บทที่3.แหวนแทนใจพร้อมกับคำสัญญา...
“เป็นคนรวยนี่ไม่ใช่ว่าสบายนะ ดูนายน้อยซิ...อิสระซักนิดยังไม่มี เกิดเป็นลูกคนรวย แถมลูกชายคนเดียวเสียอีก ทำอะไรแต่ล่ะทีต้องรอความเห็นจากผู้ใหญ่ก่อน หัวใจตัวเองยังไม่มีสิทธิ์ เลือกน่าสงสารจริงๆ ว่ะ”
“เออ...” การ์ดหนุ่มสองคนพูดคุยกัน เมื่อเกิดความเห็นใจเจ้านาย พวกเขาเพราะคอยเฝ้าดูแลมาตั้งแต่คาร์โลวเริ่มเป็นหนุ่มละอ่อน คุณพิไลพรรณจึงหาคนมาคอยดูแล รั้งคาร์โลวไว้ยามเกิดปัญหาและเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะความคึกคะนองของบุตรชาย
คาร์โลวก้มมองแหวนที่สวมติดกายไว้มาตั้งแต่เด็ก แหวนนามสกุล ‘สัตญาณุเศรษ’ แหวนที่คุณยายมอบให้ไว้ก่อนสิ้นใจ ซึ่งชายหนุ่มสวมติดตัวไว้ตลอดเวลา เก็บไว้คอยเตือนใจว่าสายเลือดครึ่งหนึ่งของตัวเองเป็นคนไทย ความที่เติบโตในต่างแดนเสียเป็นส่วนใหญ่ทำให้หลงลืมวัฒนธรรมของไทยไปจนเกือบหมด แต่สิ่งเดียวที่คาร์โลวยังไม่ลืมคือภาษาถิ่นกำเนิด หมั่นฝึกปรือจนพูดได้ชัดเจน ทำให้การสื่อสารของคาร์โลวและมนต์มีนาไม่ติดขัด
‘คุณยายผมเจอคนที่คุณยายบอกไว้แล้วล่ะครับ คนที่ทำให้รู้สึกสุขใจแม้แค่นั่งใกล้ๆ กัน คนที่ทำให้หัวใจเต้นแรงยามสบตา คนที่ทำให้เป็นกังวลห่วงหาเมื่อมองหาไม่เจอ คนที่รู้สึกอยากจะปกป้องดูแลให้ความอบอุ่นในหัวใจ’ ชายหนุ่มคิดในใจ เขารำพันถ้อยคำ ฝากสายลมถึงบุคคลสำคัญที่ลาจากโลกนี้ไปแล้ว
เขาตัดสินใจถอดแหวนทองคำ!! สีสุกปลั่งสลักนามสกุล ‘สัตญาณุเศรษ’ ไว้ด้านใน ตัวย่อ ที่รู้กันเฉพาะในครอบครัว ‘สศ’ ยกขึ้นส่องมองดูอย่างพิจารณาลึกซึ้ง แหวนแทนใจที่คุณตามอบให้คุณยายสมัยหนุ่มสาว ตอนเริ่มต้นชีวิตคู่และยังไม่ได้ร่ำรวยมากมายอะไร จึงมีแค่แหวนทองเกลี้ยงๆ วงเดียวที่คุณตาสามารถหามอบให้หญิงคนรักได้ เมื่อแรกเริ่มแต่งงานกัน คุณยายใส่ติดตัวไว้ตลอด แม้ทรัพย์สินจะมีเพิ่มขึ้นก็ไม่เคยถอดแหวนแทนใจวงนี้ออกจากนิ้ว เมื่อมั่งมีมากขึ้น มันสิ่งล้ำค่าที่เป็นสัญลักษณ์แทนใจ
“มีนา...อยากรู้จังว่ามีนาคิดเหมือนพี่ไหม” คาร์โลวทอดอาลัยเมื่อนึกถึงแววตากระจ่างใสของสาวน้อยมนต์มีนา ดวงตากลมโตไร้จริตมายา จนไม่สามารถคาดเดาความคิดของหล่อนได้เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เคยพบเจอ
