บทย่อ
แฟนเป็นชู้กับน้องสาวและทำให้น้องตั้งครรภ์ เธอหันกลับไปแต่งงานกับลู่จิ่งเซิน ซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจที่ใครๆก็เกรงกลัว ไม่ใช่แค่นี้ ได้ข่าวว่าเธอปั้นดาราให้มีชื่อเสียงได้ ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ได้ เปิดบริษัทได้ เป็นสุดยอดนักแข่งรถ? ยังเป็นนักออกแบบมือหนึ่งที่มีชื่อเสียงระดับโลก นี่คือสาวน้อยเพชรเม็ดงามแบบไหนกัน!!!จากสาวน้อยซึ่งถูกผู้คนทอดทิ้งที่น่าสงสาร กลายเป็นนางฟ้าบนโลกอันสูงส่งที่มีคนหลงใหลนับหมื่น ผู้ชายที่จีบเธอเป็นแถวยาวเป็นหางว่าว คุณลู่ที่รู้ข่าวที่เธอฮอตเป็นอย่างมาก ก็ดึงเธอเข้าสู่อ้อมอก กล่าวว่า "เก็บความคิดอันพ้อฝันของพวกคุณกลับไปซะ นี่คือผู้หญิงของฉัน ทุกคนต่างรู้ตัวขึ้นในฉับพลัน แต่ยังไม่ทันตั้งตัว หนุ่มน้อยน่ารักคนหนึ่งวิ่งมากอดขาจิ่งหนิงอย่างกะทันหัน "พ่อนี่ร้ายจริงๆเลยนะ นี่เป็นผู้หญิงของผมต่างหากล่ะ"
บทที่ 1 จับชู้คาเตียง
บทที่ 1 จับชู้คาเตียง
“มีถุงยางดูเร็กซ์ ดูอัล เพลย์เชอร์ไซซ์กลางไหม?”
“มีค่ะ”
“แล้วก็ไวเบรเตอร์กับชุดนางแมวสวาทชุดหนึ่งด้วย”
“ได้ค่ะ จัดส่งที่ไหนคะ?”
“โรงแรมลี่หัว ห้อง2202”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
......
เมื่อจิ่งหนิงมาถึงโรงแรมลี่หัวก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว
เวลาดึกดื่นขนาดนี้ สำหรับคนที่ทำธุรกิจสินค้าผู้ใหญ่แบบนี้ การนำส่งสินค้าด้วยตนเองไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่นัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างเธอ
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องแลกมาด้วยเงิน อีกอย่างมู่ยั่นเจ๋อกำลังจะกลับมาอีกไม่กี่วันนี้
คบกันมาตั้งหกปี แต่เวลากว่าครึ่งเป็นรักระยะไกล เขาต้องดูแลธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ เธอจะทำตัววุ่นวายส่งผลต่อการทำงานของเขาไม่ได้
ดีที่ความรักของทั้งสองคนนั้นค่อนข้างหวานชื่น นอกจากงานในแต่ละวันแล้ว เธอยังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเองด้วย อีกไม่กี่วันเป็นวันเกิดของเขา เธอตั้งใจจะมอบของขวัญให้เขาอย่างเซอร์ไพรซ์
เมื่อคิดเช่นนี้ริมฝีปากของจิ่งหนิงก็ยกขึ้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เธอยิ้ม
เธอขยับหมวกสีดำที่ใส่มาให้ปิดลงมาบังหน้าไว้ จากนั้นเดินถือกล่องสินค้าเข้าไปด้านใน
โรงแรมลี่หัว เป็นสถานที่ราคาแพงขึ้นชื่อของเมืองจิ้น
ผู้คนที่เดินทางมาเข้าพักล้วนเป็นระดับมหาเศรษฐี
