บท
ตั้งค่า

Bad Engineer 2 - ลองดูไหมล่ะ

ฉันกลับมาที่อัฒจันทร์ทั้งที่ยังนึกเคืองรุ่นพี่ที่เป็นนักแข่งรถคนนั้นไม่หาย เสียแรงที่เชียร์เขาซะสุดแรง รู้งี้เชียร์มหาลัยไปเลยอื่นซะก็ดี

มีอย่างที่ไหนมาได้ดูถูกเพราะคิดว่าฉันไปอ่อย แต่ที่เคืองสุดคือ ฉันไม่สวยตรงไหนก่อน พูดได้ไงฉันไม่ใช่สเปค ชิ...

อย่าให้เจออีกแล้วกัน!

หลังจากที่พวกเราดูแข่งรถเสร็จ พวกเราก็เคลื่อนทัพกันไปตี้ที่ผับแถวหน้ามอ.ต่อ ซึ่งผับนี้เรียกว่าเป็นจุดศูนย์รวมของมหาวิทยาลัยเราเลยก็ได้

และอาจเป็นเพราะว่ากลุ่มเราที่มาด้วยกัน นอกจากเพื่อนผู้หญิงยังมีกลุ่มเพื่อนผู้ชายมาด้วยกัน ทำให้วันนี้พวกเราเลยกล้าดื่มกันแบบสุด ๆ อย่างน้อยที่มีเแต่เพื่อนสนิทกันเอง เลยคิดว่าน่าจะปลอดภัยจากผู้ชายคนอื่นที่พวกเราไม่รู้จัก

แต่ก็นะด้วยความที่มีเป็นเพื่อนสนิทกันกับกลุ่มเพื่อนผู้ชาย และพวกมันกวนตีนเอามาก ๆ พวกมันแกล้งชงเหล้าแบบเข้ม ๆ ให้ดื่ม ส่วนไอ้ฉันมันก็ประเภทไม่อยากเสียหน้าไม่ได้ไง เพื่อนชงมาให้เท่าไหร่ฉันก็ดื่มจนหมดแก้วตลอด

พอแก้วทีหนึ่ง ที่สอง ที่สามผ่านไป หลังจากนั้นฉันก็นับไม่ได้แล้วว่าจัดไปแล้วกี่แก้ว …

รู้ตัวอีกที หัวหนักมาก มากจนแทบจะเอาใบหน้าราบไปกับโต๊ะที่นั่งได้เลยด้วย

“พวกมึงงงง กูอยากกลับไปนอนแล้ววะ” เสียงเรียบเรียงออกมาแทบไม่เป็นคำพูด

“โหยย ไอ้นาบีอ่อนวะ ไหนว่าคอแข็งไง”

“แข็งกับผีสิ กูเมาจะตายแล้วเนี้ย"

“โห ไอ้นาบีคออ่อนสัส” พวกมันยังมีหน้ามาล้ออีก ก็นะ พวกมันเป็นผู้ชายส่วนฉันเป็นผู้หญิงจะไปคอแข็งเหมือนพวกมันได้ไงก่อน

“เออ กูอ่อน กูยอมรับ แต่กูง่วงเข้าใจปะ”

ฉันจำได้ลาง ๆ ว่าสมองของฉันตอนนี้คิดถึงที่นอนเป็นที่สุด ก่อนที่สายตาของฉันจะไปปะทะเข้ากับชายหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังมองตรงมาที่ฉัน

เขา…นั่งดื่มไม่ไกลจากโต๊ะพวกเราอีกที

และฉันจำได้ดี ผู้ชายคนนั้น คนที่เป็นรุ่นพี่นักแข่งรถที่ฉันเจอก่อนหน้านี้

สายตาเขาคมกริบ มองตรงนิ่งมาที่ฉัน แต่กลับมีแรงดึงดูดอย่างประหลาด ทำให้ฉันไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้

แล้วหลังจากนั้นเหรอ....

