9 คุยกันมากขึ้น
ภาคินคิดไม่นานก็ตอบคำถามของเลขาสาวออกไป
“ผู้หญิงทำงานเก่งฉลาดและไม่งี่เง่า คุณก็รู้นี่ว่าผมทำงานหนักมากและงานต้องมาก่อน จะให้ผมทำตัวติดกับเธอตลอดคงไปเป็นไปได้ยาก ผู้หญิงที่จะเข้ามาเธอก็ต้องเข้าใจข้อนี้ด้วย”
“แต่มันหายากนะคะผู้หญิงที่จะเข้าใจ ใครๆ ก็ต้องอยากอยู่ใกล้คนที่ตัวเองรักทั้งนั้นแหละค่ะ”
“คุณชอบให้แฟนอยู่ด้วยตลอดเหรอมัดหมี่”
“ค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลานะคะ เพราะมัดหมี่ก็มีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบเยอะเหมือนกันค่ะ คนที่จะเข้ามาต้องยอมรับได้ด้วยว่าสิ่งที่สำคัญสำหรับมัดหมี่ในตอนนี้ไม่ใช่แค่ความรักเพียงอย่างเดียว เขาคนนั้นต้องรับได้ด้วยว่ามัดหมี่มีหนี้สินที่ต้องจ่าย แต่มัดหมี่ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องมาช่วยใช้หนี้หรอกนะคะ ขอแค่เขาไม่รังเกียจและให้กำลังใจอยู่ข้างๆ แค่นี้พอแล้ว” พลอยลลินณ์พูดทุกอย่างออกมาจากความรู้สึกของตัวเองอย่างไม่มีปิดบัง
“คุณพูดตรงดีนะ แล้วจะบอกคนที่เข้ามาตั้งแต่เริ่มจีบเลยไหมล่ะ”
“ค่ะ บอกไว้ก่อนเลยจะได้ไม่เสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย ถ้าเขารับได้ก็คุยต่อแต่ถ้ารับไม่ได้ก็ต่างคนต่างไป”
“ผมชอบทัศนคติของคุณนะ แล้วตอนนี้คุณกับแฟนคุณเป็นยังไงล่ะ ได้กลับมาคุยกันอีกไหม”
“ไม่หรอกค่ะมัดหมี่ไม่มีเวลาคิดเรื่องแฟน ตอนนี้เรื่องเงินต้องมาก่อนค่ะ มัดหมี่ไม่รู้ว่าวันไหนพ่อจะสร้างหนี้ขึ้นมาอีก”
“คุณอายุยังน้อยแต่ความรับผิดชอบสูงมากจนผมทึ่งเลยนะมัดหมี่” ภาคินเอ่ยชมจากใจจริง ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยบ่นและน้อยใจในโชคชะตาเลยแต่เธอหันหน้าเข้าหาปัญหาและพยายามแก้ไขทุกอย่างทั้งที่ปัญหานั้นตนไม่ได้ก่อด้วยซ้ำ
ทั้งสองคุยกันจนภาคินขับรถมาร้านอาหารไทยที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน
“คุณไปรอข้างในก่อนนะผมจะไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“ค่ะ บอสทานเหมือนเดิมใช่ไหมคะ”
“ครับ คุณจัดการสั่งอาหารเลยนะ”
“ได้ค่ะ”
เจ้านายหนุ่มเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วพลอยลลินณ์ก็เดินตามพนักงานไปนั่งด้านริมสุดติดกับหน้าต่างซึ่งมองออกไปเห็นสวนหย่อมเล็กๆ ที่ทางร้านจัดแต่งไว้อย่างสวยงาม
หญิงสาวจัดการสั่งอาหารเมนูโปรดของเจ้านายซึ่งเธอเองก็ชอบทานเหมือนกับเขาด้วย ทำให้ทุกครั้งที่ออกมาทานอาหารด้วยกันเธอและเจ้านายจะทานด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย
พลอยลลินณ์ไม่ลืมที่จะสั่งน้ำมะพร้าวปั่นเย็นๆ มาให้บอสหนุ่ม ส่วนของตนเองนั้นเลือกเป็นน้ำแตงโมปั่นเพื่อดับกระหาย
ภาคินเดินเข้ามาในร้านแล้วตรงไปยังโต๊ะที่เลขานั่งอยู่ก่อนจะยกน้ำมะพร้าวปั่นขึ้นมาดูดแล้วยิ้มกว้าง
“ขอบใจนะมัดหมี่” ทุกครั้งที่ออกมาทานข้าวกับเลขาเขาไม่เคยต้องเสียเวลาสั่งอาหารหรือคิดเมนูเลยมันเป็นความสบายที่รู้สึกเคยชิน ในใจเผลอแอบคิดว่าถ้าผู้หญิงตรงหน้าเป็นคนรักของเขาชีวิตก็คงจะง่ายขึ้นมาก
“บอสคะร้านนี้มีข้าวแช่ด้วยนะคะ มัดหมี่สั่งให้แล้วค่ะ”
“ดีเหมือนกันนะผมไม่ได้กินนานแล้ว”
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟคนหิวทั้งสองคนก็พากันรับประทานโดยไม่มีใครพูดจาอะไร พอทานอาหารคาวเสร็จแล้วข้าวแช่สำหรับชายหนุ่มก็มาเสิร์ฟต่อ ส่วนของหญิงสาวนั้นเป็นเค้กเผือกของโปรด
“อาหารร้านนี้อร่อยนะคะ ราคาก็ไม่แพงเลยเสียดายว่ามันอยู่นอกเมืองไปนิด” เพราะไม่มีรถส่วนตัวใช้ถึงแม้อาหารจะอร่อยมากแค่ไหนแต่พลอยลลินณ์ก็คงไม่นั่งรถเมล์มาทานแน่ๆ
“ผมก็ว่าอร่อยนะอาหารรสชาติแบบนี้หายาก คุณชอบไหมล่ะ”
“ชอบค่ะ”
“ถ้าชอบวันหลังเราก็มากินกันอีกสิถึงจะอยู่นอกเมืองแต่ขับรถแป๊บเดียวก็น่าจะถึง”
“มัดหมี่ไม่รบกวนบอสหรอกค่ะ ของอร่อยแบบนี้นานๆ กินทีก็ได้” หญิงสาวพูออย่างเกรงใจ
“คุณกินเยอะแบบนี้ไม่กลัวอ้วนเหรอ”
“ไม่ค่ะปกติมัดหมี่ก็จะออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ”
“ผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบคุณก็อึดเหมือนกันนะขนาดผมเป็นผู้ชายบางครั้งยังขี้เกียจลุกมาออกกำลังกายเลย"
“ไม่ได้หรอกค่ะถ้าเราร่างกายไม่แข็งแรงมันก็จะทำให้เราทำงานได้อย่างไม่เต็มที่”
“ผมคิดว่าผมบ้างานแล้วแต่พอได้คุยกับคุณผมก็คิดว่าเราสองคนก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่”
“ต่างสิคะบอส”
“ยังไงล่ะ”
“บอสทำงานหนักเพราะมีลูกน้องอีกเยอะที่ต้องรับผิดชอบ แต่มัดหมี่ทำงานหนักเพื่อปากและท้องของตัวเองค่ะ” เธอพูดอย่างไม่อายเพราะมันเป็นเรื่องจริง
“แล้วเหนื่อยไหม”
“เหนื่อยสิคะ แต่นอนพักก็หายค่ะ”
ยิ่งได้คุยกับเธอนานมากขึ้นภาคินก็ยิ่งรู้สึกประทับใจ แต่ก่อนเขากับพลอยลลินณ์ไม่ได้คุยเรื่องส่วนตัวกันเท่าไหร่เพราะเขารู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้วการจะสนิทสนมกันก็เกรงใจ แต่พอเธอโสดเขาก็รู้สึกอยากจะคุยกับเธอมากขึ้น
หลังจากทานอาหารอิ่มแล้วเขาก็ขับรถมาส่งเธออย่างเคย
“อยากได้ของฝากอะไรจากญี่ปุ่นไหมล่ะมัดหมี่” เขาถามอีกครั้งขณะที่จอดรถหน้าคอนโดมีเนียมของหญิงสาว
“ไม่ต้องหรอกค่ะมัดหมี่ว่าบอสเที่ยวกับคุณว่านให้สนุกดีกว่ากลับมาจะได้ลุยงานอย่างเต็มที่”
“แล้วคุณไม่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นมั่งเหรอมัดหมี่”
“อยากไปสิคะถ้าไม่อยากไปมัดหมี่จะมีข้อมูลประเทศนี้เยอะแยะทำไม”
“คุณเคยไปจริงๆ สักครั้งหรือยังล่ะ”
“เคยวางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวกับพี่ต้นค่ะเรากำลังเก็บเงินกันอยู่แต่พอเกิดเรื่องพ่อขึ้นมามัดหมี่ก็เลยเลิกคิด”
“โบนัสปลายปีนี้ผมให้ตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวญี่ปุ่นดีไหมล่ะ”
“ดีค่ะ แต่ขอเพื่อนด้วยไหมไปคนเดียวเหงาแย่”
“ได้สิ ถ้าถึงตอนนั้นก็เตือนผมด้วยนะ”
“ขอบคุณล่วงหน้านะคะบอส บอสของมัดหมี่ทั้งหล่อทั้งใจดีแบบนี้มัดหมี่จะทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เลยค่ะ” พลอยลลินณ์พูดไปยิ้มไปเมื่อคิดไปถึงคราวที่ตัวเองจะได้ไปเที่ยวประเทศที่ชอบ
“ผมไปล่ะนะ ถ้าเปลี่ยนใจอยากได้อะไรก็โทรไปบอกละกัน”
“ได้ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะบอส” พลอยลลินณ์โบกมือให้กับเจ้านายก่อนจะเดินขึ้นมาบนห้อง
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่เหนื่อยมากแต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดี หญิงสาวอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอนเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะทำคลิปรีวิวสินค้าเพราะเธอยังมีเวลาเหลือถึงสี่วันที่จะทำงานที่รับมาให้เสร็จ
คนอื่นอาจจะดีใจที่ได้หยุดและออกไปเที่ยวแต่สำหรับคนที่มีภาระอย่างเธอวันหยุดก็คือวันที่เปลี่ยนสถานที่ทำงานจากบริษัทมาเป็นคอนโดมิเนียมเล็กๆ ที่ผ่อนไปยังไม่ถึงครึ่ง
“เฮ้อ” พลอยลลินณ์ถอนหายใจก่อนละล้มตัวลงนอน แม้ร่างกายจะเหนื่อยแค่ไหนแต่ตอนนี้สมองกลับตื่นตัวและคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน
ที่ผ่านมาเธอกับเจ้านายหนุ่มก็ออกไปทำงานด้วยกันอยู่บ่อยครั้งแต่พลอยลลินณ์รู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศมันแปลกออกไป ไม่รู้ว่าคิดมากไปเองหรือเปล่าแต่วันนี้บอสของเธอพูดกับเธอมากขึ้น ยิ้มให้เธอบ่อยขึ้นและยังใจดีจะให้โบนัสไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกด้วย
‘ห้ามคิดอะไรกับเขานะ เขาเป็นเจ้านายของเธอ’ เสียงในหัวของหญิงสาวเตือนสติ