บทที่ 1
สนามไดร์ฟกอล์ฟในวันหยุดแห่งนี้ คึกคักไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนออกกำลังกายในวันสุดสัปดาห์ หากแต่มีชายวัยกลางคนสองคน ที่หน้าตาเคร่งเครียด กำลังหลบมุมคุยกันตามลำพัง ไม่ได้สนใจมาออกกำลังเลยแม้แต่นิดเดียว
“ลูกชายจอมเจ้าชู้ของฉัน ขยันก่อเรื่องวุ่นจริงๆ เลยว่ะ กลัวเหลือเกินว่าสักวัน จะไปคว้าผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้า หรือพวกปลิงที่คอยแต่จ้องจะมาผลาญสมบัติ รายก่อนที่หอบลูกหอบเต้าพร้อมกับหลักฐานมาก็รายหนึ่งล่ะ ดีที่ตรวจดีเอ็นเอแล้วไม่ใช่ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วล่ะก็ ต้องวุ่นวายกันไปหมดแน่ๆ”
เสียงพูดอย่างท้อใจ พร้อมกับท่าทางเคร่งเครียดของเพื่อนสนิท ทำให้ปณชัยตบบ่าเพื่อนรักเบาๆ อย่างจะปลอบโยน ก่อนจะพูดอย่างให้กำลังใจ
“ใจเย็นๆ น่าก็ดีแล้วที่มันไม่ใช่ แบบนี้ตาเสือคงจะเข็ดแล้วล่ะมั้ง”
“ไม่มีทางหรอก!” สหพลส่ายหน้า แล้วถอนใจออกมาอีกรอบอย่างกลัดกลุ้ม เมื่อคิดถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเอง
“คนอย่างมันน่ะเหรอจะสลด จะจ๋อย เต้นระริกระรี้ไปเลยน่ะสิ พอเรื่องออกมาว่าไม่ใช่ลูกมันนะ โน่นแรดไปเที่ยวที่สเปน ควงนางแบบดาราอะไรไปด้วย เดี๋ยวก็ยุ่งอีกหรอก คนนี้เป็นถึงกิ๊กของคนมีสีเสียด้วย”
“น่าจะหาผู้หญิงดีๆ ให้แต่งงานสักคน”
ปณชัยพลอยกลุ้มใจไปกับเพื่อนสนิทด้วย เคราะห์ดีที่ว่าเขามีลูกสาว เออหนอ… แต่จะดีหรือจะกลุ้ม ปณชัยก็ชักไม่ค่อยแน่ใจนัก เมื่อนึกถึงลูกสาวคนเดียวแสนเอาแต่ใจของเขา
“อย่าว่าแต่นายเลยที่กลุ้มใจเรื่องลูก ยัยยาหยีเองก็เหมือนกัน นี่ก็ทำเอาฉันกลุ้มใจแทบจะบ้าอยู่แล้ว พอเลิกคบกับไอ้หนุ่มไฮโซเกาะพ่อแม่กินไปวันๆ อนาคตทำท่าจะมาเกาะลูกสาวฉันต่อได้ แม่เจ้าประคุณก็หันไปควงทอม ถ้าเกิดลูกสาวฉันเป็นดี้ขึ้นมา หมดกัน ธุรกิจที่ทำมาทั้งหมดนี่ จะทำเพื่ออะไรกันวะ ทายาทสืบทอดจะมากุดห้วนเสียแล้วแบบนี้”
“น่าจะหาผู้ชายดีๆ ให้แต่งงานสักคน”
สหพลถอนใจกับเรื่องของเพื่อนสนิทบ้าง คำพูดของทั้งสองคนตรงกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ก่อนที่ทั้งคู่จะหันมองหน้ากัน พร้อมกับยิ้มพร้อมกันออกมาทันที
“จริงสินะ”
ปณชัยพูดขึ้นมาก่อนพลางอมยิ้ม เขาเห็นทางจะแยกบุตรสาวกับเพื่อนสนิทเพศเดียวกัน ที่เข้าใจไปแล้วว่าหญิงสาวท่าทางห้าวจัดรายนั้น ต้องคิดไม่ซื่อกับบุตรสาวแน่ๆ แถมงานนี้จับลูกสาวตัวดีเข้าคอกของครอบครัวไปได้พร้อมๆ กันด้วย
“นั่นน่ะสิ”
สหพลเองก็ยิ้มกว้าง ในเมื่อบุตรชายอยากเจ้าชู้หวงความโสดนัก เปลี่ยนหน้าสาวๆ ที่ควง จนเขากลัวว่าสักวันเจ้าตัวดีจะตายคาอกใคร หรือไม่ก็โดนไล่ยิงเพราะไปยุ่งกับผู้หญิงของคนอื่น ติดโรค กังวลไปสารพัด นั่นก็เพราะบุตรชายของเขายังโสด จับมันเข้าคอกมีเมียไปเสียก็หมดเรื่อง
“นายโอเคนะ พล”
ปณชัยถาม แบบไม่ต้องพูดกันมาก เพราะเพื่อนรักที่คบหากันมาสามสิบปีอย่างเขาและสหพล เพียงมองตาก็รู้ใจ
“โอเคสิ ชัย เรือล่มในหนอง ทองมันจะไปไหนวะ”
สหพลหัวเราะออกมาได้เป็นครั้งแรกของรอบวัน สองเพื่อนสนิทจับมือกัน เป็นข้อตกลงว่า คำสัญญาระหว่างเพื่อนรัก และการแก้ปัญหาวุ่นวายให้ลูกชายและลูกสาวของเขา จบสิ้นลงแล้ว
..........................................................................................................................................................