“เสียชื่อเพลย์บอยชะมัด ไม่กล้าแม้กระทั่งบอกรักสาว รู้ถึงไหนอายถึงนั่น” ชายหนุ่มบ่นเสียงแผ่วๆ ซุกใบหน้ากับหมอนใบใหญ่รำพึงออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ เมื่อช่วงเวลาในวัยหนุ่มแน่น เขามองผู้หญิงเหมือนของเล่นมาตลอด พอมาเจอคนที่มีความรู้สึกพิเศษด้วย...กลับไม่กล้าแม้แต่เอ่ยคำบอก ‘รัก’
“โอ้ย...ทำไงดีวะนี่...ไม่รู้ล่ะ ก็คงต้องลองดูซักตั้ง ถ้าต้องอับอายเพราะจะบอกรักมีนา ก็ต้องลองดู มันคงไม่ถึงตายหรอกนะ”
เสียงรำพันออกมาอย่างทดท้อหลุดออกมาจาก้นบึ้งหัวใจ เมื่อคิดจะบอกรักสาวน้อยที่เข้ามานั่งกลางใจ ชายหนุ่มกำแหวนในมือแน่น ยกขึ้นจุมพิตที่เรือนแหวนแผ่วๆ ฝากความรักและปรารถนาดีไว้กับแหวนวงน้อยใช้แทนความรู้สึกดีๆ ของตัวเองมอบให้หล่อน เขาหยัดกายขึ้นจากที่นอน ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงจากเตียงใหญ่ จัดการทำความสะอาดร่างกายแต่งตัวเตรียมตัวออกไปพบหญิงสาวตามเวลาเดิม
เสียงฮัมเพลงเบาๆ คลอไปกับเสียงน้ำไหลขณะอาบน้ำของชายหนุ่มรูปงาม เมื่อเจ้าตัวอารมณ์ดีจนอยากแสดงออกให้ทุกคนรู้กันทั่ว โลกสดใสมีสีสันสวยงาม แม้แต่พื้นดินสีดำยังมองดูสวยสดสบายตา สำหรับชายหนุ่มที่ตกในห้วง ‘รัก’ ในตอนนี้ แสงสีรุ้งพร่างพราวสว่างไสวงดงาม รื่นรมจนอยากกู่ร้อง...บอกให้บุคคลอื่นรับรู้ยามเจ้าตัวอารมณ์ดีสุดๆ
เป็นเพราะอุบัติเหตุทำให้ต้องเข้าเฝือกที่ขาซ้ายเอาไว้ การทรงตัวจึงยังไม่ค่อยสมบรูณ์ เสื้อผ้าที่สวมใส่เน้นสะดวกสบายเข้าว่า วันนี้เขานึกอยากแต่งตัวหล่ออลังการ เพื่อทำภารกิจยิ่งใหญ่!! จึงงัดกางเกงขายาวผ้าเนื้อดีออกมาสวมใส่ การแต่งตัวอวดสาวครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยความลำบากเพราะร่างกายยังไม่สมบรูณ์พร้อมที่ทำอะไรแบบนี้ได้ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ไหลซึมที่ปลายจมูกโด่ง เมื่อความร้อนไหลมารวมกันอยู่ที่ใบหน้า คาร์โลวฮึดฮัดขัดใจตัวเอง เมื่อร่างกายทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ กว่าจะสวมกางเกงได้เสร็จคาร์โลวก็ล้มลุกคุกคลานหลายครั้ง...หลายหน เสียงตึงตังในห้องนอนกว้างของเจ้านายทำให้เบทเทอร์กับโปรการ์ดคนติดตามชะเง้อคอมองอย่างอยากรู้ แต่ไม่กล้าไปเคาะประตูถาม เมื่อถูกสั่งห้ามอย่างชัดเจน