6 | ท้าทายมาเฟีย
ระหว่างทางมุ่งหน้าไปยังคอนโดมิเนียมของมีนา ภายในรถตกอยู่ในความเงียบจนพลอยทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัด มีนาบีบกระเป๋าที่วางบนหน้าตักไว้แน่น สายตามองออกไปนอกกระจกรถหรูของวิคเตอร์
ความเงียบทำให้เธอรู้สึกอึดอึดจนอยากพูดอะไรบางอย่างเพื่อทำลายความเงียบนี้…
ครั้นจะชวนคุยก็ไม่กล้า ทำได้เพียงนั่งเงียบๆ รอเวลาที่รถคันนี้เคลื่อนตัวไปถึงคอนโดมิเนียมของตัวเอง
ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ของมีนาส่งเสียงดังทำลายความเงียบ สายตาคมเข้มปรายมองคนข้างกายเพียงนิดเพราะรู้สึกรำคาญ
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูว่าใครโทรมา พอเห็นเป็นสายของคนที่ไม่อยากรับจึงตัดสายทิ้ง
ครืด ครืด
ดังขึ้นอีกแล้ว…
กำลังจะกดตัดสาย แต่วิคเตอร์ที่นั่งมองตั้งแต่ต้นจึงขยับริมฝีปากถามเสียงเรียบ
“ทำไมไม่รับสาย”
“แค่ไม่อยากรับ”
ครืด ครืด
“รับสาย” มาเฟียหนุ่มออกคำสั่งกับมีนา
“ฉันไม่อยากรับ” คนไม่อยากรับก็บังคับให้รับสายอยู่ได้! เธอตั้งใจจะใช้โหมดเครื่องบินเพื่อให้อีกฝ่ายติดต่อไม่ได้ ทว่ากลับถูกวิคเตอร์แย่งโทรศัพท์ไปกดรับสายแทนอย่างไร้มารยาท
พรึ่บ!
“นี่…!”
(ฮัลโลมีน)
วิคเตอร์เปิดลำโพงเพื่อให้ได้ยินด้วย เสียงผู้ชายในสายเอ่ยทักทายมีนาด้วยน้ำเสียงดีใจ ทว่าเจ้าของชื่อกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นด้วยแม้แต่สักนิดเดียว
(ได้ยินมาร์ทไหมครับ)
สายตาคมเข้มปรายมองมีนา
“อะ…อืม ได้ยิน” เธอฝืนใจตอบ มาร์ท อดีตคนคุยเก่าที่เลิกคุยกันไปแล้วสักพัก เธอเป็นคนขอยุติความสัมพันธ์ทุกอย่างลงเอง เพราะนิสัยอะไรหลายๆ ของมาร์ท
(มาร์ทดีใจนะที่มีนยอมรับสายสักที ขอคุยด้วยได้ไหม)
“ไม่ว่าง”
(มาร์ทขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา มีนให้โอกาสมาร์ทแก้ตัวอีกครั้งได้ไหมครับ สัญญาว่าจะไม่ทำพลาดอีก…)
ติ๊ด!
เธอกดตัดสายมาร์ททิ้งแล้วแย่งโทรศัพท์กลับคืนมาจากวิคเตอร์คนไร้มารยาท! มองเขาตาเขี้ยวปั้ดอย่างพร้อมบวก
มาเฟียก็มาเฟียเถอะวะ!
“คุณมันไร้มารยาท”
นัยน์ตาคู่นั้นดำมืดลงเมื่อโดนว่าที่เจ้าสาวพ่นคำด่าใส่ ลูกน้องที่นั่งข้างหน้าสองคนต่างเลิ่กลั่กนั่งไม่ติดเบาะ
มีนาเป็นคนแรกที่กล้าหือกับวิคเตอร์…
“ฉันจะรับสายหรือไม่รับสายมันก็คือสิทธิ์ของฉัน ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับคุณเลย!” มีนากระแทกเสียง ปั้นสีหน้าบูดบึ้งใส่วิคเตอร์ด้วยความโกรธ ทว่าท่าทางที่แสดงออกของหญิงสาวกลับดูน่ารักเกินกว่าจะเป็นการโกรธ
“ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบผู้ชายคนนั้นเลยนะ ฉันจัดการให้ดีไหม”
ประโยคนั้นของวิคเตอร์ทำให้สีหน้ามีนาเปลี่ยน
“ฉันฆ่ามันให้เอาไหม?”
ต่อให้ไม่ชอบใครสักคนมากแค่ไหนก็ไม่เคยคิดอยากให้อีกคนหายไปจากโลกนี้
สำหรับวิคเตอร์การทำให้คนๆ หนึ่งหายไปจากโลกนี้คือเรื่องง่าย แต่ทว่าสำหรับเธอ…มันไม่ใช่แบบนั้น
ทางที่วิคเตอร์และเธอเดินอยู่มันไม่เหมือนกัน ถ้าต้องแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจริงๆ ในอนาคตไม่รู้เลยว่าเธอจะอะไรบ้างในเส้นทางที่เขาเดินอยู่
“นะ…นี่มันเรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้”
“หึ” มาเฟียหนุ่มไม่ตอบอะไร เพียงแค่ยกยิ้มมุมปากแล้วส่งเสียงเบาๆ ในลำคอ สลับขาไขว่ห้าง สายตาทอดมองวิวนอกกระจกรถ
รถหรูขับเคลื่อนมาจอดหน้าคอนโดมิเนียมมีนา ในเวลาต่อมา หญิงสาวหันไปขอบคุณวิคเตอร์อย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะก้าวลงจากรถแล้วรีบเดินเข้าไปในคอนโดของตัวเองทันที
กึกก
ฝีเท้าเธอชะลอความเร็วเมื่อสายตาปะทะเข้ากับคนที่ตัวเองเพิ่งตัดสายไปก่อนหน้านี้
“มาร์ท…” เธอเรียกชื่อเขาเบาๆ ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่ามาร์มจะมาดักเจอถึงคอนโด ตามจริงเธอไม่เคยบอกเขาเลยว่าอยู่ไหน คงแอบสะกดรอยตามมาจนเจอที่อยู่ของเธอสินะ
“มาร์ทขอคุยกับมีนสักแป๊บนึงได้ไหม”
“มีนไม่ว่าง”
มาร์ทเหลือบมองรถหรูที่ยังจอดอยู่ ก่อนจะดึงสายตาหลับมามองมีนาอีกครั้ง
“ใครมาส่งมีน”
“ใครจะมาส่งมีนมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับมาร์ท เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน ขอตัวนะ”
หมับ!
มาร์ทคว้าแขนมีนาเอาไว้แล้วดึงเข้ามาหา
“ปล่อยมีนนะ!”
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน มีนมีคนอื่นใช่ไหมถึงไม่ยอมให้โอกาสมาร์ท”
“อย่ามางี่เง่าแถวนี้นะมาร์ท เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเลย อย่าลืมสิว่าเราแค่คุยแต่ไม่ได้คบกัน”
“เรียกมันลงมาคุยกับมาร์ท” มาร์ทมองพูดแล้วมองหน้ามีนา ในขณะที่มือกำลังชี้ไปยังรถหรูคันนั้นซึ่งยังจอดอยู่ไม่ไปไหน
มาร์ทคงไม่อยากเจอมัจจุราชในรถหรอก…
หากวิคเตอร์ก้าวลงมาจากรถเพราะโดนท้าทาย คืนนี้มาร์ทไม่รอดแน่
“เลิกบ้าได้แล้ว! เราไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่าทำเหมือนเป็นเจ้าของฉันได้ไหม!”
สรรพนามที่เปลี่ยนไปของมีนาทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงัก กระตุ้นอารมณ์โทสะชายหนุ่มหน้าตาดีให้ปะทุขึ้น แรงบีบรัดที่เพิ่มมากขึ้นทำให้มีนารู้สึกปวดร้าวไปทั่วแขน
“เจ็บ! ปล่อยนะ!”
“มาร์ทอุตส่าห์มาเพื่อคุยกับมีนดีๆ ถ้าการที่มาร์ทใจดีแล้วมันทำให้มีนไม่เห็นค่า งั้นอย่าหาว่ามาร์ทเลวก็แล้วกัน!”
