บทที่ 15 เขาน่ากลัวเกินไปแล้ว
ผีสาวเริ่มสติแตก เดินนำเจ้าอี้เฟยมั่วไปมา ในที่สุดพวกเธอก็ออกมาจากโรงพยาบาลได้สำเร็จ
“เธอข้ามถนนไปฝั่งโน้นก่อน แล้วเรียกแท็กซี่ฉันมีบ้านหลังเล็กๆ ที่แอบซื้อไว้เราไปที่นั่นกันแล้วค่อยคิดหาทางออก”
เฉียนเฟยเฟยลอยนำเจ้าอี้เฟยไปอีกฟาก
เจ้าอี้เฟยมองรถที่วิ่งกันขวักไขว่จนเธอเห็นว่าถนนว่างก็รีบก้าวขาข้ามถนนไป
แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อเห็นรถคันหนึ่งกำลังขับตรงมายังเธอ ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วโดนความตกใจเข้าจู่โจมทำให้เธอขาอ่อนล้มพับลงตรงกลางถนน
เสียงเบรกรถดังสนั่นหวั่นไหว ผู้ชายร่างสูงรีบเปิดประตูรถวิ่งเข้ามาดูเธอทันทีด้วยความตกใจ เจ้าอี้เฟยไม่ได้เจ็บเพราะโดนรถชน แต่เธอกำลังเจ็บเพราะล้มต่างหาก
วิญญาณของเฉียนเฟยเฟยรีบลอยกลับมาด้วยอาการตกใจไม่ต่างกัน
“เฟยเอ๋อ เธอเป็นยังไงบ้างทำไมไม่รอสัญญาณไฟก่อน เฟยเอ๋อ”
เฉียนเฟยเฟยตกใจแทบวิญญาณสลาย คงเป็นเพราะเฟยเอ๋อมาจากยุคโบราณเลยไม่รู้จักสัญญาณไฟ
ยัยโง่เฟยเฟยเอ๊ย เป็นความผิดของเธอเองที่คิดว่ารอบคอบสอนทุกสิ่งให้เฟยเอ๋อไปหมดแล้ว
“คุณเป็นยังไงบ้างครับ อยู่เฉยๆ นะครับอย่าเพิ่งขยับ ผมเป็นหมอ”
เสียงคุ้นเคยนุ่มทุ้มดังขึ้น เจ้าอี้เฟยมองใบหน้าคมของคนคุ้นเคยแล้วทำตัวอ่อนเอนกายเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของเขาทันที
สองมือน้อยบอบบางยกโอบรอบร่างหนาของเขาไว้ ในอันตรายกลับมีโอกาส เธอต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้
“โอ๊ย เจ็บเหลือเกินค่ะ คุณขับรถชนฉัน คุณต้องรับผิดชอบ โอ๊ยเจ็บมากเหลือเกิน”
หญิงสาวร้องเสียงดังเอนกายเข้าซบอกแข็งแรงของเขา แล้วแกล้งทำเสียงเจ็บปวดแสนสาหัส บดเบียดร่างกายเข้าหาไม่ให้เขาขยับห่างแม้แต่เซ็นเดียว
“คุณครับ คุณครับ”
โจวเจี๋ยหลุนตกใจ เขารีบดึงแมสปิดหน้าสีขาวของพยาบาลคนนี้ออกมาก่อนที่หญิงสาวจะหายใจไม่ออก แต่แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าคนที่เขาเกือบจะขับรถชนคือใคร
“เฉียนเฟยเฟย คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เจ้าอี้เฟยตกตะลึงไม่คิดว่าจะเป็นเขา กระทั่งเขาเอ่ยขึ้นอีกคำ
"คุณยืนเองไหวมั๊ย"
"ไม่ไหวค่ะ ฉันเจ็บมากเลย"
