1
กนกรัตน์ แก้วการะเกด หญิงสาววัย 23 กำลังครุ่นคิดอะไรหลายสิ่งหลายอย่างมากมายอยู่ในหัว อาจเป็นเพราะว่าในตอนนี้บ้านของเธอกำลังเป็นหนี้ มารดาเลยต้องยกเธอให้แต่งงานกันเริงฤทธิ์ นิชยา เจ้าของไร่หนุ่มที่สุดแสนจะปากร้ายเพื่อปลดหนี้ทั้งหมด
เมื่อวันก่อนเธอได้เจอกับเขาเพราะมีนัดรับประทานอาหารด้วยกัน เธอไม่ชอบนิสัยจิกกัดดูถูกดูแคลนของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะมารดาเป็นหนี้มารดาของเขา เธอเลยจำต้องแต่งงานกับเขา
อยากจะหนีไปแล้วทิ้งทุกสิ่งเอาไว้ตรงนี้หากไม่เพราะมารดาบังเกิดเกล้าที่ต้องแบกรับภาระทุกอย่างเอาไว้ ท่านส่งเธอเรียนจนจบ แต่ไม่เคยปริปากพูดเลยว่ามีปัญหาทางด้านการเงิน กนกรัตน์รู้ตัวเองดีว่าก่อนหน้านี้เธอใช้จ่ายโดยไม่คิด ไม่เคยคิดว่าจะประสบปัญหาเช่นนี้มาก่อน
“รัตน์อยู่ตรงนี้เองเหรอลูก แม่ตามหาเสียทั่วเลย” น้ำเสียงอ่อนโยนของมาดาทำให้กนกรัตน์หลุดจากภวังค์ความคิด
“คุณแม่มีอะไรคะ”
“เริงฤทธิ์มาน่ะจ้ะ” ประโยคของมารดาเหมือนเกรงใจเธออยู่มาก กนกรัตน์เม้มปากเล็กน้อย
“ค่ะ”
“ออกไปต้อนรับเขาหน่อยสิลูก”
“ค่ะ” กนกรัตน์รับคำ จำต้องเดินตามมารดาออกไปที่ห้องรับแขก ที่นั่นมีว่าที่เจ้าบ่าวของเธอกำลังนั่งรออยู่ที่โซฟา หญิงสาวอดเม้มปากเสียไม่ได้เมื่อได้สบตาของเขา
สีหน้าแววตาของเริงฤทธิ์บ่งบอกถึงความดูถูกดูแคลนและกวนประสาทอยู่ในที
“ตามสบายนะจ๊ะ เดี๋ยวป้าจะไปเตรียมอาหารกลางวันให้ฤทธิ์” คุณกนกวรรณรีบบอกว่าที่ลูกเขย
“ผมว่าจะรับน้องรัตน์ออกไปรับประทานอาหารข้างนอกน่ะครับ” เริงฤทธิ์บอกเจ้าของบ้านเสียงเรียบ
“งั้นเหรอจ๊ะ ได้สิไม่มีปัญหา เดี๋ยวให้น้องไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะจ๊ะ ฤทธิ์รอน้องสักนิดได้ไหม”
“ไม่ต้องอาบหรอกครับ ผมหิวแล้วครับ มองดูแล้วชุดนี้ก็ดูดีอยู่แล้วนะครับ” เขายืนขึ้นเต็มความสูง
กนกรัตน์ก้มมองตัวเองแทบจะทันที เธอสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสามส่วน ใบหน้าไร้การตบแต่งแถมยังมันเยิ้มไปหมดเพราะเพิ่งลงกุหลาบแปลงใหม่ก่อนนั่งพัก
“ค่ะ” ในเมื่อเขาไม่คิดว่าจะอายใครๆ ที่พาจะเด็กกะโปโลแต่งตัวปอนด์ๆ ออกจากบ้านแบบเธอไปกินข้าว เธอก็ไม่อาย
“แต่...” คุณกนกวรรณอึกอัก คิดว่าบุตรสาวแต่งตัวออกไปแบบนี้มันดูไม่เหมาะ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ ชุดนี้ก็ดีอยู่แล้วค่ะ” เธอเดินนำเขาออกไปเมื่อเขาผายมือเชิญ เริงฤทธิ์เองก็ไม่คิดว่าหญิงสาวจะตอบตกลงออกไปทั้งชุดแบบนี้
“พวกหิวเงินนี่ยอมทำได้ทุกอย่างเลยนะ” เขาเปรยขึ้นเมื่อเธอขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว
“คุณฤทธิ์หมายความว่ายังไงคะ”
“ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ”
“รัตน์รู้ดีค่ะว่ารัตน์เป็นหนี้ แต่รัตน์พยายามหางานทำอยู่ นะคะ อยากจะเอาเงินมาใช้หนี้คุณให้หมดตอนนี้เลย แต่ยังไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงานเลย” การแต่งงานกับเขาคือการปลดหนี้อย่างหนึ่ง แต่เธอไม่ได้ปรารถนาจะทำเช่นนั้น เธอมีงานที่รักทำอยู่แล้วแต่ไม่เคยบอกใคร เนื่องจากเธอจบอักษรศาสตร์ดังนั้นจึงเริ่มเขียนเรื่องสั้นและบทความรายตอนแล้วติดเหรียญขายตามเวปต่างๆ แม้รายได้จะยังน้อยอยู่ แต่คิดว่าอนาคตมีแฟนคลับมากขึ้น รายได้ก็คงตามมามากกว่านี้
“จริงๆ จะหางานทำให้เหนื่อยทำไม แค่แต่งงานก็จบแล้ว” เขาพูดก่อนจะเหยียดปาก
“รัตน์รู้ดีค่ะว่าคุณฤทธิ์ไม่ได้อยากแต่งงาน รัตน์เองก็ไม่ได้อยากแต่ง” เธอถอนใจพรืด
“อ้อ... ไม่อยากแต่งงานแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธนี่นา ถ้าเป็นฉันก็คงแต่ง แค่นอนให้ใครสักคนเอา โดยการใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆ พร้อมด้วยทะเบียนสมรสสักใบก็ปลดหนี้ได้ตั้งหลายล้าน ใครไม่เอาก็โง่แล้ว”
“แต่ไม่ใช่รัตน์แน่นอนค่ะ” เธอคอแข็ง ไม่ชอบให้ใครมาพูดจาดูถูกแบบนี้
“อ้อ... เหรอ แต่ฉันเห็นเธอวิ่งโร่ตามฉันออกมากินข้าว แม้จะอยู่ในชุดเน่าๆ แบบนี้”
“คุณฤทธิ์อยากแกล้งรัตน์ไม่ใช่เหรอคะ อยากให้รัตน์ต้องอายคนอื่นเลยให้ออกมาในชุดแบบนี้” เธอรู้ทันเขา
“อย่ามากล่าวหากันเลยดีกว่า ถ้าไม่อยากวิ่งตามออกมาจริงๆ คงต้องคัดค้านบ้างแหละ” เขาไม่ชอบผู้หญิงไม่มีความคิด
“อ้อ... ค่ะ วันหลังถ้าไม่ชอบจะคัดค้าน”
“แบบเธอร้านก๋วยเตี๋ยวข้างถนนก็คงพอนะ” เขาเลี้ยวรถเข้าไปจอดข้างทางก่อนจะเดินลงจากรถ