“ยาหยี อย่ามากอดมากได้ไหม ใครต่อใครเข้าใจผิดหมดแล้ว”
ศุภานิชเอ็ดเพื่อนสนิท ที่กำลังเกาะแขนเธอพลางซบหน้าลงกับบ่ามน ทำราวกับลูกแมวขี้อ้อน เมื่อสองสาวเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าด้วยกัน ทำเอาใครต่อใครมองตามแล้วอดหันไปซุบซิบกันไม่ได้ เพราะว่ายาหยี หรือ ธีร์วรานั้น ค่อนข้างจะเป็นที่รู้จัก และทำให้ผู้คนคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่บ้าง ตามข่าวสังคม หรือในหนังสือซุบซิบไฮโซทั้งหลาย
ก็ใครจะไม่รู้จัก ธีร์วรา บรรณพัชร สาวไฮโซชื่อดัง เจ้าของฉายาไฮโซจอมวีน ถ้าไม่พอใจใคร ธีร์วราไม่เคยเก็บอาการเธอจะปะทะออกฤทธิ์ทันที ล่าสุด ธีร์วราก็ขึ้นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง เพราะเอาแชมเปญไปสาดหน้าใส่เจ้าบ่าวอดีตแฟนเก่าของเธอ กลางงานแต่งในโรงแรมหรู จนเป็นข่าวคึกโครม และแสนจะน่าอับอายของบิดาและมารดา หากแต่ธีร์วราไม่เคยสนใจ กลับรู้สึกสะใจที่ได้ทำแบบนั้น กับผู้ชายร้ายกาจที่หลอกทำร้ายหัวใจเธอ ทั้งที่เธอรักเขาจริงจัง
“ก็จะได้มีข่าวใหม่อีกไง ว่าไฮโซขาวีน มีรักใหม่เป็นสาวหล่อ”
ธีร์วราพูดพลางหัวเราะกิ๊ก แล้วมองใบหน้าสวยคมของเพื่อนสนิท ศุภานิชตัดผมสั้น รับกับรูปหน้าเรียว ใบหน้านั้นสวยคม จมูกปากรับกันเหมาะเจาะ เจ้าตัวสวมแว่นกรอบหนา ซึ่งบั่นทอนความสวยหวานละไมตาอย่างไม่ได้ตั้งใจ และศุภานิชก็ไม่สนใจเอาเสียด้วย เธอสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนสีเข้มง่ายๆ รองเท้าผ้าใบสีตุ่นๆ มาดเลยกลายเป็นสาวหล่อ เท่ในสายตาคนมอง
ทั้งที่จริงๆ แล้วศุภานิชเป็นผู้หญิงแท้ๆ เพียงแค่เธอไม่ใช่คนหวาน หากแต่เป็นคนสบายๆ และติดจะลุยๆ เสียมากกว่าจะมาทำจริตกรีดกราย แบบผู้หญิง อาจจะเพราะงานที่ทำอยู่ คือเป็นวิศวกร และควบคุมงานก่อสร้าง รวมไปถึงการที่เธอมีแต่ผู้ชายอยู่ในครอบครัว ถึงหล่อหลอมให้ศุภานิชดูแข็งแกร่ง และไม่อ่อนหวาน เธอมีพี่ชายสองคน ที่ไม่เคยเห็นศุภานิชเป็นน้องสาว หากแต่มองแม่น้องรักสุดห้าวเป็นเพศเดียวกันไปเสียนี่ เสกสิทธิ์บิดาเองก็ชอบใจกับการที่เห็นเธอแข็งแกร่ง ตัดสินใจทำงานได้อย่างมุ่งมั่นไม่ลังเล ศุภานิชจึงกลายเป็นสาวห้าวจัดไปอย่างไม่รู้ตัว และไม่เคยมีแฟนเลยจนอายุ 27 ปี แถมมีแต่สาวๆ มาชม้ายชายตาให้ ทำให้เจ้าตัวกลุ้มใจยิ่งนัก เพราะลึกๆ แล้วเธอก็ยังชอบผู้ชาย ไม่เคยคิดพิศวาสเพศเดียวกันเลยสักนิด