เจ้าอี้เฟยส่ายหน้าแสร้งเจ็บทันที ขาเธอเจ็บนิดหน่อย ดูเหมือนว่าจะครูดกับถนนจนมีเลือดซึมเล็กน้อย แต่หากถามกันจริง ๆ เธอย่อมยืนไหวแน่นอน
ความจริงนี่เป็นมารยาที่เธอหัดใช้หลังจากศึกษามาอย่างหนักกับเฉียนเฟยเฟยตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
เธอไม่ต้องการเป็นผู้หญิงที่ดี เธออยากเป็นผู้หญิงที่เขามีใจให้ เวลาเธอมีน้อยหากไม่รุกหาเขาแล้วความสำเร็จย่อมเป็นไปได้ยาก
สำหรับเธอแม้มีโอกาสเพียงแค่หนึ่งส่วนเธอก็จะคว้าเอาไว้
เพียงแต่น่าเสียดายที่ท่านพี่ดูเหมือนจะรู้ทันเธอเสียแล้ว
โจวเจี๋ยหลุนทำหน้าตึง เขาขยับกายห่างจากเธอเล็กน้อย พร้อมค่อยๆ แกะแขนที่โอบรอบเอวออก
"ผมไม่คิดว่าคุณโดนผมชนหรอกนะ ข้ามถนนทำไมไม่ดูไฟแดงไฟเขียว แบบนี้อันตรายมากหรือนอนป่วยอยู่นานจนลืมกฎจราจรไปแล้ว หากเรื่องพื้นฐานในชีวิตยังไม่เข้าใจ จะใช้ชีวิตในโลกนี้ได้ยังไง"
เขาพยุงเธอไปขึ้นรถ แล้วขับพาเธอเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลทันทีโดยไม่ถามอะไรอีก
"ฉัน เอ่อ ฉัน"
เจ้าอี้เฟยได้แต่มองเขา เมื่อสักครู่ที่เขาพยุงเธอมา เพียงนิ้วเธอสัมผัสที่แขนของโจวเจี๋ยหลุนเล็กน้อย เขาก็คล้ายจะปัดออก
ปฏิกิริยาถือตัวและเหมือนจะรังเกียจร่างกายของเธอนั้น เจ้าอี้เฟยย่อมสัมผัสได้ ถึงเขาจะไม่พูดออกมาก็ตาม เรื่องนี้ทำให้เจ้าอี้เฟยรู้สึกเสียใจอยู่มาก
เขาไม่ใช่พี่เจี๋ยหลุนที่รักตามใจเธอทุกอย่างคนนั้นโดยนิสัยของโจวเจี๋ยหลุนแล้วเธอย่อมรู้ดี
กับคนอื่นเขาค่อนข้างนิ่งขรึมและพูดน้อยอีกทั้งถือตัวเป็นอย่างยิ่ง นอกจากเธอแล้วเขาก็แทบจะไม่สนทนาไร้สาระกับผู้ใดอีก
และตอนนี้เขากำลังปฏิบัติอย่างห่างเหินกับเธอ จนเธอปวดใจถึงจะเข้าใจดีว่าเขาเห็นเธอเป็นเพียงสตรีแปลกหน้าผู้หนึ่งเท่านั้น
เมื่อโจวเจี๋ยหลุนออกรถ วิญญาณของเฉียนเฟยเฟยนั่งอยู่ด้านหลังเรียบร้อยแล้ว ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่หล่อมากจนครั้งแรกที่เธอเห็นถึงกับตกตะลึง
แต่ใบหน้าหล่อ ๆ นี้ในเวลาที่เคร่งขรึมมันให้ความรู้สึกเหมือนกับเขากำลังกดเธอให้ตัวเล็กตัวจ้อยจนเธอกลัวเขาจริง ๆ
ยิ่งเวลาที่เขามองผ่าน ๆ มาที่เธอ เฉียนเฟยเฟยรู้สึกคล้ายว่าโจวเจี๋ยหลุนจะมองเห็นเธอ และกำลังจับผิดเธออยู่
เฉียนเฟยเฟยยังคิดอีกว่าเขาอาจจะมีพลังวิเศษบางอย่างที่สามารถมองเห็นวิญญาณก็เป็นได้