Bad Engineer 1 - เรื่องคืนนั้น
@มหาลัย
“นาบีทางนี้”
เสียงเรียกจากเพื่อนสาวตะโกนเรียก ทำให้ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวไปหาพวกนาง แต่บอกเลยว่าตอนนี้ฉันอยู่ในสภาพที่แย่มาก มึนหัวแบบสุด ๆ
เหตุจากเมื่อคืน ฉันกับพวกเพื่อนอีกเจ็ดแปดคนทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่เป็นเพื่อนเรียนห้องเดียวกันในคณะ พากันชวนไปดูรถแข่งที่สนามแข่งรถ เสร็จจากดูรถแข่งพวกเรายังชวนกันไปดื่มต่อที่ผับอีก
ไม่ต้องเดาว่าเมื่อคืนตัวเองดื่มไปมากมาแค่ไหน คงน่าจะจัดเอาการแหละ เพราะสภาพของฉันที่ตื่นมาวันนี้ พานระบมปวดเมื่อยไปทั้งตัว ความจริงฉันควรจะนอนพักให้ฉ่ำปอด แต่ติดก็ตรงวันนี้ดันมีเรียนคาบวิชาสำคัญแถมอาจารย์ประจำคลาสยังโหดมากนี่สิ ไม่งั้นฉันคงไม่ยอมลากสังขารลุกจากที่นอน รีบมามอ. ทั้งสภาพแบบนี้เป็นอันขาด
“ว่าไงพวกแก”
ฉันเอ่ยทักทายเพื่อนก่อนจะนั่งและฟุบตัวนาบไปกับโต๊ะหินอ่อนทันทีอย่างหมดแรง
“ไม่ต้องทำมาเป็นเสียงโอดโอยหลบหน้าหลบตาพวกฉันเลย เมื่อคืนหล่อนหายไปไหนมายะ ปล่อยให้พวกเราตามหาตั้งนาน”
ยัยฌิรินเอ่ยถามฉันด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจสุด ๆ
“เมื่อคืนเหรอ”
ฉันผงกหัวมองพวกนางทีละคน ก่อนจะพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แต่ฉันก็จำอะไรไม่ค่อยได้นักเพราะเมามาก แต่สิ่งที่ฉันจดจำได้เป็นอย่างดีเลยก็คือ
ผู้ชายหน้าหล่อคนนั้น..
ย้อนกลับไปเมื่อคืนที่สนามแข่งรถ
“พวกมึงดูคันสีน้ำเงินนั่น นั่นรุ่นพี่ในมอ.ของเราลงแข่งด้วยนะเว้ย”
มาติน หนึ่งในเพื่อนร่วมคลาสของพวกเราชี้ให้กลุ่มพวกเราดูรถแข่งที่เตรียมพร้อมจะออกจะสตาร์ทในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ เสียงเครื่องยนต์ที่กำลังเร่งเครื่องดังสนั่น ชวนให้เสียงหัวใจของฉันตื่นเต้นเอามาก ๆ และครั้งนี้ถือเป็นการเข้ามาดูการแข่งรถครั้งแรกในชีวิตของฉันก็ว่าได้ ส่วนตัวตั้งตัวตีที่ชวนมาดูรถแข่งกับไอ้มาตินคนนี้แหละ
“เท่สัสๆ” ต้นเพื่อนชายอีกคนในกลุ่มของพวกเรา ชวนให้มองรถที่กำลังเตรียมออกตัวรถด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“เออจริงเท่มาก แต่เสียดายเนอะที่คาเรนไม่ได้มากับพวกเราด้วย” ฉันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคาเรน เธอคือหนึ่งในเพื่อนสนิทของกลุ่มเราที่วันนี้นางไม่สบายเลยหยุดเรียน ทำให้นางอดมาสนุกกับพวกเราในคืนนี้
“เออ เอาไว้ค่อยชวนนางมาวันหลังก็แล้วกัน แต่วันนี้พวกเรากรี๊ดกันก่อน รถคันนั้นเท่มาก” ฌิรินส่งเสียงกรี๊ดโบกไม้โบกมือให้รุ่นพี่ที่อยู่ในรถคันนั้น ส่วนฉันก็ได้แต่กรี๊ดตามไปด้วย พร้อมกับพยายามชะเง้อมองหน้าคนขับ แต่มันไกลมากทำให้ไม่เห็นใบหน้าเขาไม่ชัด ที่เห็นจะชัดเจนหน่อยก็คือหมวกกันน็อคที่สวมใส่สีน้ำเงิน
แต่..ขนาดแค่เห็นไกล ๆ ยังเท่มาก
....
ที่สนาม
บรื้นนนนนนนน
เสียงรถแข่งเร่งเครื่องสนั่นท้องสนาม ก่อนที่คันสีน้ำเงินเคลื่อนมาขนาบข้างกับรถสีแดงอีกคัน เมื่อได้สัญญาณทั้งสองคันเร่งเครื่องออกจากจุดสตาร์ทด้วยความเร็วสูง คันแดงปาดนำหน้า แต่ไม่กี่เสี้ยววินาทีคันน้ำเงินก็แซงกลับ แล้วปาดตรงทางโค้ง พวกเราได้แต่ส่งเสียกรี๊ดเชียร์จนแสบคอ ก่อนที่ไม่กี่นาทีต่อมา คันน้ำเงินที่มาตินบอกว่าเป็นของรุ่นพี่ในมอ . จะสามารถเข้าเส้นชัยไปได้แบบนำลิ่ว เล่นเอาพวกเรากระโดดกรี๊ดออกมาสุดเสียง เรียกว่าเสียงแหบเสียงแห้งตาม ๆ กัน
“มันส์ฉิบหาย พวกมึงว่าปะ”
“เออวะ มันส์โคตรเดี๋ยวรอเชียร์คู่ต่อไปดีกว่า”
การแข่งรถในสนามเวลานี้ ไม่ใช่การแข่งเป็นนักแข่งที่แข่งขันเอาถ้วยทั่วไป แต่เป็นการแข่งแบบลูกคนมีเงิน ที่มัดจะแข่งกันเพื่อเดิมพันกันบางอย่าง ไม่เงินก็เป็นพวกสาว ๆ ดังนั้นส่วนใหญ่คนในสนามจึงมีแต่พวกนักศึกษาทั้งสถาบันเดียวกันและคนละสถาบันเป็นส่วนใหญ่
“ฉันขอพักก่อนดีกว่าหิวน้ำอะ ว่าจะออกไปซื้อน้ำ แล้วว่าจะเลยไปเข้าห้องน้ำด้วย พวกแกไปด้วยกันไหม” ฉันเอ่ยชวนฌิรินกับสไมล์ แต่สองสาวดูเหมือนว่ายังสนุกอยู่กับการรอเชียร์คู่ต่อไป ฉันเลยบอกพวกนางก่อนขอแยกออกมาเพียงคนเดียว
ทว่าพอเดินลงมาจากตึกอัฒจันทร์ ตรงทางเดินมุมเข้าห้องน้ำหลงจากทำธุระเสร็จ ความรีบกลับไปหาเพื่อน ๆ ต่อ ทำให้ฉันเดินชนกับผู้ชายคนหนึ่งเข้าอย่างจัง
“โอ้ย เจ็บ” มือเรียวยกขึ้นถูจมูกไปมาเพราะความเจ็บ นี่ขนาดจมูกแท้แม่ให้มายังเจ็บขนาดนี้ ถ้าจมูกทำมาจะเจ็บมากขนาดไหน
“เดินดี ๆ ไม่เป็นหรือไง”
เสียงเข้มคล้ายโดนตำหนิจากคนตรงหน้า ทำให้ฉันเงยหน้าไปมองเพื่อจะขอโทษเขาอีกครั้ง และนั่นทำให้ฉันเห็นว่าคนตรงหน้าอยู่ในชุดแข่งรถสีน้ำเงินคันนั้น
และ…
เขาเป็นคันที่กลุ่มพวกฉันเชียร์อยู่ ซึ่งพอเขาถอดหมวกกันน็อคออกแล้ว
หล่อมากกกกกกก
“อา ขะ ขอโทษค่ะ”
คนตัวโตไม่ตอบ แต่มองลงมาที่ฉันทำให้ฉันมองตาม ถึงตอนนี้ถึงได้รู้ตัวว่า กระดุมเสื้อของตัวเองน่าจะเกี่ยวกับอะไรสักอย่างจนเม็ดกระดุมบนหลุดตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เผยให้เห็นหน้าอกภายใต้เสื้อชั้นในของตัวเองขนาดใหญ่
ใช่ค่ะ ถึงฉันจะเป็นตัวเล็ก แต่หน้าอกก็คัพซีนี่แม่ก็ให้มามันล้นมาก
“อ๊ะ ว้าย”
พอรู้สึกตัว มือเรียวเลยรีบคว้าขวับคอเสื้อเข้าหากันทันที โคตรน่าอายบอกเลย
“เห็นตัวเล็ก ๆ นมใหญ่ดีนะ แต่ขอโทษนะครับน้องยังไม่ใช่สเปคพี่” เสียงแค่นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเดินสวนออกไปอีกทาง ทิ้งให้ฉันยืนอาย หน้าแดงก่ำเพราะทำตัวไม่ถูก
เขาก็หล่อมากก็จริง แต่ปากเสียเอามาก ๆ ด้วยเหมือนกัน!
****