บท
ตั้งค่า

๒.๒ เล่ห์ร้ายจอมเผด็จการ

ดวงตาเรียวหวานจดจ้องมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกวาบหวามเกินจะบรรยาย อาการซ่านสยิวขมวดเกร็งขึ้นในท้องน้อยและแล่นพล่านไปทั่วทุกอณูกายของเธออย่างรุนแรงจนเกือบหลุดเสียงครางออกมา แต่ก่อนที่รดาดาวจะขายหน้าเอเดนก็หยุดการกระทำของเขาเสียก่อน

“คราวนี้รู้แล้วว่าอร่อยและปลอดภัยแค่ไหน” เสียงของเพลย์บอยตัวพ่อดังขึ้นหลังจากเลาะเล็มเอาความหวานออกจากนิ้วนุ่มจนหมดทุกหยาดหยด

“ถ้าอย่างนั้นนิ่มกลับได้แล้วใช่ไหมคะ”

“ยัง”

“คุณต้องการอะไรอีกคะ”

“อ้าปาก ผมอยากให้คุณชิมขนมของตัวเองบ้าง” พูดจบเอเดนก็เอื้อมมือไปหยิบลูกชุบขึ้นมาจ่อที่ปากเล็กๆ ของเธอ

สาวน้อยคิดว่าเขาต้องบ้าแน่ๆ ที่ทำแบบนั้น หัวใจของเธอยังเต้นผิดจังหวะอยู่เลยจากที่ป้อนขนมให้เขาเมื่อสักครู่ แล้วตอนนี้เขาจะบังคับให้เธอกินขนมโดยเขาเป็นคนป้อน คนเจ้าเล่ห์ต้องอยากให้เธอหัวใจวายตายแน่ๆ ถึงได้แกล้งกันเช่นนี้

“คุณไม่ต้อง...”

รดาดาวตั้งใจจะพูดว่าเขาไม่ต้องป้อนเธอก็ได้ แต่พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด เพราะเขายัดขนมชิ้นนั้นใส่ปากของเธอเสร็จสรรพ ทำให้สาวน้อยจำต้องเคี้ยวขนมฝีมือตัวเองตามที่ถูกบังคับ

เอเดนมองผลงานตัวเองอย่างพอใจ ก่อนจะคลี่ยิ้มอวดฟันขาวสะอาดเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบชวนมองมากที่สุดในความรู้สึกของรดาดาว เธอไม่อยากหวั่นไหว แต่มันก็เป็นเรื่องยากเหลือเกิน ในเมื่อผู้ชายคนนี้ทำอะไรก็ดูมีเสน่ห์ไปหมด

“อร่อยหรือเปล่า” เขาถามเมื่อเธอกลืนขนมคำนั้นลงคอเรียบร้อยแล้ว

รดาดาวไม่ตอบ ทำได้เพียงแค่พยักหน้าหงึกๆ อย่างเขินอายไปหมด

“ผมต้องการความเท่าเทียม”

“เท่าเทียมอะไรคะ”

“เมื่อกี้ผมชิมความหวานบนนิ้วของคุณ ผมอยากให้คุณทำแบบเดียวกัน ใช้ปากของคุณจัดการกับน้ำตาลบนนิ้วของผมเบบี๋”

เขาทำเสียงเหมือนออดอ้อนอีกแล้ว โอย...รดาดาวรู้สึกเหมือนตัวตนของเธอกำลังจะละลายคล้ายกับช็อกโกแล็ตที่ถูกวางไว้ใกล้เตาหลอมยังไงยังงั้น และที่สำคัญเขากำลังขอให้เธอทำในสิ่งที่น่าอายที่สุด

“เดี๋ยวนิ่มใช้ทิชชูเช็ดให้นะคะ” สาวน้อยหาทางออกให้ตัวเอง

“ผมไม่ต้องการทิชชู แต่ผมต้องการปากของคุณ อย่าขัดใจผมรดาดาว”