“จะบ้าหรือไงกัน นี่พ่อของยาหยีก็เข้าใจผิดไปรอบแล้วนะ อย่าให้ลงข่าวอีกเลย นี่ไม่รู้ว่าจะกล้าไปส่งยาหยีที่บ้านอีกหรือเปล่า เล่นทำตาขวางใส่เราขนาดนั้น”
ศุภานิชทำท่าขนลุก ขณะที่ธีร์วราหัวเราะกิ๊กอย่างถูกใจ เธอเบ้ปากเมื่อนึกถึงบิดาจอมเฮี้ยบทรงอำนาจของตนเอง แล้วยักไหล่
“ก็ช่างสิ จะได้ไม่มาวุ่นวายเรื่องที่เราคบผู้ชายคนไหนอีก คนนั้นก็ไม่ดีคนนี้ก็ไม่ดี สรุปไม่มีดีสักคน ก็คงจะจริงอย่างที่ย่าเคยว่าน่ะแหละ”
คิดมาถึงตรงนี้นัยน์ตากลมหวาน ก็มีประกายตาเจ็บปวดขึ้นมาวูบหนึ่ง
ศุภานิชมองหน้าของเพื่อนสนิทอย่างพินิจ เธอเห็นร่องรอยความเสียใจนั้น จึงชวนคุยไปเรื่องอื่นเสีย แล้วปล่อยให้ธีร์วราเกาะแขนไว้แบบนั้น สองสาวจึงมองแล้วราวกับคู่รักกันมากกว่าเพื่อน เพราะอีกคนหนึ่งก็มาดห้าว อีกคนหนึ่งก็สวยหวานเย้ายวนนัก
ใครที่มองธีร์วราแล้ว ไม่หันกลับมามองซ้ำอีก ก็คงจะน้อยคนนัก เพราะเจ้าตัวมีใบหน้างดงาม โดยเฉพาะนัยน์ตายาวรีสีน้ำตาลเข้มไม่โตมากนัก เพราะเชื้อชาติของมารดา หากแต่มีประกายระยับนั่น มันมีเสน่ห์ดึงดูดใจนัก จมูกเรียวโด่งรั้น บอกนิสัยของเจ้าตัวเป็นกลายๆ ว่าเป็นคนดื้อดึงขนาดไหน ริมฝีปากรูปกระจับน่าจุมพิตสีเรื่อ เครื่องหน้าของเธอได้รูปรับกันเหมาะเจาะไปทั้งหน้า ผมยาวประบ่าสีน้ำตาลเข้ม ยิ่งเน้นกรอบหน้านั่นให้ชวนมอง เรือนร่างเพรียวระหง สมส่วนงดงาม เธอสวยน่ามองไปทั้งตัว และมีเสน่ห์จนไม่น่ามองข้าม
หากกลับมีแต่คนขยาดเธอ เพราะข่าวคราวเสียๆ หลายอย่างเกี่ยวกับตัวของธีร์วรา ความเป็นสาวเอาแต่ใจอย่างถึงที่สุด จนไม่สนใจใครๆ นั่น ทำให้ตั้งแต่เธอเลิกรากับม.ร.ว.เทพพิทักษ์แล้ว ยังไม่มีชายหนุ่มคนไหนกล้ามาเกาะแกะกับเจ้าตัวอีกเลย ทั้งที่ตอนแรกธีร์วราเนื้อหอมมาก ความที่เป็นคนสวย และมีเงินมากมาย ทายาทคนเดียวของบรรณพัชร เจ้าของธนาคารพัชรพิทักษ์ และกิจการโรงแรมในเครือบรรณพัชร ที่ร่ำรวยติดอันดับประเทศ มันเป็นเสน่ห์ดึงดูดมหาศาล เสียยิ่งกว่าหน้าตาของเจ้าตัวเสียอีก