หัวใจเธอกระตุกวูบเมื่อมาร์ทง้างมือขึ้นกลางอากาศ รู้ดีว่าผู้ชายคนนี้จะทำอะไร นิสัยชอบทำร้ายผู้หญิงมันไม่สามารถแก้ได้จริงๆ นี่คือสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์คนคุย
ตอนแรกที่คุยกันเหมือนจะดี หลังๆ ธาตุแท้เริ่มออก มาร์ทไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับเธอ แต่วันนั้น พะแพง เพื่อนสนิทของเธอไปดื่มแล้วบังเอิญเจอมาร์ท
พะแพงที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีพนักงานผู้หญิงเดินชนมาร์ทอย่างไม่ตั้งใจแล้วทำเครื่องดื่มหกใส่ เขาต่อว่าผู้หญิงคนนั้นชุดใหญ่ท่ามกลางคนมากมาย มิหนำซ้ำยังพลั้งมือใช้ความรุนแรงด้วย เพราะเป็นลูกชายคนใหญ่คนโตเลยทำให้โซเชียลไม่สามารถทำอะไรมาร์ทได้ แถมยังไม่มีใครกล้าเอาไปทำข่าวอีกด้วย
หมับ!
ไม่ทันที่ฝ่ามือมาร์ทจะกระทบใส่ใบหน้ามีนา ก็ถูกใครบางคนคว้าเอาไว้เสียก่อน ชายหนุ่มหน้าตาดีหันไปมองเจ้าของการกระทำดังกล่าวด้วยสายตาไม่พอใจ
“มึงเป็นใคร!”
วิคเตอร์ปรายสายตามองมีนาเพียงนิด ก่อนจะดึงสายตาไปมองมาร์ทแล้วขยับริมฝีปากพูดกับคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“คนที่มึงท้าทายไปไง”
สายตามาร์ทเหลือบมองรถหรูที่ตนเพิ่งชี้นิ้วท้าทายคนข้างในไปก่อนหน้านี้ จากนั้นกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมาแล้วสะบัดแขนออกจากวิคเตอร์
“ที่แท้ก็เป็นมึงนี่เอง”
“…”
“ดี! ลงมาก็ดี กูจะเคลียร์ให้มันจบๆ”
วิคเตอร์ยืนมองเจ้าของคำพูดนั้นอย่างไม่มีความเกรงกลัว แววตาเย็นชาดูไร้อารมณ์พลอยทำให้มาร์ทแอบเสียวสันหลังวาบอยู่ไม่ใช่น้อย
เพราะความนิ่งเกินไปของวิคเตอร์ เลยทำให้มาร์ทรู้สึกหวาดระแวงเล็กน้อย
“ที่มีนเป็นแบบนี้เพราะมีคนใหม่ใช่ไหม?”
“อย่าใช้คำว่ามีคนใหม่ทั้งที่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร?”
“ต้องแยกให้ออกระหว่างแค่คุยกับเป็นแฟนกันด้วยนะ เราสองคนแค่คุยกันนะมาร์ท”
“คิดเหรอว่ามาร์ทจะยอมให้มีนกับมันหนีไปมีความสุขด้วยกัน เหอะ! ไม่มีวันหรอก ถ้ามาร์ทไม่ได้ มันก็ไม่ได้้เหมือนกัน!”
ผัวะ!
มาร์ทง้างมือเตรียมปล่อยหมัดใส่วิคเตอร์ ทว่ามาเฟียหนุ่มกลับยกเท้าถีบจนร่างกระเด็นกระแทกลงพื้นอย่างแรง
แกร๊ก!
“!!!!” มาร์ทหน้าถอดสีเมื่อเห็นวัตถุอันตรายที่วิคเตอร์ชักออกมาจ่อหน้า แววตาคมเข้มคู่นั้นของมัจจุราชยากคาดเดาว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ผิดกับอีกคนที่แสดงออกชัดเจนว่ากำลัง…หวาดกลัว
“คนที่สมควรตาย… คือมึง”