คนปากร้าย(2)
กมลชนกคิดว่ายังมีอย่างอื่นที่ลูกชายไม่ได้พูดให้ฟัง เธอคิดว่าทั้งสองคนอาจจะกำลังมีเรื่องทะเลาะกันอยู่แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรลูกชายมากเกินไปอัปสรสาวรับใช้ในบ้านที่กมลชนกและอภิวัฒน์เลี้ยงเหมือนลูกบุญธรรมคนหนึ่ง เพราะพ่อของเธอเป็นคนสละชีวิตเข้ามาบังกระสุนที่มีคนลอบทำร้ายอภิวัฒน์เมื่อหลายปีก่อนซึ่งบุญคุณนี้ทั้งกมลชนกและอภิวัฒน์ตั้งใจจะตอบแทนด้วยการดูแลอัปสรให้ดีที่สุด
“อาทิตย์หน้าก็จะเรียนจบแล้วใช่ไหม คิดไว้หรือยังว่าจะไปย้ายไปอยู่ที่ไหน”
รัฐภูมิถามด้วยคำถามที่ดูไม่เป็นมิตรกับคนที่กำลังวางเครื่องดื่มตรงหน้าเขา ทั้งน้ำเสียงและใบหน้าแสดงถึงความหงุดหงิด
“จะต้องให้ไปอยู่ไหนล่ะ ก็อยู่ที่บ้านเรานั่นแหละ ส่วนเรื่องงานก็อยู่ที่อัปสรว่าจะเลือกไปหางานทำเองหรือจะทำที่บริษัทของครอบครัวเรา”
กมลชนกพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมา เธอไม่ชอบเลยที่ลูกชายชอบพูดจาไม่ดีใส่อัปสรถึงแม้เธอจะรู้ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไรก็ตาม
“คุณแม่ไปบังคับเธอหรือเปล่าครับ ผมว่าเด็กสาวสมัยนี้เขาอยากออกไปใช้ชีวิตอิสระมากกว่า”
รัฐภูมิไม่เชื่อในสิ่งที่อัปสรแสดงเวลาที่อยู่บ้านเขา ชายหนุ่มมองหญิงสาวในแง่ร้าย คิดว่าความจริงเธอก็เป็นเพียงแค่สาวน้อยใจที่เวลาอยู่ในบ้านก็แสดงเหมือนเป็นคนเรียบร้อยไม่ชอบไปไหนซึ่งเขาลองเปรียบเทียบเธอกับเววิตาเขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าอัปสรจะเป็นอย่างที่ทุกคนเห็น
“สรอยากอยู่ที่บ้านนี้ค่ะ”
หญิงสาวตอบพร้อมกับแอบถอนหายใจ หลายปีแล้วที่เธอเข้ามาอยู่บ้านนี้แทบจะไม่เคยมีสักครั้งที่ รัฐภูมิจะพูดกับเธอดีๆถึงแม้ว่าเวลาที่มีปัญหาอะไร เขาก็มักจะหยิบยื่นความมีน้ำใจให้เธอเสมอแต่ก็ยังคงเป็นคนปากร้ายเช่นเดิม
“มีอะไรก็ไปทำไปอัปสร”
กมลชนกไม่อยากที่จะทนฟังลูกชายพูดจาไม่ดีใส่เด็กในบ้านเพราะเธอรู้ว่าอีกไม่นานหลังจากเปิดพิธีกรรมในวันพรุ่งนี้ อัปสรคงจะต้องทนความปากร้ายของรัฐภูมิไปอีกนาน
“แม่ว่าแทนที่ลูกจะเอาอัปสรไปเปรียบเทียบกับเววิตาแล้วมองว่าเธอกำลังแสดงเป็นคนเรียบร้อยทั้งที่จริงๆก็เป็นสาววัยรุ่นที่ชอบความสนุกสนานชอบอิสระแม่ว่าลูกลองคิดใหม่นะ เววิตาต่างหากที่ทำไมถึงมีอะไรต่างจากอัปสรทั้งที่อายุก็ต่างกันไม่มาก”
รัฐภูมิถึงแม้ว่าเขาจะเคยคิดเหมือนในสิ่งที่มารดากำลังพูดแต่ก็อดที่จะคิดเข้าข้างคนรักไม่ได้โดยเฉพาะสถานการณ์ตอนนี้ที่เขากำลังรู้สึกเหมือนเธอห่างเขาออกไปทุกที
“ผมว่าช่วงหลังที่เววิตาดูเปลี่ยนไปน่าจะเกิดจากที่ผมไม่ยอมพูดเรื่องงานแต่งงานระหว่างเราสักที ก็ตอนแรกผมคิดว่าจะคุยกับคุณพ่อคุณแม่แล้วก็จะแต่งกันให้เร็วที่สุดแต่บ้านเราก็มาเกิดเหตุที่สูญเสีย คุณพ่อไปแบบนี้ ผมก็เลยลืมเรื่องนี้ไปสนิท เธอก็คงน้อยใจ”
“น่าแปลกนะลูกที่อยากแต่งงานแต่กลับไม่เคยอยากอยู่กับคนรัก ถ้าแม่จำไม่ผิดงานศพคุณพ่อเววิตาก็แค่มากับครอบครัวแทนที่เธอจะมาอยู่เคียงข้างลูกตลอด”
กมลชนกพูดจบเธอก็ลุกหนีลูกชายเพราะพรุ่งนี้ชีวิตของรัฐภูมิจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เววิตานอกจากที่จะไม่ได้แต่งงานกับรัฐภูมิเธออาจจะต้องกลายเป็นคนอื่นในชีวิตรัฐภูมิด้วยซ้ำ