บทที่4.คุณพิไลพรรณ (สัตญาณุเศรษ) คัสล์ซัน
“เปล่าค่ะ...พี่ชาร์ลไม่ได้รบกวนมีนาเลยค่ะ!! มีนามีพี่ชาร์ลเป็นเพื่อนคุยทำให้หายคิดถึงคุณพ่อไปได้ตั้งเยอะ มีนาซิคะเป็นฝ่ายกวนพี่ชาร์ล อุตส่าห์หนีมาพักตั้งไกลยังมาเจอเด็กซนๆ แบบมีนาคอยกวนใจอีก”
“แน่นะ...มีนาไม่ได้พูดให้พี่สบายใจใช่ไหม? พี่ไม่เห็นมีนากวนใจพี่เลย พี่ซิต้องขอบคุณมีนาที่ไม่เบื่อพี่ไปเสียก่อน คนไม่สมประกอบแบบพี่ใครจะอยากมาหา”
“เฮ้อ...มีนาจะอธิบายให้พี่ชาร์ลเข้าใจได้ยังไงดีนะนี่” หญิงสาวถอนหายใจเฮือกๆ เมื่อยิ่งพูดอะไรออกไป พี่ชายก็ยิ่งเข้าใจผิดเพี้ยน
“อะ...รับของที่พี่ให้เสียซิ แค่นี้พี่ก็พอจะทำใจได้แล้ว” คาร์โลวถือโอกาสยื่นแหวนวงน้อยให้มนต์มีนา เมื่อสาวน้อยทำท่าทอดถอนใจ เพราะความหนักใจที่ไม่สามารถอธิบายให้พี่ชายคนสำคัญเข้าใจได้
มนต์มีนามองแหวนสีทองเปล่งปลั่งในมือพี่ชายคนสำคัญอย่างตื่นตะลึง ใบหน้าหวานใสซับสีเลือดแดงจัด เสก้มใบหน้าหลบอย่างเอียงอายเมื่อเผลอตัวเผลอใจสบนัยน์ตาของคาร์โลวที่เปล่งประกายระยิบระยับ
“เอ่อ...”
“รับไปเถอะน่า เก็บดีๆ ล่ะหัวใจพี่ทั้งดวงเลยนะนี่” คาร์โลวเอื้อมมือคว้าฝ่ามือเรียวของมนต์มีนาไว้ จับสวมแหวนวงน้อยบนนิ้วนางข้างซ้ายให้อย่างฉับไว จนสาวน้อยตั้งตัวไม่ทัน ได้แต่มองพี่ชายอย่างตื่นตะลึง “ตอนนี้ใส่นิ้วข้างนี้ไปก่อนนะจ้ะ รอให้มีนาโตกว่านี้ซักหน่อยพี่จะเปลี่ยนใหม่ย้ายไปอยู่อีกนิ้วหนึ่ง”
“ค่ะ...”
“มีนาเป็นคนแรกเลยนะ ที่พี่คิดจะมีอนาคตข้างหน้าร่วมกัน พี่เป็นคนตรงๆ มีอะไรก็บอกกันตรงๆ อย่าปิดบังกัน ในเมื่อตอนนี้สถานะเราสองคนเปลี่ยนไปจากเดิม พี่ไม่ชอบคนหลอกลวง เพราะไม่อาจทำใจได้ถ้าถูกหักหลังจากคนที่เรารักและไว้ใจ”
“ค่ะ...”
