ตอนที่ 5 เมื่อไรถึงจะรักใคร่ซึ่งกันและกัน
ตอนที่ 5 เมื่อไรถึงจะรักใคร่ซึ่งกันและกัน
ปฏิหาริย์ของวัจสาลนลาน หรือว่าทุกคนคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงยังไง?แต่ เมื่อคืนนั้นก็เป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ ถ้าวรพลไม่ทำอย่างไง เธอก็คงไม่สะท้อนกลับ
เห็นเธอลำบากใจแล้วไม่พูด ความโกรธของธัชชัยค่อยๆสงบลง “พี่ชายฉันโกรธมาก ผู้หญิงอย่างเธอ ยังกล้าอยู่วงศ์ตระกูลตระกูลศรีทองอีก?”
วรพลโกรธมาก แต่ว่าตำหนิแต่ธัชชัย ไม่ใช่วัจสาที่น่าสงสาร
เมื่อพ่อบ้านภูษิตเห็นวัจสาถูกกลั่นแกล้ง ก็เลยรีบออกมาช่วย “ได้แล้วได้แล้ว คุณผู้หญิงกินข้าวเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวกับข้าวมันจะเย็นแล้ว ถ้ามันเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะค่ะ ท่านชัยไม่ใช่จะเอากับข้าวไปให้ท่านวรพลที่ข้างบนหรอคะ”
เขาก็ไม่กล้าพูดเยอะ ท่านชัยคนนี้คือเอาแววตาที่เฉียบคมของเขามองมาหาเธอ เหมือนว่าถ้าเธอพูดผิดอะไร ก็จะยิงเธอตายตรงนี้เลย
วัจสารู้พ่อบ้านภูษิตใจดี แล้วส่งสายตาที่ขอบคุณไปให้ แล้วค่อยๆเดินอ้อมธัชชัยที่เต็มไปด้วยความเย็น หน้าของเขาหันไปกินข้าวต่อ เห็นแต่ผมสั้นที่ดำ
วัจสาถอนหายใจ ตัดสินใจแล้วว่าวันนั้นจะดูแลวรพลดีๆวัจสาเตรียมเอากับข้าวไปห้องครัว บรรยากาศของตรงนี้อึดอัดเกินไป
คิดไม่ถึงว่า ธัชชัยกินเสร็จแล้ว เช็ดปากแล้วลุกขึ้น พูดอย่างเย็นชาว่า“อาหารเช้าของพี่เตรียมเสร็จยัง?”
พ่อบ้านภูษิตตอบรับ แล้วรีบวิ่งไปที่ห้องครัว“ได้แล้วครับ ท่านชัย”วัจสาได้ยินว่าเป็นข้าวเช้าของวรพล รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจแล้วว่าจะดูแลวรพล งั้นข้าวเช้านี้เธอไปส่งเองดีกว่า อีกอย่างไปขอโทษต่อหน้าจะดีกว่า
“ พ่อบ้านภูษิต ให้ฉันเอาขึ้นไปเถอะ”
พูดเสร็จก็เดินไปหาพ่อบ้านภูษิต ฝ่ามือที่บอบบางยังไม่ทันได้จับถูกถาดรอง อาหารเหลวที่ทำอย่างพิเศษนี้ก็ถูกมืออันใหญ่เอาไป
ความกดขี่ของผู้ชายคนนี้อย่างแข็งเหมือนเดิม เขาแค่ยืนไว้อย่างงั้น วัจสาก็รู้สึกจะหายใจไม่ออก
แต่ว่าการกระทำของเขานี่ทำให้ธัชชัยคาดไม่ถึง มืออันเล็กๆของเขาจับถาดรองไว้
“ไม่ลำบาก ฉันคือภรรยาของวรพล ให้ฉันมาดูแลเขาเถอะ “เสียงหวานๆดังขึ้น
แววตาของธัชชัยเต็มไปด้วยความรังเกียจ ผู้หญิงคนนี้ยังเล่นกลยุทธ์แสร้งไม่พอหรอ? เขาใช้แรงดึงถาดรองออกจากมือวัจสา ทันใดนั้นเล็บของวัจสาก็ขีดโดนมือ ฝ่ามือที่นุ่มนวลก็ออกเลือดขึ้นมา ขณะนั้นเธอก็กำหมัดขึ้น ไม่ได้จะยอมแพ้ต่อผู้ชายคนนี่ไม่ได้
ธัชชัยยิ้มอย่างเหยียดหยาม“ตอนนี้ค่อยมาทำเป็นเสแสร้งทำเป็นอ่อนโยนเพรียบพร้อมมันช้าไปไหม?ถ้าฉันให้เธอขึ้นไปส่งข้าวให้เขา เธอคงไม่ทำร้ายพี่ชายอีกครั้งหรอก?