“เอ่อ...” คนถูกบังคับได้แต่นั่งหน้าแดงแจ๋

“ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะไม่อนุญาตให้กลับบ้าน” เขาเริ่มขู่ด้วยเสียงเข้มขึ้น

“แต่คุณไม่มีสิทธิ์กักตัวนิ่มนะคะ”

“เลือกเอาว่าจะยอมตามใจผม หรือขัดใจผมแล้วโดนลงโทษด้วยการถูกกอดและจูบแทน” คนเอาแต่ใจยื่นคำขาด ดวงตาสีฟ้าจ้องเธอเป๋งเป็นประกายวิบวับดุจเสือร้ายเห็นเหยื่ออันโอชะ

แพขนตางอนยาวได้แต่กะพริบปริบๆ เพราะไม่ว่าจะเลือกอย่างไหน มันก็ล้วนแต่น่าอายด้วยกันทั้งสิ้น แต่ถ้าไม่ทำตามใจเขา เอเดนคงจะไม่ยอมปล่อยตัวเธอกลับและต้องรังแกเธออย่างที่เขาขู่แน่ๆ ดูตาคมๆ ของเขาก็รู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่เคยพูดเล่น

“ก็ได้ค่ะ” สาวน้อยยอมจำนนเสียงอ่อยๆ ตอนนี้ใบหน้าเห่อร้อนไปหมด

“ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเลย”

จอมเผด็จการยื่นมือมาใกล้ๆ ริมฝีปากของเธอคล้ายช่วยอำนวยความสะดวก และใช้สายตาคมดุสะกดให้สาวน้อยทำตามความต้องการของเขา

รดาดาวรวบรวมทั้งกำลังใจและความกล้ายกมือขึ้นจับมือใหญ่เอาไว้ แล้วค่อยๆ ก้มลงไปหานิ้วโป้งของชายหนุ่มช้าๆ ยื่นลิ้นลิ้มเลียคราบน้ำตาลออกจากปลายนิ้วเรียวใหญ่อย่างกล้าๆ กลัวๆ

เพลย์บอยตัวพ่อรู้สึกหายใจขัดๆ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อโดนลิ้นเรียวนุ่มสัมผัส สาวน้อยเริ่มไล้ลิ้นไปทั่วนิ้วโป้ง แล้วลากขึ้นลงไปตามความยาวของนิ้วด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ

“อาว์...ใช่...อย่างนั้นแหละ”

ความรู้สึกมั่นใจของเธอเกิดขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น รดาดาวย้ายจากนิ้วโป้งมาหานิ้วชี้และทำแบบเดียวกันจนกระทั่งแน่ใจว่านิ้วของเขาสะอาดปราศจากความหวานเคลือบอยู่แล้ว เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาเหมือนจะถามว่าพอหรือยัง แต่คำตอบที่ได้รับทำให้รดาดาวต้องหน้าแดงแปร๊ดเป็นสองเท่า

“ยังไม่พอสาวน้อย ผมต้องการให้เหมือนที่ผมทำกับนิ้วของคุณ”

“คือนิ่ม...” จะบอกได้อย่างไรว่าทำแค่นี้ก็อายสุดชีวิตแล้ว

“ถ้าขืนชักช้าผมจะจูบ” เขาขู่สำทับทำให้สาวน้อยต้องก้มลงไปหาปลายนิ้วของเขาอีกครั้งอย่างหมดทางเลือก และไม่รู้ว่าอะไรน่าอายมากกว่ากันระหว่างทำแบบนี้กับการยอมให้เขาจูบ

เอเดนแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ด้วยอารมณ์สุขสมกึ่งทรมาน เมื่อเรียวปากสีชมพูน่าจูบค่อยๆ อ้าครอบนิ้วเรียวใหญ่ของเขาเข้าไปทีละนิดๆ จนกระทั่งสุดความยาว

รดาดาวรูดริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอกลับขึ้นถึงปลายนิ้วของเขาและลากลงใหม่อย่างที่เขาทำกับนิ้วของเธอ สาวน้อยแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่สามารถจดจำได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

“อาว์...เก่งมากรดาดาว”

เขาสูดปากเสียงกระเส่า ขณะมองปากและเรียวลิ้นอ่อนนุ่มที่กำลังทำงานด้วยความขะมักเขม้น แม่คุณเอ๋ย...ปากเล็กๆ ของเธอช่างยอดเยี่ยมนัก ขนาดโลมเลียที่นิ้วยังให้ความรู้สึกสุดจะบรรยายขนาดนี้ แล้วถ้าเธอทำกับส่วนนั้นของเขา มันจะให้ความรู้สึกที่แสนวิเศษมากขนาดไหน

รดาดาวรู้สึกพอใจแปลกๆ ที่ได้ยินเสียงครางคล้ายกำลังทรมานของเขา สาวน้อยจึงตั้งใจทำสิ่งนั้นอย่างสุดฝีมือเพราะอยากให้เขาทุรนทุรายมากที่สุด

ภาพอันแสนยั่วยวนนั้นทำให้เอเดนเกือบจะหมดความอดทน อยากจะพลิกตัวนอนลงบนโซฟา กระชากกางเกงออก แล้ววอนขอให้เธอทำเช่นนี้กับตัวตนของเขาอยู่รอมร่อ แต่ไม่มีทาง คนอย่างเอเดนไม่เคยวอนขอการทำรักจากผู้หญิงคนไหน มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะต้องเป็นฝ่ายอ้อนวอนเขา

มือใหญ่เอื้อมไปจับปลายคางมน บีบเบาๆ แล้วดึงนิ้วของตัวเองออกมาจากปากเล็กน่าจูบ ทำให้รดาดาวมองเขาด้วยสายตาที่งุนงงเล็กน้อย เขาจึงจับร่างอ้อนแอ้นขึ้นมานั่งทับบนตักตัวเอง โดยจงใจวางบั้นท้ายกลมกลึงให้ตรงกับตำแหน่งที่สามารถเสียดสีกับตัวตนใหญ่โตร้อนผ่าวของเขาซึ่งขยายเหยียดขึ้นจากการตื่นตัวสุดขีดอย่างเหมาะเจาะ

รดาดาวก้มหน้างุดเพื่อไม่ให้เขาเห็นปฏิกิริยาบนใบหน้าของตัวเอง เมื่อรู้สึกว่า ‘สิ่งนั้น’ เริ่มขยับยุกยิกเสียดสีกับส่วนอ่อนไหว กระตุ้นเร้าให้ความรู้สึกซ่านสยิวลุกโชนขึ้นจนเกือบจะควบคุมไม่ได้

“รู้หรือยังว่าทำไมผมต้องให้หยุด” เขาถามอย่างสนิทสนมจนรดาดาวต้องเงยหน้าขึ้นมอง เธอไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่าที่เห็นสีหน้าและแววตาของเอเดนเต็มไปด้วยความปรารถนา แต่ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเองเพราะเขาบอกแล้วว่าถ้าเป็นเรื่องเซ็กซ์เขาไม่เกี่ยง

“ปล่อยเถอะค่ะ นิ่มจะกลับบ้าน”

เธอเริ่มประท้วงเพราะไม่อยากปล่อยกายปล่อยใจไปตามอารมณ์มากกว่านี้ คนโบราณเตือนไว้เสมอว่าหญิงกับชายไม่ควรอยู่กันในที่รโหฐานตามลำพัง และรดาดาวก็ประจักษ์แก่ใจตัวเองในคราวนี้แล้วว่าคำสอนของคนเฒ่าคนแก่มันเป็นจริงแค่ไหน แต่สำหรับเอเดนถึงแม้จะเป็นในที่โล่งแจ้งเขาก็ยังเป็นคนที่เธอไม่ควรจะเข้าใกล้อยู่ดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel