บท
ตั้งค่า

1 บางเรื่องก็เข้าใจยาก

การประชุมใหญ่ประจำปีของบริษัทเอสทีแอลเรียลเอสเต็ท ดีเวลล็อปเม็นท์คอนซัลติ้งจํากัดจบลงในเวลาสองทุ่มผู้เข้าประชุมทยอยออกจากห้องประชุมของบริษัทด้วยความเหนื่อยล้า การประชุมลากยาวมาตั้งแต่บ่ายโมงเพราะเรื่องที่ประชุมวันนี้เป็นเรื่องโปรเจกต์ใหญ่ที่บริษัทของเขาร่วมทุนกับนักลงทุนชาวต่างชาติเพื่อสร้างสร้างบ้านหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 10 หลังซึ่งแต่ละหลังราคาไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทเพื่อขายให้มหาเศรษฐีชาวต่างชาติที่ชอบในประเทศไทย

นอกจากนั้นยังมีโครงการคอนโดมิเนียมขนาดกลางอีก 100 ยูนิต กลางสุขุมวิทซึ่งราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15 ล้านบาทไปจนถึง 80 ล้านบาท

ภาคินชายหนุ่มวัย 31 ปีถึงมีซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโครงการนี้ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากที่ผู้บริหารคนอื่นออกจากห้องประชุมไปแล้ว

“มัดหมี่คุณรีบกลับไหม” เขาถามเลขาที่กำลังเก็บของเตรียมจะเลิกงาน

“ไม่ค่ะบอสมีอะไรจะใช้มัดหมี่คะ”

“เปล่าหรอกผมแค่กำลังสงสัยว่าทำไมจู่ๆ คุณยายถึงขึ้นราคาที่ดินจากเดิมที่ตกลงกันไว้แค่สิบล้านแล้วจู่ๆ เปลี่ยนมาเป็น สิบห้าล้าน ผมว่าเรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ คุณคิดเหมือนผมไหม"

“มัดหมี่ก็คิดเหมือนบอสเลยค่ะ ที่ดินของคุณยายมันก็ไม่ได้มากเท่าไหร่และก็ไม่เป็นปัญหาถ้าหากว่าเราจะไม่ได้ที่ดินตรงนั้น เพราะบอสซื้อก็เพราะอยากสร้างศาลาริมน้ำใช่ไหมล่ะคะ” เลขาสาวก็สงสัยเรื่องนี้

“ผมว่าถ้าราคาแบบนี้คงต้องไปคุยกับคุณยายอีกทีเพราะถ้าโครงการของเราเสร็จที่ตรงนั้นจะกลายเป็นที่ตาบอดทันที ผมไม่อยากรังแกคนแก่”

“มัดหมี่สงสัยว่าทำไมจู่ๆ ท่านถึงเปลี่ยนใจหรือว่ามีใครไปพูดอะไรให้ยายขึ้นราคา แต่คนที่บอกก็คงไม่รู้เรื่องโครงการเท่าไหร่เพราะถ้ารู้จริงคงไม่กล้าบอกให้ยายขึ้นราคา”

“นั้นสิ ผมอยากรู้เหมือนกันว่ามีใครเป็นคนไปพูดอีกอย่างครั้งนี้ยายเขาไม่ได้บอกเราโดยตรงๆ แต่บอกผ่านมาทางสุวิจักขณ์อีกที”

“หรือคุณสุวิจักขณ์จะมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้คะ”

“คุณคิดอย่างนั้นเหรอมัดหมี่”

“มัดหมี่ก็ไม่อยากจะใส่ร้ายหรอกนะคะ เพราะคุณสุวิจักขณ์เธอเป็นญาติของบอสแต่พักหลังมานี่มัดหมี่ได้กลิ่นแปลกๆ”

“แปลกยังไง”

“พ่อบอกว่าเจอคุณสุวิจักขณ์ในบ่อน”

“นี่พ่อคุณยังเข้าบ่อนอีกเหรอไหนว่าเลิกเล่นแล้ว”

“เลิกแล้วค่ะ พ่อเคยเล่าให้มัดหมี่ฟังตั้งแต่สองเดือนก่อน”

“ผมนึกว่าพ่อคุณกลับไปเล่นการพนันอีกแล้ว”

“ถ้าพ่อยังไปเล่นการพนันอีกคราวนี้มัดหมี่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้วนะคะ แค่มัดหมี่ต้องมาทำงานและรับเงินเดือนแค่ครึ่งเดียวมันก็ลำบากมากพออยู่แล้ว”

"คุณรับผิดชอบหนี้ทั้งหมดคนเดียวเลยเหรอ แล้วแฟนคุณล่ะ ได้ช่วยบ้างไหม"

“บอสหมายถึงพี่ต้นเหรอคะ”

“อือ เขาได้ช่วยเหลือบ้างไหม” เขาเคยเห็นแฟนหนุ่มของเลขามารับอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ค่อยได้คุยกันบ่อย

“มัดหมี่กับเขาเลิกกันไปแล้วค่ะ”