หึ....จำได้อีกทีฉันก็อยู่บนเตียงกับชายที่ฉันสบตานั่นแหละ

แต่ก็ไม่รู้เลยว่าเราสองคนไปลงเอยจนถึงตรงนั้นได้อย่างไร

….

….

….

“เออนี่พวกแกจำได้ปะว่าฉันหายไปตั้งแต่ตอนไหน”

ฉันหันถามยัยฌิรินกับยัยสไมล์มองหน้ากันก่อนจะพยายามช่วยกันนึก ไม่แปลกที่พวกนางสองคนจะมองหน้าแบบเอ๋อ ๆ เพราะเมื่อคืนพวกนางก็จะเมามากพอ ๆ กับฉันแหละ

“แกเหรอ น่าจะตอนไปเข้าห้องน้ำ”

“ใช่ ๆ หลังจากนั้นแกก็หายไปเลย แต่พวกเราคิดว่าแกหนีไปกลับบ้านไปก่อน”

คำพูดของยัยสไมล์ทำให้ฉันนึกประมวลความทรงจำของตัวเองทั้งหมด ก่อนที่ฉันก็เบิกตาโตขึ้นมาด้วยความตกใจ

เพราะฉัน...

จำ!ได้!แล้ว!

...

ย้อนกลับไปเมื่อคืน

“นาบีแกจะไปไหน”

“อือไปห้องน้ำเดี๋ยวมา” ฉันบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงยานคาง ก่อนจะเดินประคองตัวที่โซซัดโซซัด มองหาหน้าป้ายห้องน้ำ ทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน

ปึก!

“อ๊ะ..ขอโทษค่ะ” ฉันเอ่ยบอกกับคนที่ฉันเดินเซไปชน ก่อนจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง

“อ้าวว นะนาย..นายสุดหล่อนี่ ชนกันอีกแล้วนะ แหะ แหะ”

ฉันชี้นิ้วใส่หน้าอกเขาด้วยรอยยิ้มของคนเมา แต่ดูจากสีหน้าของเขาที่เอาแต่มองฉันนิ่ง ๆ จนฉันไม่รู้ว่าอารมณ์ของเขาตอนนี้อยู่ในอารมณ์ไหน เลยต้องรีบดึงมึงกลับทันที

“อึก...ขะ ขอโทษอีกครั้งค่ะ”

“เธออีกแล้วสินะ ขยันอ่อยจริง ๆ หลีกไป” คำพูดที่คล้ายเป็นคำดูถูกของเขาทำให้ฉันนิ่วหน้า

“เฮ้เดี๋ยว ใครอ่อยพี่ไม่ทราบ” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ฉันไปคว้าแขนเขาที่กำลังจะเดินไป ใบหน้าหล่อนั่นหันมามองฉันพร้อมกับขมวดคิ้วคล้ายจะตั้งคำถามใส่ฉันว่ามีอะไรอีก อยู่ ๆ เขาก็ยกยิ้มที่มุมปากแล้วเจ้ามือฉันที่จับแขนของเขาออก ก่อนจะดันไหล่ฉันให้ชิดไปกับกำแพงทันที

“ก็อ่อยอยู่หรือไม่ใช่?” เขาขยับเข้ามาใกล้ แต่ยิ่งมองใกล้ ๆ ก็ยิ่งหล่อให้ตายเถอะ

“ทำไมอยากเป็นแฟนฉันเหรอ” ใบหน้าหล่อนั่นเอ่ยขึ้นอย่างกวน ๆ ฉันได้แต่จ้องใบหน้าเขาด้วยสายตาเลือนราง ก่อนจะเลื่อนมามองยังริมฝีปากรูปหยักของเขา ซึ่งมันดูน่าจูบชะมัด

“แล้วได้ไหมล่ะ” ฉันเพราะความเมาทำให้ฉันพูดอะไรบ้า ๆ ออกไป แต่จริง ๆ คือแค่นึกอยากตั้งใจกวนตีนเล่น ๆ กลับดูบ้าง ก็เท่านั้น

ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้น ก่อนที่นิ้วของอีกฝ่ายจะดันปลายคางของฉันให้เลิกขึ้นสูง

“หึ ไม่เอาดีกว่า แบบเธอน่าจะจืดชืดเกินไป” เขาบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนที่สายตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นเย็นชาแล้วปล่อยปลายนิ้วมือจากคางของฉัน ซึ่งสำหรับฉันการที่บอกว่าฉันจืดชืดมันเหมือนโดนหักหน้าเอามาก ๆ

“งั้นก็ลองก่อนดิ จะได้รู้ว่าจืดหรือไม่จืด”

ความที่ไอ้เราก็มีนิสัยไม่ยอมคน ทำให้ฉันเชิดหน้าเถียงจ้องมองสายตากลับใส่เขาไม่ลดละ ก่อนที่จะคว้าแขนของเขาอีกข้าง แล้วเป็นฝ่ายพลิกตัวผลักเขาเข้ากำแพง และเขย่งขึ้นไปจูบเขาทันที

เอาวะเป็นไงเป็นกัน วัดกันไปเลยว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงจืดแบบที่เขาคิด

“อื้มมม~”

คิดว่าอีกฝ่ายจะผลักฉันออก...

แต่เปล่าเลย

เขาจูบตอบฉันในทันทีแถมยังสอดลิ้นเข้ามาอีกด้วย ซ้ำร้ายกว่านั้นคืออีกข้างของเขาบีบเคล้นที่บั้นท้ายของฉันอย่างมันส์มือ แทบจะไม่สนใจเลยว่า มีใครมองมาที่พวกเราสองคนหรือเปล่า

นานนับนาทีกว่าที่เขาจะยอมผละออกจากจูบก่อนฉัน

“แฮ่ก..แฮ่ก”

การจูบแสนเร่าร้อนจบลง ส่วนฉันได้แต่หายใจหอบอยู่แบบนั้น

ใบหน้าหล่อของเขามองฉันก่อนจะเลียริมฝีปากตัวเองแล้วมองหน้าฉันอีกครั้ง

“หึ เด็กชะมัดแค่จูบธรรมดาเธอยังหอบแฮกขนาดนี้ ไม่เคยมีใครบอกหรือไงว่าเวลาจูบเขาห้ามกลั้นหายใจ”

"ฉะ ฉัน..." ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ลิ้นรสกลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ ยังเจือจางอยู่ภายในริมฝีปาก

หัวใจของฉันเต้นระส่ำกับประสบการณ์ครั้งแรกในการจูบ มันทั้งตื่นเต้น ทั้งสับสน ทั้งยังรู้สึกแค้นใจไม่หายที่ลงทุนทำถึงขนาดนี้ยังโดนคนตรงหน้าดูถูก

“กลับไปนอนเถอะไป"

เขาทำท่าจะเดินจากไปอีกครั้งแต่ฉันก็คว้าเอาไว้ก่อน

“มีอะไรอีก?” เขาเอ่ยถามฉันด้วยสีหน้าที่ดูไม่พอใจนิดๆ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างกับเขา

บางอย่างที่ตัวฉันเองก็ไม่คิดว่าจะพูดมันออกไปง่ายๆ แบบนี้

“งั้นไปนอนกับฉันไหม จะได้รู้ว่าฉันไม่ได้จืดชืดอย่างที่พี่คิด”

.....

พอนึกเรื่องบ้า ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกทั้งหมดก็ตามด้วยเสียง

“กรี๊ดดดดดดดดด!!!”

ใช่...ฉันจำได้ทั้งหมดแล้ว

“แกเป็นบ้าอะไรเนี่ยนาบีหูฉันจะแตก!”

ฉันกรีดร้องออกมาด้วยความอับอายนี่ฉันเป็นฝ่ายรุกผู้ชายก่อนแถมยังชวนเขามามีอะไรกันด้วยเนี่ยนะ

บ้าไปแล้วยัยนาบีแกพึ่งจะยี่สิบเองนะเว้ย พออายุขึ้นเลข2แกก็ทำตัวใจแตกถึงขนาดนี้เลยเหรอ

จะเป็นลม…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel