7.ความต้องการ
เอลิซ่าย่อตัวลงพร้อมกับยกชายกระโปรงขึ้นเล็กน้อยเพื่อกล่าวขอบคุณเลเซนที่เขายินยอมมาเป็นคู่เต้นรำกับเธอ
เสียงตบมือดังขึ้นพร้อมกับบุรุษผู้หนึ่งที่เดินเข้ามา
"เป็นการเต้นรำที่งดงามมากทีเดียว ยังไงก็ฝากลูกชายที่พูดน้อยแต่หล่อมากของอาไว้ด้วยนะเอลิ หากมีโอกาสหรือว่ามีเวลาว่าง หลานสามารถมาที่คฤหาสน์ลามอนซ์ได้ตลอดเลย อายินดีต้องรับเอลิที่น่ารักเสมอ"
ผมสีเงินแบบเดียวกันกับเลเซนเลย นี่คงจะเป็นท่านเอิร์ลลีออง สหายของท่านพ่อเป็นแน่ เขาดูแตกต่างกันมากทีเดียวเพราะท่านเอิร์ลนั้นพูดเก่งแถมยังดูเป็นมิตรแต่เลเซนกลับพูดน้อยและไม่เป็นมิตรสุดๆไปเลย เธอทำได้เพียงส่งยิ้มอย่างมีมารยาทให้สหายของท่านพ่อ
"หากว่ามีโอกาส หนูจะไปที่คฤหาสน์ลามอนซ์แน่นอนค่ะ ขอบคุณท่านเอิร์ลที่กล่าวชวน"
ลีอองโบกมือไปมาก่อนที่เขาจะลูบผมสีชมพูที่นุ่มสลวยของเอลิซ่า
"เรียกท่านอาหลานรัก เรามิใช่คนอื่นคนไกล จากนี้เอลิคือหลานสาวคนโปรดของอาแล้ว ยินดีต้อนรับสู่ตระกูลมหาอำนาจอย่างคามิล หลานจะต้องชอบมันแน่นอน..ทั้งอำนาจและ...เลเซน"
"ท่านพ่อ!"
เขาอายจนแทบจะไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ตอนนี้เลเซนรู้สึกสงสารเอลิซ่ามากทีเดียว เพราะท่านพ่อของเขานั้น แทบจะเอาเขาไปยัดเยียดให้กับนางแล้ว
"เป็นแบบนี้แหละเอลิ เจ้านี่ขี้อายมากอย่าได้เชื่อถือใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขาเชียว.."
เธอหัวเราะเบาๆ เพราะท่าทางของเลเซนมันดูน่ารักมาก เขาหันหน้าไปทางอื่น เธอไม่แน่ใจว่าเขาหลบซ่อนใบหน้าที่เขินอายหรือว่าเขากำลังหลบซ่อนใบหน้าที่ไม่ชอบใจอยู่กันแน่
แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง เราคงจะไม่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยๆหรอกใช่ไหม เพราะถึงจะอยู่ที่อคาเด็มมี่แต่ที่นั่นมีการเรียนที่..แตกต่าง เพราะเด็กทุกคนที่เข้าเรียนจะต้องไปสอบเพื่อวัดผลความรู้และความสามารถในทุกๆสายวิชา บางคนมีความสามารถทางการเป็นอัศวิน เด็กบางคนชื่นชอบการปกครองก็เรียนเรื่องการปกครองและสืบทอดตระกูล ส่วนเธอท่านพ่อหมายมั่นเอาไว้ว่าจะให้เธอเรียนเกี่ยวกับเวทมนตร์ เพราะคามิลนั้นคือหนึ่งในราชวงศ์ที่ใช้เวทได้ดีมากในจักรวรรดินี้
ไม่ว่าอย่างไร เธอก็จะต้องเข้าเรียนในสายการเรียนเวทมนตร์ให้ได้ ต้องทำให้ท่านภูมิใจและดีใจไปกับเธอ...
งานเลี้ยงพิธีแต่งตั้งจบลงไปท่ามกลางความยินดี ทางราชวงศ์ส่งจดหมายแสดงความยินดีพร้อมกับส่งมอบไม้คทาและเสื้อคลุมให้เพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ในการต้อนรับสมาชิกคนใหม่ของคามิล
อันที่จริงการจะรับบุตรบุญธรรมไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งกับตระกูลที่ยิ่งใหญ่ย่อมต้องมีขั้นตอนมากมาย แต่ทว่าเพราะเป็นท่านพ่อ เพราะเป็นคามิลจึงไม่มีใครคิดคัดค้าน
เอลิซ่าล้มตัวนอนลงโดยที่มือของเธอยังถือหนังสือเกี่ยวกับเวทมนตร์ในมืออยู่ อีกสามวันจะต้องเดินทางไปที่อคาเด็มมี่แล้ว จะต้องอยู่ที่นั่นยาวนานจนถึงสามเดือนกว่าจะได้กลับมาอยู่ที่หนึ่งเดือน..
หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องอันใด ให้ต้องปวดหัวหรอกใช่ไหม เธอจะพยายาม..ยุ่งเกี่ยวกับคนที่นั่นให้น้อยที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการตีสนิทและปัญหามากมายที่จะตามมา
เกวนดึงหนังสือออกไปจากมือของเอลิซ่าเบาๆ
"ต้องนอนแล้วค่ะ คุณหนูอ่านมาทั้งวันแล้ว สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องพักผ่อน"
เกวนดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้เอลิซ่า พร้อมกับรอยยิ้ที่อ่อนโยน
"ที่นั่น..จะมีคนที่ไม่ชอบหนูรึเปล่าคะ?"
นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของสาวใช้และบางทีมันคือสิ่งที่ทุกคนกำลังกังวลเช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่มีใครที่จะกล่าวออกมาเพื่อทำาความมั่นใจของคุณหนู
"คุณหนูต้องท่องจำเอาไว้เสมอว่าตัวเองคือคามิล...คือท่านหญิงผู้ทรงเกียรติสิ่งที่มิควรทำนั่นคือห้ามก้มหัวให้ใครเด็ดขาด ปลายทางข้างหน้าไม่ว่ามันจะเป็นอะไรขอให้คุณหนูมั่นใจเอาไว้เถอะว่าท่านคือลูกสาวของท่านแกรนด์ดยุคผู้เกรียงไกร อย่าได้หวาดกลัวความอิจฉาริษยาของผู้อื่นเลยค่ะ"
เอลิซ่าค่อยๆหลับตาลงช้าๆ คำกล่าวของเกวนมันบ่งบอกได้ว่าไม่ใช่เธอเพียงคนเดียวที่กังวล แต่ทว่าทุกคนเองก็กำลังกังวลเช่นเดียวกัน
เธอคือคามิล คือท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ที่ทุกคนต้องเกรงใจและให้เกียรติเธอ จงแข็งแกร่งให้สมกับเป็นคามิลและจงอย่าทำให้ตระกูลคามิลและท่านพ่อเสื่อมเสียชื่อเสียง..
ริมฝีปากบางหยักยิ้มขึ้นมาพร้อมกับหัวใจที่เต็มไปด้วยความอิ่มเอม เธอไม่ใช่ลูกสาวของคนตัดฟืนอีกแล้ว จะมามัวขี้ขลาดตาขาวและเกรงใจผู้อื่นมิได้
............
"ข้าเตรียมการเอาไว้หมดแล้ว กองทัพของคามิลนั้นพร้อมเดินทางในทันทีที่ข้าสั่งการลงไป..."
คาดินันอีวานส่ายหน้าเบาๆเขามองสหายด้วยสายตาที่เบื่อหน่ายเต็มทน
"ขอร้องล่ะอีวาน เจ้าไม่เคยมีลูกสาวที่น่ารักเจ้าไม่มีทางเข้าใจข้าหรอก ไม่ว่ายังไงพรุ่งนี้เจ้าจะต้องเดินทางไปที่อคาเด็มมี่พร้อมกันกับข้า เราจะต้องไปให้กำลังใจเอลิที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสอบเข้า..."
"ฮาซานข้าเป็นหนึ่งในผู้สอนวิชาเวทที่นั่น เรื่องที่ข้าไม่อาจทำได้นั่นคือการไปเฝ้าดูนักเรียนอย่างใจจดใจจ่อ เจ้าคงไม่อยากจะให้ลูกสาวของเจ้ามีชื่อเสียงในทางไม่ดีหรอกใช่ไหม"
อีวานโยนผลการสอบของเอลิซ่าให้ฮาซานดู
"นางสอบได้คะแนนเต็มในทุกวิชารวมถึงวิชาการใช้เวทมนตร์ ความสามารถมากมายเช่นนี้ยังมีสิ่งใดให้ต้องคอยเป็นกังวลอีกอย่างนั้นหรือ?"
ฮาซานถอนหายใจเบาๆ
"เจ้าไม่รู้หรอกว่าหัวใจที่ด้านชาของข้ามันได้เต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง ทุกครั้งที่ข้ามองเอลิ มันราวกับว่าชีวิตของข้ายังมีหวัง...ข้ามิได้ตัวคนเดียวเพราะว่ายังมีนาง และไม่ว่านางจะเป็นลูก.ของเอเลเนอร์กับข้ารึเปล่าเรื่องนั้นไม่เป็นไรอีวาน ไม่เป็นไรเลยเพราะไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร นางจะเป็นลูกข้าหรือไม่ ข้าก็จะดูแลนาง.."
อีวานมิได้กล่าวตอบแกรนด์ดยุค เขาเลือกที่จะเบือนหน้าหนีเพื่อหันมองไปทางอื่น ฮาซานนั้นเปรียบดังคนที่หมดอาลัยตายอยาก อยู่ในสภาพอยู่ไม่สู้ตายมาหลายสิบปี ฆ่าคนเป็นว่าเล่นวันๆหาเรื่องแต่จะออกไปปราบชนเผ่าที่จะทำการกบฏหรือไม่ก็ออกไปปราบปีศาจ หมอนั่นไม่เคยอยู่ที่คฤหาสน์นานขนาดนี้มาก่อนเพราะมันราวกับว่าฮาซานนั้นใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกผิด
แม้แต่จะหายใจยังรู้สึกผิดต่อหญิงคนรักเลย...เพราะเขาไม่รู้แน่ชัดว่าเอเลเนอร์เป็นตายร้ายดียังไง ไม่รู้ว่าลูกในท้องของนางจะยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า
แต่พอมีเอลิซ่าเดินเข้ามา ความหวังที่ริบหรี่ของฮาซานพลันสว่างขึ้นมา สหายของเขาในยามนี้ต้องการเพียงใครสักคนที่เป็นที่ยึดเหนี่ยว ใครสักคนที่ช่วยให้เขาใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่รู้สึกผิด..อีกต่อไป
ใครสักคน..ที่คอยจับมือและคอยรอคอย ในยามที่ฮาซานกลับมาที่คฤหาสน์
ใครสักคนที่สามารถทำให้ความสูญเสียในจิตใจจางหายไป