“……” วัจสาก็ไม่รู้จะพูดยังไง เรื่องที่เขาพูดก็เป็นความจริง แต่เขาพูดซ้ำๆอย่างนี้มันหมายความว่าไง?ทำไมถึงไม่ยอมให้โอกาสเธอทำความดีมาชดเชยความผิดล่ะ
ธัชชัยเห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็พอใจแล้วเดินออกไป แล้วทิ้งคำพูดไว้ว่า “ถ้ายังมีครั้งหน้าฉันจะตีขาเธอหักแน่”
น้ำเสียงเยือกเย็นและไร้น้ำใจ ให้ผู้อื่นฟังแล้วรู้สึกไม่สงสัยเลยว่าถ้าเธอหนีอีกครั้งหนึ่ง ผู้ชายคนนี้จะไม่ตีขาเธอหัก
วัจสาไม่มีแรงจริง ครอบครัวแบบนี้ น้องชายของสามียังเป็นคนที่เผด็จการและไม่มีเหตุผล ตัวเองอย่าให้เขา
วัจสากินข้าวเสร็จ ก็เอาถ้วยจานเข้าไปห้องครัว แล้วไปดูว่าป้าอ้อยต้องการความช่วยเหลือไหม ตอนอยู่วงศ์ตระกูลเดิมขุนทด ถ้วยชามทั้งหมดเธอก็เป็นคนล้าง วราลีเอาเธอเป็นคนรับใช้ที่ใช้สั่งงานไปทั่ว
บอกว่าตัวเองซินเดอเรลล่า ก็ไม่มีเจ้าชายดีๆอย่างเขา มีแต่ชะตากรรมที่โศกเศร้า
ป้าอ้อยเห็นวัจสาเก็บถ้วยจานก็ตกใจจนหน้าซีด รีบรับถ้วยจานจากมือเธอ“คุณผู้หญิงคุณทำอะไร? ฉันทำเองก็ได้”
ตอนเขาจับมือของวัจสา บังเอิญจับโดนแผลของวัจสา วัจสาเจ็บจนสูดหายใจเข้า
ป้าอ้อยเห็นความเจ็บปวดบนหน้าเธอ ท่าทางก็ร้อนรันมาก เปิดมือของเธอ เห็นฝ่ามือที่เต็มไปด้วยเลือด ตกใจมาก
คุณผู้หญิงเป็นไรมากไหมค่ะ ทำไมมือออกเลือดเยอะขนาดนี้ มา รีบมาทำแผลคะ” ป้าอ้อยพูดเสร็จแล้วรีบดึงวัจสาออกไป
ป้าอ้อยให้เธอนั่งอยู่ที่โซฟา แล้วรีบไปหยิบชุดปฐมพยาบาล
วัจสานั่งอยู่ตรงนั่น แล้วเปิดฝ่ามือ นอกจากฝ่ามือที่อันขาวแล้วยังมีบางที่ที่เต็มไปด้วยรังไหม นี่คือเพราะว่าทำงานบ้านมานานเลยเป็นรอยตรา
เขาดูเลือดในฝ่ามือ แล้วนึกถึงสีหน้าที่กังวรของป้าอ้อย สังเกตได้ว่าไม่มีคนเป็นห่วงเธอนานแล้ว ตั้งแต่พ่อแม่ไม่อยู่ เธอก็กลายเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อแม่รัก
การที่ป้าอ้อยเป็นห่วงวัจสา ทำให้ใจของเขาอบอุ่นมาก
“ คุณผู้หญิงรีบเอามือมาให้ฉัน “ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ป้าอ้อยก็เอาชุดปฐมพยาบาล มาแล้ว ป้าอ้อยดึงมือของวัจสามา แล้วใช้ยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดแผลเสร็จก็เตรียมตัวฉีดหยุนหนามไป๋เหยา “คุณผู้หญิงคะ เดี๋ยวมันจะเจ็บหน่อยนะคะ ทนทนหน่อย”
วัจสาพยักหน้า ไม่ว่าบาดแผลที่เจ็บขนาดไหน ฉันก็เคยผ่านมันมาแล้ว ป้าอ้อยเอาหยุนหนามไป๋เหยาฉีดลงไป ไม่ได้ยินเสียงร้องของความเจ็บ เลยเงยหน้าขึ้นมา ริมฝีปากของวัจสาถูกกัดจนขาวหมด ทันใดนั้น เขารู้แล้วว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ดื้อรั้นมาก จะไม่ยอมยอมแพ้ต่อหน้าผู้อื่น อยู่ตรงหน้าของธัชชัยจะไม่ได้ดี
ป้าอ้อยถอนหายใจ ข้างหนึ่งช่วยวัจสาพันผ้าพันแผลอีกข้างหนึ่งว่า “คุณผู้หญิงค่ะ ที่จริงรองท่านชายก็น่าสงสารเหมือนกัน ท่านชายใหญ่ของพวกเราเพื่อที่จะช่วยเขา ตัวเองได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส รองท่านชายเลยรู้สึกผิด ช่วงนี้อารมณ์เลยไม่ค่อยดีเท่าไร ถ้าเรื่องที่เกี่ยวกับท่านชายใหญ่เขาก็จะกังวลมาก”
วัจสาคิดไม่ถึงว่าป้าอ้อยทันใดนั้นจะพูดถึงธัชชัย เธอก็ดูออกได้ว่าธัชชัยและวรพลความสัมพันธ์พี่น้องลึกมาก แต่ว่าธัชชัยพูดอย่างนี้มันน่าโมโหมาก
“ฉันรู้แล้ว” วัจสาพูดอย่างเฉยๆ
“คุณอย่าดูว่ารองท่านชายเป็นแบบนี้ แต่ที่จริงแล้วเขาเป็นคนปากแข็งใจอ่อน ภายนอกดูเหมือนจะดุร้าย ไม่แน่ในใจอาจเคารพคุณก็ได้ ก็อยากดีต่อคุณ ตลอดเวลามานี้เขาก็เป็นคนป้อนข้าวให้ท่านชายใหญ่ บางทีรองท่านชายก็เป็นคนอ่อนโยน”ป้าอ้อยพยายามที่จะช่วยธัชชัยพูดคำพูดที่ดีๆ เขาก็หวังว่าผู้หญิงคนนี้จะได้สมหวังกับรองท่านชายเร็วๆ
วัจสากระทบผ้าพันแผลของในมือ ธัชชัยเป็นคนอย่างไรเธอก็รู้คร่าวๆแล้ว แต่เธอก็ไม่ชอบที่ต้องใช้ชีวิตในชายคาเดียวกัน ทั้งสองเจอหน้าก็ทะเลาะกัน ท่าทางของธัชชัยมันเหมือนตรงไหนที่เอาเธอเป็นพี่สะใภ้?
เธอไม่อย่าฟังเรื่องของธัชชัยแล้ว เลยเปลี่ยนเรื่องพูด “ป้าอ้อย ฉันถามหน่อย ทำไมวรพลไม่ไปผ่าตัดทำศัลยกรรม?ไม่แน่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ได้ ”วัจสาคิด อย่างนี้ความมั่นใจก็คงจะเพิ่งขึ้นก็ได้
“วงศ์ตระกูลศรีทองมีเงิน ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้ แต่ว่าคุณผู้หญิงคงไม่รู้ว่าท่านชายใหญ่บาดเจ็บอย่างรุนแรงมาก เดือนที่แล้ว เขายังเป็นลมอยู่เลย ช่วงนี้ยังช่วยชีวิตไว้แล้วครั้งหนึ่ง เกือบจะเสียชีวิตไป ดังนั้นไม่ใช่ไม่ทำ เหมือนว่ายังทำไม่ได้” วัจสาฟังที่ป้าอ้อยพูดแล้วรู้สึกตกตะลึง ดูจากเมื่อคืนแล้ววรพลดูเหมือนว่าสุขภาพร่างกายก็แข็งแรงดี ลงจากเตียงได้ ยังใช้แรงเยอะดึงเธอมาได้ ยังทับเธอไว้……
นึกถึงตรงนี้ สมองของวัจสาก็ปรากฏภาพที่น่ากลัวนั่นขึ้นมา หน้าซีด
ป้าอ้อยไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางที่แปลกๆของวัจสา ข้างหนึ่งเก็บของ อีกข้างหนึ่งก็พูดต่อว่า “คุณผู้หญิงค่ะอาการของท่านชายใหญ่เป็นบาดแผลในใจของรองท่านชาย คุณพยายามที่อย่าไปพูดตรงหน้าเขา อย่างนี้จะทำให้เขาไม่ดีใจถ้าอย่างนี้ก็แย่ล่ะ ก็หวังว่าคุณจะให้อภัยรองท่านชาย อยู่รวมกับเขาดีๆ คนที่เสียเปรียบก็เป็นตัวคุณเอง”
พวกเขารักใคร่ซึ่งกันและกันก็คือความฝันของท่านชายใหญ่
ป้าอ้อยกับพ่อบ้านภูษิตก็จะออกแรงให้ทั้งสองเข้ากันให้ได้
”วัจสาสติเพิ่งกลับมา รีบพยักหน้า“รู้แล้ว”
วัจสาได้ยินว่าวรพลเพื่อที่จะช่วยเหลือน้องชายตัวเองได้รับบาดเจ็บ เกือบจะสิ้นชีวิต ยังดีสวรรค์ช่วย ที่ให้เขารอดชีวิตมาได้
ขณะเดียวกัน ห้องบำบัดของวรพล
“ เธอดูสิ วัจสาเขาดีขนาดไหน เธออย่าให้เขาผิดหวังล่ะ ดูท่าทีเธอตอนอยู่ห้องรับแขก ยกตนข่นท่านขนาดไหน?เมื่อคืนฉันไม่ได้พูดเธอ วันนี้ต้องด่าดีๆล่ะ”วรพลไม่ได้พูดอย่างนี้นานแล้ว
ธัชชัยเห็นเขาดูเหมือนผิดปรกติ รีบเอาน้ำข้างโต๊ะแล้วเอาหลอดใส่ในปาก ในใจไม่รู้จะทำอย่างไร “พี่ เรื่องนี้พี่ไม่ต้องเป็นห่วงได้ไหม?ฉันจะเข้ากับเธอยังไงก็เข้ากับเธออย่างงั้น ยังไงเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอะไร”
คำพูดนี้วรพลฟังแล้วรู้สึกไม่ชอบ มือขวาที่ยังขยับได้ผลักแก้วทิ้ง มองก็ไม่มองธัชชัย ธัชชัยรู้อยู่แล้วว่าเอาพี่ชายไม่อยู่ บิดคิ้วดาบ พี่……
“อย่าเรียกฉัน เสียงของวรพรแหบแห้งและน่าเกรงขามมาก พรุ่งนี้เป็นวันที่วัจสากลับไปเยี่ยมบ้าน เธอให้เวลาว่างส่งเธอไป รู้ไหม?
สีหน้าของธัชชัยก็เย็นขึ้นมา พรุ่งนี้ฉันต้องไปบริษัท ไม่มีเวลาไปส่ง อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่สามีเธอ ไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะไปส่งได้ พวกเขาจะมองฉันยังไง
พวกเธอเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง เธอลืมแล้วหรอว่าเธอจบสมรสกับเธอแล้ว? จะให้ฉันเอาออกมาเตือนสติเธอไหม?ตอนนี้วรพลโกรธจริงแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าน้องชายของตัวเองจะเกลียดวัจสาได้ขนาดนี้ ถ้าไม่มีคนส่งเธอไปเยี่ยมบ้าน คนทางโน้นเขาจะดูเธอยังไง ?แต่งมาที่วงศ์ตระกูลศรีทองแต่ไม่ถูกยอมรับเป็นผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้ง
“ ได้แล้ว รู้แล้ว” ธัชชัยตอบไปอย่างรอดหน้า ยังไงพรุ่งนี้เขาก็จะไม่ไปส่ง พี่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ผู้หญิงอย่างนั่นไม่สมควยที่จะได้ความรักจากเขา”
“พี่อ่ะรักษาตัวดีๆช่วงนี้ฉันกำลังวางแผนเรื่องที่จะไปอเมริกาแล้ว”
หน้าที่บำรุงมาได้อย่างดีก็เพื่อที่จะใช้ในวันข้างหน้า ช่วงหลายเดือนนี้อาหารครบถ้วนและโภชนาอาหารครบทุกทั่วทุกมุ่ง น่าจะไม่เกิดปัญหาอะไร
”วรพลมองธัชชัย แล้วพูดไปว่า เธอมีเวลาทำเรื่องพวกนี้ ก็ควรที่จะพาเธอไปฮันนีมูนบ้าง เธอแต่งมาวงศ์ตระกูลศรีทองแต่ไม่มีงานแต่งเลย แต่ฮันนีมูนนี้ไม่มีไม่ได้
วรพลพูดจบ ธัชชัยก็กระแทกประตูออกไป