“พี่ให้สัญญาด้วยเกรียติที่มีเลย ว่าพี่จะดูแลปกป้องมีนาด้วยตัวเองสุดกำลัง” คาร์โลวยืดอก ให้สัญญาอย่างหนักแน่น ตั้งมั่นว่าจะทำอย่างที่เอ่ยไว้สุดกำลัง เมื่ออนาคตข้างหน้าคงต้องฝ่าฟันอะไรอีกมากมาย โดยเฉพาะคุณพิไลพรรณมารดาตัวเอง
“พี่พิอย่าโกรธวิไลนะคะ ถ้าวิไลบอกอะไรบางอย่างกับพี่”สายโทรศัพท์ทางไกลข้ามประเทศ ส่งตรงไปถึงคุณพิไลพรรณในเช้าวันหนึ่ง
“มีเรื่องอะไรวิไล? อย่ามาโยกโย้...จะเล่าอะไรก็เล่ามา!! หรือว่าตาคาร์โลวก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ พี่ละอ่อนใจกับลูกชายคนนี้เสียจริงๆ ขยันสร้างเรื่องไม่หยุดไม่หย่อน แค่คิดก็เหนื่อยใจแทบเพลีย” สาวใหญ่เอ่ยถึงคาร์โลวลูกชายอย่างอ่อนใจ เมื่อรู้สึกหนักใจกับปัญหาที่ชายหนุ่มขยันสร้างเป็นประจำ
“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะพี่พิ แต่ก็เกี่ยวข้องโดยตรง ถึงคาร์โลวจะไม่ได้เป็นคนก่อปัญหานั้นก็เถอะ!! วิไลคงแค่กลัวไปก่อนล่วงหน้า ได้แต่ภาวนาว่ามันคงไม่ได้เป็นอย่างที่กลัว” คุณวิไลทอดถอนลมหายใจรำพึงออกมาอย่างกังวล
“กลัวอะไรเหรอวิไล?...คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิงอีกล่ะซิ!! ลูกสาวบ้านไหน? ท่าทางเป็นอย่างไรบ้าง พอจะจัดการได้ไหมล่ะ หรือว่าต้องให้พี่ลงมือเอง” คุณพิไลพรรณซักถามละเอียดยิบ เมื่อเรื่องที่บุตรชายก่อไว้มีแค่ไม่กี่เรื่อง ถ้าไม่ชกต่อยมีเรื่องกับเพื่อน ก็เรื่องผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันเพราะหวังเงินทอง
“พี่พิมันไม่เหมือนเคยสิคะ แต่วิไลคงกลัวไปก่อนมั้งคะ เพราะเด็กนั่นไม่ได้เหมือนเด็กใจแตกทั่วๆ ไปที่เข้ามาก้อร่อก้อติกหลานชาย ดูเหมือนจะแค่พูดคุยกันเฉยๆ วิไลคงกังวลไปเอง”
“อย่างนั้นหรือ? แต่ถ้าไม่ชอบมาพากลยังไง วิไลรีบบอกพี่เลยนะ เดี๋ยวตาคาร์โลวสร้างเรื่องอีก เด็กนั่นยังเด็กเกินไป มีเรื่องขึ้นมาเรามีแต่เสียกับเสีย” คุณพิไลพรรณกำชับน้องสาวเสียงหนักแน่น แม้จะเป็นแค่ญาติห่างๆ แต่ก็สนิทสนมกันดี
“ค่ะ...วิไลบอกพี่พิให้รู้ล่วงหน้าไว้ก่อน จะได้หาทางรับมือทันถ้ามันเกิดเหตุการณ์อย่างที่เรากลัวจริงๆ เด็กนั่นอาจจะมาเหนือเมฆกว่าที่เราคิดก็ได้ วิไลเลยต้องบอกให้พี่พิหาวิธีป้องกัน”
“อืมม์...เดี๋ยวพี่เคลียร์งานทางนี้ก่อน อย่างที่รู้นั่นล่ะพี่กำลังจะเปิดสายการบินใหม่ในเมืองไทย ทางนี้เลยวุ่นวายน่าดู พี่จะรีบไปดูท่าทีเด็กนั่นก่อน แต่คงอีกซักประมาณ3-4อาทิตย์ มันคงจะไม่สายเกินไปนะ”
“ค่ะ...วิไลจะพยายามสอดส่องดูแลคาร์โลวไม่ให้ก่อเรื่องไปเสียก่อน พี่พิทำงานตามสบายเลย ถ้ามันเลวร้ายจริงๆ วิไลจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว”