ตอนที่ 2
แต่เอาเถอะ เพื่อเห็นแก่มรดกกองโตของตระกูล รวมๆ แล้วก็เฉียดหมื่นล้าน ในเมื่อคุณหญิงผกาผู้เป็นมารดาใช้แผนนี้กับตน เขาจะรับมือด้วยการ ‘ซ้อนแผน’ ของคุณหญิงแม่อีกที ด้วยการยอมๆ แต่งงานกับยัยน้องดาวอะไรนี่ไปก่อน จากนั้นค่อยหาหนทางหย่ากันทีหลัง ชายหนุ่มนึกในใจว่าคุณหญิงแม่รู้จักลูกชายคนนี้น้อยเกินไปเสียแล้ว
หนึ่งเดือนต่อมา
ภายหลังงานวิวาห์ที่จัดขึ้นในโรงแรมหรูได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ตลอดวันอันยาวนาน ดาราวดีรู้สึกว่าเพิ่งได้ชีวิตของตัวเองกลับคืนมา ได้กลับมาเป็นตัวเองอีกทีก็ตอนนี้เอง หลังจากพยายามทำตามใจคนโน้นคนนี้ ทั้งพ่อและแม่ที่เจ้ากี้เจ้าการเอาเธอมาใส่พานเป็นเจ้าสาวให้กับลูกชายของเศรษฐีซึ่งเธอเพิ่งมีโอกาสได้เห็นหน้าเขาเพียงไม่กี่วันก่อนเข้าพิธีวิวาห์
“ยัยดาว… รีบแต่งๆ ไปเถอะลูก หนูเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดรู้มั้ย โอกาสแบบนี้ใช่ว่าจะมีเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ รู้หรือเปล่าว่ามีแต่คนอิจฉาเรา มีแต่คนอยากเกี่ยวดองกับตระกูลของคุณหญิงผกากันทั้งนั้น ฐานะอย่างครอบครัวของเราเมื่อเทียบกับเขาก็หนูตกถังข้าวสารดีๆ นี่เอง หลังจากแต่งงานแล้วปล่อยให้มีลูกเลยนะ คุณหญิงผกาท่านบ่นกับแม่ว่าปูนนี้แล้วแกยังไม่ได้อุ้มหลานกับเขาเสียที”
ประโยคที่ผู้เป็นมารดาพูดกับหญิงสาว ยังกึกก้องอยู่เต็มสองหู ดาราวดีนึกในใจว่ามารดาของเธอคิดได้เพียงเท่านี้เองหรอกหรือ? แต่คิดอีกทีก็คงเป็นเพราะว่ามารดาพูดออกมาจากความเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวอย่างเธอ ทั้งพ่อและแม่กลัวว่าเธอจะขึ้นคานจนแก่หง่อมคาบ้าน ต้องเป็นภาระให้ดูแลตอนแก่เฒ่า เหมือนลืมไปว่าเธอเองก็ร่ำเรียนจนจบปริญญาตรี อาชีพการงานที่ทำอยู่แม้จะได้เงินเดือนไม่มาก แต่ก็พอให้ใช้จ่ายไม่ขัดสน
ปกติดาราวดีเป็นคนมัธยัสถ์อยู่แล้ว แต่งเนื้อแต่งตัวก็เรียบง่าย ไม่เคยฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยไปตามกระแสแฟชั่น ที่ผ่านๆ มาจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย
“เลิกทำงานเถอะลูก… รีบๆ แต่งงานเข้าบ้านคุณหญิงผกาไปเถอะ ไอ้งานบริษัทน่ะจะเสียเวลาทำอยู่ทำไม เงินเดือนก็ได้ไม่กี่บาท คุณหญิงผกาท่านรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะให้หนูเป็นเลขาส่วนตัวของท่าน คอยช่วยดูแลการงานและบ่าวไพร่ในบ้านที่มีอยู่มากมาย”
เป็นอีกเสียงโน้มน้าวของผู้เป็นบิดา อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก เธอเริ่มใจอ่อนลงในที่สุด ก็เพราะว่าบิดาของเธอเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านนายพลพิศาสซึ่งเป็นบิดาของเจ้าบ่าว ทำให้ดาราวดียอมแต่งงานกับ ‘พีรวิทย์’ ทายาทคนเดียวของคุณหญิงผกาในที่สุด
พีริวทย์เป็นเซเลปหนุ่มรูปหล่อที่บรรดาไฮโซและสาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันคลั่งไคล้หลงใหลจนแทบจะตบตีกันตาย ในอินสตาแกรมมีสาวๆ ติดตามเขาเป็นแสน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าผู้หญิงเหล่านั้นอยากเกี่ยวดองร่วมเครือญาติกับครอบครัวอภิมหาเศรษฐีอย่างเขา แต่สำหรับดาราวดีแล้วเธอรู้สึกเฉยๆ
อันที่จริงก่อนหน้านี้ดาราวดีแทบไม่เคยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับนายพีรวิทย์คนนี้แม้แต่น้อยนิด เธอเป็นคนค่อนข้างหัวเก่า ออกจะเชยๆ เสียด้วยซ้ำ ตามเทคโนโลยีไม่ค่อยทัน ปกติก็ไม่ค่อยสนใจข่าวคราวในวงการบันเทิงอยู่แล้ว ละครหลังข่าวก็ไม่ค่อยได้ดู ยิ่งเรื่องราวเกี่ยวกับวงการไฮโซยิ่งไปกันใหญ่ ยังดีที่เธอมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ชอบเอาเรื่องราวในวงการบันเทิงมาเล่าให้ฟัง ล้วนแต่เป็นเรื่องซุบซิบดารานินทาวงการไฮโซ เธอก็พลอยรับรู้ไปด้วย ทั้งที่ก็ฟังอย่างผ่านๆ เผินๆ ไม่ได้สนใจจริงจัง จนกระทั่งได้ยินเพื่อนรักเอ่ยถึงชื่อของนาย ‘พีรวิทย์’
ต่อมาดาราวดีก็เริ่มแอบทำความรู้จักกับเขาอยู่เงียบๆ ผ่านช่องทางสืบค้นของอากู๋กูเกิ้ล จนทำให้รู้ว่าเขาคงเจ้าชู้มาก ยืนยันด้วยข้อความและโพสต์เกี่ยวกับเขาที่ขึ้นมายาวพรืด ตอนที่อากู๋กูเกิ้ลแสดงผลของการสืบค้น จากเรื่องราวที่กวาดสายตาอ่านเพียงคร่าวๆ ล้วนเกี่ยวกับกิตติศัพท์ความเจ้าชู้และเรื่องราวกระฉ่อนฉาวของเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ ว่าเลิกกับคนนั้น คบกับคนนี้ กิ๊กกับคนโน้น มีข่าวลือเกี่ยวกับเขาเต็มไปหมด