ความโอ่อ่างดงามที่ห้องโถงไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ลิฟต์ก็ถูกประดับตกแต่งด้วยเงินและทองคำ เมื่อมีคนยืนอยู่ใต้แสงไฟพวกเขาจะรู้สึกละอายใจกับความไม่ยุติธรรมของตัวเองเมื่อเปรียบเทียบกัน
จิ่งหนิงเพียงแค่ถือกล่องและไม่ปล่อยใหัดวงตาของเธอหลงไปกับมัน
ใบหน้าที่สวยงามของเธอถูกปิดไวัด้วยหน้ากากเผยให้เห็นเพียงดวงตาที่ลึกและสงบคู่หนึ่ง ซึ่งทำให้รู้สึกห่างเห็นเย็นชา
ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น22 “ตึ๊ง” ประตูเปิดออก เธอเดินออกไปกระทั่งถึงห้อง2202และกดกริ่งที่ประตู
ก่อนที่ประตูจะเปิดออกก็มีเสียงครวญครางของชายและหญิงที่ดังออกมาจากข้างใน
“อาเจ๋อ อุ๊ย? อย่าค่ะ......ของน่าจะมาส่งแล้ว”
“รอผมนะ เดี๋ยวมา”
จิ่งหนิงยืนยิ้มอยู่ที่ปากประตูอย่างอดไม่ได้
ของยังมาส่งไม่ถึงก็เริ่มกันแล้วเหรอเนี่ย?
รีบร้อนกันจริงๆ?
ประตูถูกเปิดออกในไม่ช้า ชายผู้ออกมารับของสวมผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว บนร่างกายของเขายังคงมีไอน้ำอยู่
จิ่งหนิงไม่ได้มองหน้าเขา เธอยื่นกล่องใส่ของออกไป “843หยวนค่ะ? จ่ายเงินสดหรือว่าโอนคะ?”
ชายผู้อยู่ตรงหน้าไม่ตอบ
สองวินาทีต่อมาเสียงลังเลก็ดังขึ้น “......หนิงหนิง?”
จิ่งหนิงตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมอง
เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ร่างกายกำยำ ผมเผ้าเปียกปอน เขามีเพียงผ้าขนหนูสีขาวปิดบังร่างกายไว้ แสงไฟเหลืองนวลส่องมายังร่างกายของเขา ผิวขาวเนียนและใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ อีกทั้ง......ทำตัวไม่ถูก
สีหน้าของจิ่งหนิงตกใจเสียจนหน้าซีด
“ยั่นเจ๋อ ใครคะ?”
“ไม่มีอะไรครับ คนมาส่งของครับ”
มู่ยั่นเจ๋อรีบพูดขึ้นก่อนที่จิ่งหนิงจะเอ่ยอะไรออกมา จากนั้นรีบหยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือเธอและหยิบของไปอย่างรวดเร็ว
เสียงประตูปิดลงดัง “ปัง?”
จิ่งหนิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู มือของเธอเริ่มสั่น สีหน้าซีดเผือดลงทันที
เธอหัวเราะออกมาเบาๆ
และมองไปยังธนบัตรที่เขายัดเข้ามาไว้ในมือ นี่มันเรื่องตลกบ้าบออะไรกัน? เธอหัวเราะเยาะในความโง่เขลาของตัวเองจริงๆ
เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวเล็ดลอดออกมานอกห้อง เธอก็ถอนหายใจยาวๆออกมา และกลั้นน้ำตาที่คลอเบ้าเอาไว้
เธอหันหลังกลับและเดินตรงไปยังลิฟต์และหยิบมือถือออกมา
"สวัสดีค่ะ ใช่สำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณของเทศบาลหรือเปล่าคะ? ฉันต้องการจะแจ้งว่ามีคนกำลังเสพยาและค้าประเวณีในโรงแรมลี่หัว หมายเลขห้องคือ.."
ต่อมา20นาที
รถตำรวจคันหนึ่งจอดลงที่หน้าโรงแรมลี่หัว ข้างๆยังมีนักข่าวและช่างกล้องเดินตามมา
เมื่อเห็นคนที่ถูกจับตัวออกมา นักข่าวก็พากันแห่เข้าไป
“นายมู่ มีคนแจ้งความว่าคุณเสพยาและซื้อบริการทางเพศ จริงหรือไม่คะ?”
“นายมู่ ในฐานะผู้สืบทอดมู่ซื่อกรุ๊ป คุณคิดว่าการกระทำเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่คะ?”
“นายมู่ครับ ผู้หญิงคนที่อยู่กับคุณเป็นใครกันครับ? มีข่าวลือว่าเป็นดาราในวงการ จริงหรือไม่ครับ?”
“นายมู่......”
มู่ยั่นเจ๋อถูกนักข่าวล้อมไว้ แม้แต่ตำรวจก็ห้ามไว้ไม่ได้
เขากัดฟันกรอดๆและตะโกนออกมาว่า “ไปให้พ้น?”
นักข่าวพากันตกอกตกใจและถอยหลังออกไป
มู่ยั่นเจ๋อมองผ่านฝูงชนและจ้องตรงไปที่จิ่งหนิง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเหี้ยมโหด
" นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?"
จิ่งหนิงเผยอยิ้ม สายตาแฝงไปด้วยการดูถูก
" คุณทำแบบนี้อย่าหวังว่าจะได้ผมไปครอง"
จิ่งหนิงเดินหน้าขึ้นไปแล้วเงื้อมือขึ้นต่อหน้านักข่าวและตำรวจ
" เพี๊ยะ!"
ฝ่ามือของเธอตบลงไปที่หน้าเขาอย่างจัง มู่ยั่นเจ๋อถูกตบเสียจนหน้าหัน
บรรยากาศรอบด้านเงียบลงทันใด
ทางตำรวจตกตะลึงอ้าปากค้าง " คุณผู้หญิงคนนี้คือ ......"
" ขอโทษนะคะ มือลั่นไปเอง!"
เธอยิ้มด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วทำท่าทางนวดข้อมือ แล้วมองไปยังมู่ยั่นเจ๋อด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า
" กระดาษชำระที่ตกลงไปในชักโครก คุณคิดว่าใครยังจะต้องการอีกกัน?ตบเมื่อสักครู่เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทุนที่เหลือฉันจะให้คุณชดเชยภายในสามวัน!"
แววตาของมู่ยั่นเจ๋อตื่นตระหนก " อะไร! ทุนอะไร !!!!"
จิ่งหนิงขมวดคิ้วขึ้น " คุณแน่ใจนะว่าจะให้ฉันกระตุ้นความจำคุณ?"
มู่ยั่นเจ๋อก้มหน้าลงทันที
เธอหัวเราะหึๆ เป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
ทางตำรวจเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาโบกมือเป็นสัญญาณว่าให้คุมตัวขึ้นรถไปได้
เมื่อเขาเดินทางจากไป บรรดานักข่าวก็ไม่ได้รีรอ รีบตามไปทันที
เดิมทีที่จากประตูทางเข้าโรงแรมเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้กลับว่างเปล่าไม่เหลือใคร
จิ่งหนิงยังยืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งควบคุมอารมณ์ได้ เธอจึงได้เตรียมตัวจากไป
โดยไม่คาดคิดทันทีที่เธอหันศีรษะไป สายตาของเธอก็พบกับดวงตาที่ลึกล้ำและน่าคันหาคู่หนึ่ง
เขาเป็นชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้ม เขามีรูปร่างสูงโปร่ง ผมสั้นและดวงตาที่ลึลึกล้ำราวกับทะเลที่ไร้ก้นบิ้ง
ภายใตัการปกคลุมของค่ำคืนนี้ลักษณะที่หล่อเหลาของเขาทำให้รู้ว่ามาจากตระกูลชั้นนสูและไร้กาลเวลาซึ่งขัดแย้งกับสภาพแวดล้อมที่ที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา
หัวใจของจิ่งหนิงสั่น
จิ่งหนิงรู้สึกว่าเธอเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน
จากนั้นเธอหันไปเห็นเลขาของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีกทั้งรถปอร์เช่สีเงินที่อยู่ข้างๆ เธอก็คิดได้ว่าจะไปรู้จักบุคคลที่โดดเด่นแบบนี้ได้ยังไงกัน?
เธอสลัดความคิดออกจากหัว หันหลังแล้วเดินจากไป
จนกระทั่งร่างเล็กๆของเธอเข้าสู่รถยนต์ ลู่จิ่งเซินจึงได้ละสายตามาจากเธอและถามขึ้นว่า “คนเมื่อกี้นี้คือใคร?”
ซูมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบตอบขึ้นว่า ท่านหมายถึงคนที่ถูกตำรวจจับไปเมื่อกี้หรือครับ? เหมือนว่าจะเป็นคุณชายของมู่ซื่อกรุ๊ปที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อน”
ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ผมหมายถึงคนผู้หญิงคนเมื่อกี้”
“ครับ?” ซูมู่งุนงงเล็กน้อย “ผู้หญิงคนไหนกัน?”
เมื่อเห็นแววตาอันไม่พอใจของลู่จิ่งเซิน ซูมู่ก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ท่านประธานครับ ต้องขออภัยด้วยผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”
“ช่างมันเถอะ”
ลู่จิ่งเซินขัดจังหวะซูมู่ ครุ่นคิดอยู่สองสามวินาทีทันใดนั้นเขาก็จำอะไรบางอย่างได้
ร่องรอยของความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาและเขาก็มองไปยังทิศทางที่หญิงสาวจากไปอีกครั้งริมฝีปากของเขาเม้มด้วยรอยยิ๋ม
จากนั้นเขารีบก้าวเดินเข้าไปด้านใน
......
ในฐานะผู้แจ้งความ จิ่งหนิงจึงต้องเดินทางไปที่สถานีตำรวจด้วย
เมื่อทำการบันทึกข้อความเสร็จแล้ว ผู้คนจากด้านนอกก็พากันแห่กรูเข้ามา
คนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกก็คือคุณย่าจิ่งหวังเสว่เหมย เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงก็ตบเข้าให้ที่หน้าของจิ่งหนิงอย่างจัง
จิ่งหนิงขมวดคิ้วขณะที่รสชาติของเลือดกระจายอยู่มุมริมฝีปกของเธอ เธอเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธออย่างเย็นชา
“นังคนทรยศ?”
หวังเสว่เหมยตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า “แกรู้อยู่แก่ใจว่านั่นคือน้องสาวแท้ๆของแก ยังกล้าแจ้งตำรวจจับอีกอย่างนั้นเหรอ? แกต้องการจะยั่วให้ฉันโมโหตายยังไง?”
จิ่งหนิงเช็ดเลือดออกจากมุมริมฝีปากแล้วเงยหน้ามองผู้หญิงตรงหน้าย่างเยาะเย้ย
“น้องสาวอย่างนั้นเหรอ?คุณหมายถึงจิ่งเสี่ยวหย่า?”
“ไม่ต้องทำมาเป็นเสแสร้ง สื่อต่างๆพากันพูดกันให้แซ่ด บอกว่าคุณหนูจิ่งรองให้ท่าคู่หมั้นของคนอื่น แกเป็นคนที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ แต่แกยังไม่รู้ตัวอีกหรอว่าทำอะไรลงไป?”
จิ่งหนิงก้มหน้าลงและยิ้มออกมาเบาๆ
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นเธอนั่นเอง......ฉันก็คิดว่ากะหรี่ที่ไหนรีบร้อนจะหาเงินซะอีก ที่แท้ก็เป็นน้องสาวของฉันเอง?”