธอเลยกินข้าวได้เยอะขึ้นกว่ามื้อก่อนหน้านี้
“เดี๋ยวฟ้าช่วยล้างนะคะ” เธอรีบอาสา ไม่สนใจมือที่เจ็บของตัวเอง เขาไม่ตอบแต่จัดการถูจานแล้วล้างน้ำจนสะอาด เธอยืนมองอยู่แป๊บหนึ่ง ก่อนจะดึงจานไปช่วยล้าง แต่ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงจานที่หล่นตกพื้นก็ดังขึ้น
เพล้ง!!!
“ซุ่มซ่ามจริงเชียว ถ้าคุณไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับชีวิตคนอื่นก็กรุณาอย่าเพิ่มภาระจะได้ไหม”
“ขอโทษค่ะ เดี๋ยวฟ้าช่วยเก็บ อุ๊ย!” เธอรีบเก็บจานที่แตก และเศษกระเบื้องก็บาดมือ
“ผมเหลือเชื่อกับคุณจริง ๆ” เขาทำเสียงในลำคอ ก่อนจะตวาดลั่น
“ถอยไปไกล ๆ เดี๋ยวก็เหยียบเศษกระเบื้องอีก” เขาไปหาไม้กวาดมาโกยเศษจาน เพราะไม่อยากให้ใครมาเหยียบ ในขณะที่ฟ้าลดานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“จะยืนให้เลือดไหลหมดตัวเลยหรือไง รีบไปทำแผลสิ” เขาตวาดลั่นอีกรอบ ฟ้าลดาก็สะดุ้งกลัวจนหัวหด
เธอรีบวิ่งร้องไห้ออกมา แม่บ้านดูแลบ้านมาเห็นเข้าจึงรีบทำแผลให้
“อย่าร้องนะคุณฟ้า โถ... คงเจ็บมาก”
“ฟ้าไร้ประโยชน์มากเหรอคะ” ฟ้าลดาเอ่ยถามเมตตา แม่บ้านที่ดูแลบ้านพักที่ไร่ให้พี่ชาย
“ทำไมถามแบบนั้นล่ะคะ” เมตตาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ฟ้าลดาสะอื้นพลางปาดน้ำตาทิ้ง
“เสร็จแล้วค่ะ ระวังอย่าให้โดนน้ำนะคะ เดี๋ยวแผลจะหายช้า”
“ขอบใจจ้ะ” ฟ้าลดาเอ่ยขึ้น เมตตาจึงเดินเข้าไปในครัว เธอได้ยินนางคุยกับเกริกสองสามประโยคก่อนที่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้านพักของตัวเอง