“ถึงว่าช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเขามารับคุณเลย” ภาคินแอบยิ้มในใจเพราะเขาไม่ค่อยชอบแฟนของเลขาเท่าไหร่ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ชอบ

"มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า หรือคุณไม่ค่อยมีเวลาให้เขา"

“ไม่เกี่ยวกับเรื่องเวลาหรอกค่ะ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับพ่อ"

"เรื่องที่พ่อคุณเป็นหนี้สองล้านน่ะเหรอ”

“ค่ะ พี่ต้นเขาไม่อยากเอาตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาไม่อยากรับผิดชอบเรื่องนี้”

“มันก็พูดยากนะ คุณคงเสียใจมาก”

“ก็นิดหน่อยค่ะ แต่มัดหมี่เข้าใจค่ะ เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียเลยก็คงกลัวที่จะต้องคบกับคนที่มีหนี้สินแบบมัดหมี่”

“แต่คนเราถ้ารักกันจริงๆ ผมว่าจะต้องช่วยเหลือกันเวลาที่ลำบากนะ”

“โธ่บอสคะเงินสองล้านมันไม่ใช่น้อยๆ เลยต่อให้รักมากแค่ไหนก็ไม่มีใครเขาทุ่มเทเพื่อผู้หญิงคนเดียวหรอกค่ะ”

“ผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาคิดยังไงแต่สำหรับผมถ้าลองรักใครแล้วเรื่องเงินมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่”

“จริงสิคะพูดถึงเรื่องความรักมัดหมี่เพิ่งนึกขึ้นได้วันนี้คุณว่านโทรมาบอกมัดหมี่ว่าเธอจะไปฉลองงานวันเกิดของเพื่อนแล้วให้บอสตามไปทีหลังค่ะ”

“ที่ไหนล่ะผับXXXค่ะ”

“เขาบอกไหมว่าผมต้องไปถึงกี่โมง”

“ไม่ได้บอกค่ะ”

“เพื่อนคนนี้ชื่ออะไรคุณรู้ไหม”

“น่าจะชื่อเชอร์รี่นะคะ”

“ไม่ใช่แล้วล่ะ”

“ไม่ใช่อะไรคะ”

“ก็คนที่ชื่อเชอร์รี่เพิ่งเกิดไปเดือนที่แล้วผมว่า ว่านคงจะหาข้ออ้างเที่ยวแล้วให้ผมตามไปจ่ายเงินมากกว่า”

“ไหนบอสบอกว่าถ้ารักแล้วเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา” หญิงสาวถามกลับอย่างสงสัย

“มันก็จริงแต่จริงนะแต่เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่จำเป็นจะต้องจ่าย” ที่พูดแบบนี้เพราะเริ่มจะเบื่อผู้หญิงที่ชื่อว่านหรือวาริสานางแบบที่เจอกันเพราะเขาจ้างให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เมื่อหลายเดือนก่อน

“แต่เงินแค่นั้นมันอาจจะน้อยนิด”

“คุณอาจจะเห็นผมมีเงินมากมายรวยล้นฟ้าแต่กว่าผมจะมาถึงวันนี้ได้ผมก็ลำบากมาเหมือนกันเพราะฉะนั้นการใช้เงินของผมทุกบาททุกสตางค์มันต้องคุ้มค่าและมีเหตุผล”

“มัดหมี่ไม่เข้าใจบอสเลยค่ะเมื่อกี้บอสบอกว่ายอมจ่ายเพื่อคนรัก มาตอนนี้บอกว่าการใช้เงินทุกอย่างต้องมีเหตุผล”

“อย่าว่าแต่คุณเลยมัดหมี่ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวผมเหมือนกัน” ภาคินหัวเราะให้กับความคิดของตัวเอง

“บอสมีอะไรจะใช้มัดหมี่อีกไหมคะ”

“ไม่นะ”

“นี่มันก็ดึกแล้วถ้าไม่มีอะไรมัดหมี่ขอตัวกลับเลยนะคะ”

“แล้วจะกลับยังไงดึกแล้วนะรถเมล์น่าจะหมด”

“เรียกแท็กซี่ไปก็ได้ค่ะ”

“คอนโดคุณ ยังอยู่ที่เดิมใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ”

“เดี๋ยวผมไปส่งก็แล้วกัน”

“บอสต้องไปหาคุณว่านอีกนะคะ”

“วันนี้เหนื่อยมาก ผมอยากกลับไปพักมากกว่า”

“แต่คอนโดของมัดหมี่ไปคนละทางกับบ้านของบอสนะคะ”

“คืนนี้ผมว่าจะไปค้างที่คอนโดของผมน่ะ” เขาถอนหายใจเมื่อนึกถึงบรรยากาศที่บ้าน ภาคินไม่รู้ว่ามารดาของตนคุยกับใครมาเพราะทุกครั้งที่เจอหน้าก็มักจะพูดถึงแต่เรื่องแต่งงาน ซึ่งมันไม่เคยมีอยู่ในหัวของชายหนุ่มเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel