บทที่3 คุณอุ้มฉันลงไปด้วย
บทที่3 คุณอุ้มฉันลงไปด้วย
เจียงสื้อสื้อจ้องมองเขาด้วยสายตาที่สงสัยเช่นกัน
ดูจากการแต่งกายภายนอกของหนุ่มน้อยคนนี้ ก็สามารถรู้ได้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา
แต่สายตาที่เขาจ้องมองเธอในตอนนี้นั้น อธิบายยากจริงๆ
ก็เปรียบเสมือนว่า กำลังจ้องมองสิ่งของอย่างหนึ่ง......ที่แสนหายาก
เจียงสื้อสื้อรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะความคิดของตนเอง
เหยนอี่เฟยไม่มีความอดทนมากนัก เธอจึงจ้องไปมองหนุ่มน้อยที่อยู่บนพื้นแล้วถามด้วยเสียงโกรธ"แกเป็นใคร?แกไม่รู้ว่าเวลาทำงานของบริษัท คนภายนอกไม่สามารถเข้ามาได้หรอ?"
"หนวกหูหรือเกิน"
หนุ่มน้อยมองไปที่เธออย่างไม่ใส่ใจ ดูท่าทีแล้วทั้งเย็นชาทั้งเท่ จากนั้นเขาเอื้อมนิ้วมือนิ้วหนึ่งออกมาแล้วชี้ไปที่เหยนอี่เฟย ออกคำสั่ง"แก!ไปเช็คพื้นให้สะอาดทันที จำไว้นะ ต้องใช้มือเช็ด!"
เหยนอี่เฟยนึกว่าตนเองเกิดอาการหูฝาด โมโหจนหัวเราะออกมา"แกพูดอะไรนะ?"
เขากล้าสั่งให้เธอเองไปเช็คพื้นได้ยังไง?
"ฟังไม่รู้เรื่องหรือ?"ทันใดนั้น หนุ่มน้อยก็ปรากฏความดูถูกขึ้นมาบนใบหน้า"หน้าตาน่าเกลียดยังพอว่า แต่ไอคิวของแกนั้นยังตํ่ามากด้วย ดูแล้วรู้สึกว่าบริษัทนี้ก็แค่อย่างนั้นเอง ฉันคงต้องพิจารณาอีกทีแล้วว่า ต้องการให้พวกแกมารับผิดงานวันเกิดของฉันหรือเปล่านะ!"
เหยนอี่เฟยคาดไม่ถึงว่า เด็กน้อยคนนี้จะปากร้ายขนาดนี้ ทำให้เธอโกรธจนร่างกายสั่นทั้งตัว"เด็กซนที่ไหนเนี่ย พ่อแม่แกไม่ได้สั่งสอนว่าต้องเคารพผู้ใหญ่หรือไง?ในเมื่อพ่อแม่แกไม่สั่งสอน เดี๋ยววันนี้ฉันจะมาสั่งสอนแกเอง!"
พอพูดเสร็จ เธอก็ยกมือขึ้นมา และเตรียมที่จะตบไปทางหน้าของหนุ่มน้อย
เจียงสื้อสื้อตกใจมาก จากนั้นก็รีบวิ่งไปอุ้มหนุ่มน้อยเข้ามาในอ้อมอกทันที
เด็กตัวเล็กขนาดนี้ ถ้าโดนตบหน้าลงไป จะทำยังไงดีล่ะ?
คนอื่นก็ตกใจเช่นเดียวกัน ต่างพูดอยู่ในใจ:หนุ่มน้อยที่น่ารักขนาดนี้ เหยนอี่เฟยทำได้นังไงเนี่ย!
บอดี้การ์ดก็ตกใจเช่นเดียวกัน จากนั้นก็โมโหขึ้นมา"แกนี่ช่างบังอาจจริงๆ กล้ามาตีคุณชายน้อยได้ยังไง?รีบจับตัวขึ้นมา!"
ไม่ถึงสองวินาที เหยนอี่เฟยก็ถูกบอดี้การ์ดสองคนจับตัวขึ้นมา
ทุกคนล้วนรู้สึกงงงัน
เหยนอี่เฟยก็ตะลึงไปด้วยเช่นกัน
เธอไม่เคยได้รับการกระทำเช่นนี้ แถมข้างไปยังมีลูกน้องอีกหลายคนมองดูอยู่
จึงทำให้เธอโมโหมาก และดิ้นรนอยู่กับที่"พวกแกทำไรเนี่ย รีบปล่อยฉัน!"
แต่บอดี้การ์ดยังคงจับตัวเธอไว้เหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสักนิด
พอดีในเวลานี้ หลี่เซิ่ง ผู้จัดการใหญ่ของบริษัทX.C.ได้ข่าวแล้วมาถึงที่นี่ แล้วพูดด้วยท่าทีที่เคารพ"คุณบอดี้การ์ดครับ อย่าเพิ่งโกรธ ลูกน้องของฉันคนนี้ไม่รู้เรื่อง ไม่ทราบตัวตนของคุณชายน้อง จึงก่อความขัดแย้งกับคุณชายน้อง ต้องขออภัยด้วยครับ หวังว่าพวกคุณเมตตาต่อเธอหน่อย สามารถปล่อยเธอไปได้ครับ"
เมื่อกี้หลี่เซิ่งนั่งอยู่ห้องทำการชั้นสูงสุดก็ได้ข่าวมาว่าคุณชายน้อยของจิ้นกรุ๊ปเสด็จมาที่นี่ เดิมทียังคิดอยู่ว่าจะต้องต้อนรับอย่างดี แต่ใครจะไปว่า คุณชายน้อยคนนี้จะมาที่แผนกการวางแผนล่ะ
เมื่อเขาได้ยินข่าวก็รีบวิ่งมา จากนั้นก็ได้เห็นภาพต่อหน้านี้ จึงทำให้เขากลัวจนลนลานขวัญกระเจิง
บริษัทX.C.ได้คิดวิธีมากมายจึงสามารถร่วมงานกับจิ้นกรุ๊ปจนได้
ถ้าเป็นเพราะเรื่องนี้ จนทำให้เรื่องร่วมงานของทั้งสองบริษัทนั้นไม่สำเร็จ เขาก็จะต้องไปชมกำแพงแน่นอน
บอดี้การ์ดไม่สนใจใยดี"พนักงานของพวกแกนั้นช่างกล้าหรือเกิน กล้ามาด่าคุณชายน้อยของจิ้นกรุ๊ปว่าเป็นเด็กซน ไม่มีคนสั่งสอน!"
พอทุกคนได้ยินคำพูดนี้ ล้วนรู้สึกตกใจ!
หนุ่มน้อยที่น่ารักคนนี้ ก็เป็นคุณชายน้อยน้องของตระกูลจิ้นนี่เอง
ไม่น่ายังเด็กอยู่ก็บุคลิกที่ดีเช่นนี้!
เหยนอี่เฟยก็ตกใจมากเช่นกัน
เดิมทีใบหน้าที่ยังมีความโกรธอยู่นั้น ก็ซีดลงมาทันที
ขัดใจคุณชายน้อยของตระกูลจิ้นแล้ว เธอยังสามารถมีชีวิตอยู่อย่างดีได้หรือเปล่า?
สีหน้าของหลี่เซิ่งเขียวไปหมด แล้วพูดอย่างระมัดระวัง"ขอโทษจริงๆ ฉันจะให้เธอมาขอโทษคุณชายน้อยเดี๋ยวนี้"พอพูดเสร็จ ก็จ้องไปมองเหยนอี่เฟยด้วยความโกรธขรึม" ผู้จัดการเหยน ยังงงงันอยู่ทำเพื่อ?รีบกล่าวคำขอโทษทันที"
เหยนอี่เฟยรู้สึกขายหน้าจริงๆ แต่นับบัดนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว จึงต้องรีบกล่าวคำขอโทษ " ขอโทษค่ะ คุณชายน้อย เมื่อกี้นี้เป็นเพราะว่าฉันไม่รู้จักตัวตนของคุณ จึงเกิดความขัดแย้งกับคุณ ขอหวังว่าคุณจะมีความเมตตาต่อฉันค่ะ"
แต่หนุ่มน้อยกลับทำเป็นแบบว่าไม่ได้ยิน ไม่ได้สนใจเธอเลย เขามัวแต่นอนอย่างสบายอยู่ในอ้อมอกของเจียงสื้อสื้อ
ใบหน้าที่ขาวนุ่มนวลนั้นดูเหมือนจะสามารถบีดจนมีนํ้าไหลออกมาได้ ดวงตาคู่ใหญ่ที่คล้ายอัญมณีของเขานั้นกระพริบอยู่อย่างสว่างไสว จมูกที่ประณีตนั้นโด่งตรงอยู่ เขาได้เม้มริมฝีปากที่แดงก่ำอยู่เล็กน้อย และใช้มือสั้น ๆ คู่หนึ่งกอดคอเธอไว้อย่างรักใคร่ราวกับว่าไม่มีเจตนาที่จะปล่อย
เดิมทีเจียงสื้อสื้อก็ชอบเด็กๆอยู่แล้ว พอเห็นก็อยากอุ้มไว้
พอตอนนี้อุ้มไว้ ก็ยิ่งไม่อยากปล่อย
แถมร่างกายของเจ้าน้อยคนนี้อ่อนนุ่มมาก ช่างน่ารักหรือเกิน และยังมีความใกล้ชิดบางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเกิดขึ้น ดังนั้น เธอก็ก็ยิ่งไม่อยากปล่อยเขาลงไป
เหยนอี่เฟยเห็นว่าหนุ่มน้อยนั้นไม่ยอมตอบสักที ก็ยิ่งกลัวมากกว่าเดิม จึงอดไม่ได้ที่จะอ้าปาก"คุณชายน้อยคะ?"
กว่าหนุ่มน้อยนั้นมีตอบสนองเล็กน้อย เขาจ้องไปดูเหยนอี่เฟยตานึง" คนที่แกสมควรที่จะกล่าวคำขอโทษนั้นไม่ใช่ฉัน ต้องเป็นคุณป้าที่สวยคนนี้
ใบหน้าของเหยนอี่เฟยเต็มไปด้วยความอัปยศอดสู
ให้เธอนั้นกล่าวคำขอโทษกับคนอย่างเจียงสื้อสื้อเช่นนี้หรอ?
ฝันไปเถอะ!
"ไม่ยอมหรือไง?ไม่ยอมก็ไม่เป็นไร แต่ว่าโครงการที่จะร่วมงานของพวกแกนั้น ฉันจะให้คุณพ่อพิจารณาใหม่อีกที"
หนุ่มน้อยสั่งบอดี้การ์ดข้างๆอย่างไม่เร่งรีบ"พวกเราไปกัน"
บอดี้การ์ดได้รับคำสั่ง ก็เลยปล่อยเหยนอี่เฟยทันที จากนั้นก็เตรียมที่จะปกป้องเขาจากไป
หลี่เซิ่งใจร้อนขึ้นมาทันที จึงรีบห้ามพวกเขาไว้"คุณชายน้อยครับ คุณอย่าเพิ่งใจร้อน เหยนอี่เฟย ยอมกล่าวคำขอโทษแน่นอน"จากนั้นก็ใช้สายตาที่มืดมนมองไปทางเหยนอี่เฟย แล้วพูดว่า" ผู้จัดการเหยน มันเป็นการพยายามของทุกคนในบริษัทถึงได้มีโอกาสร่วมงานกันกับ จิ้นกรุ๊ปได้ ถ้างานไม่สำเร็จเพราะแกคนเดียว นั้นแกก็รีบออกไปจากบริษัทเดี๋ยวนี้เลย บริษัทของฉันไม่สามารถรับแกไว้ได้!"
พอเหยนอี่เฟยได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เขียวขึ้นทันที
คุณชายน้อยองค์นี้มุ่งมั่นที่จะชิงความเป็นธรรมให้กับเจียงสื้อสื้อ
ถ้าหากว่าเธอไม่กล่าวขอโทษ เรื่องนี้คงจะไม่จบลงด้วยดีแน่นอน
แม้ว่าในใจเต็มไปด้วยความไม่ยอม แต่ในที่สุดเธอก็กัดฟันไว้แล้วพูดว่า " ได้ ฉันจะกล่าวคำขอโทษเดี๋ยวนี้ ขอโทษด้วย"
"ไม่มีความจริงใจ"
ใบหน้าของหนุ่มน้อยนั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ
เหยนอี่เฟยหายใจเข้าลึกๆ และทนความอัปยศอดสูทั้งหมดลงไป จากนั้นโค้งตัวลงให้ เจียงสื้อสื้อ พร้อมพูดว่า"ขอโทษด้วยค่ะ เมื่อกี้ที่ฉันกระทำตัวไม่ดีต่อคุณนั้นเป็นความผิดของฉันค่ะ โปรดยกโทษให้ฉันด้วย"
เมื่อเจียงสื้อสื้อเห็นลักษณะที่นอบน้อมของเธอ จึงมีความสบายใจและความเยาะเย้ยบางอย่างเกิดขึ้นในใจ
ปกติแล้วมันเป็นคนที่ดูถูกคนอื่น แล้วชอบใช้อำนาจรังแกคนอื่นด้วย แต่คาดไม่ถึงว่ามันจะมีวันที่ก้มหน้าให้คนอื่นด้วย
หลี่เซิ่งเห็นว่าเหยนอี่เฟยยอมนอบน้อมในที่สุด จึงรีบออกมาพูดประนีประนอมกัน"คุณชายน้อยครับ เธอก็กล่าวขอโทษไปแล้ว สำหรับการร่วมงานกันของเราทั้งสองฝ่ายนั้น คุณว่ายังไงครับ?"
"แต่พื้นยังไม่ได้เช็คเลย"หนุ่มน้อยยังไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ
เหยนอี่เฟยรู้สึกอัปยศอดสูจนกัดฟันไว้ แล้วพูดตอบว่า"ฉันจะไปเช็ดเดี๋ยวนี้"
พอพูดเสร็จ เธอก็ออกมาเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดมาทันที แล้วใช้ผ้าเช็ดคราบน้ำที่อยู่บนพื้นให้สะอาดต่อหน้าต่อตาทุกคน
ในสายตาของทุกคนนั้น ไม่ได้ปรากฏความสงสารแม้แต่สักนิด
เพราะปกติท่าทีที่เหยนอี่เฟยมีต่อเจียงสื้อสื้อนั้นเป็นยังไง ทุกคนล้วนเห็นด้วยกับตา ดังนั้นมันมีผลกระทบเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่ากรรมที่มันทำไว้เอง
พอเหยนอี่เฟยเช็คพื้นเสร็จ หนุ่มน้อยก็กว่าจะพอใจขึ้นมาได้"เรื่องวันนี้ฉันไม่ถือสาแบ้ว แต่ว่าฉันยังมีข้อแม้ข้อสุดท้าย ก็คือกิจกรรมวันเด็กของฉันนั้น ห้ามเธอมาเข้าร่วม"
หลี่เซิ่งรับปากทันที"ไม่ใช่ปัญหาครับ ได้ครับ"
"นั้นก็ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ฉันจะไปแล้ว"
หนุ่มน้อยหัวหน้าไปจ้องมองเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อรับรู้ถึงความหมาย จึงปล่อยเขาลงอย่างรวดเร็ว
แต่คาดไม่ถึงว่าหนุ่มน้อยใช้มือกอดไว้แน่นกว่าเดิมอีก ไม่ยอมลงมาสักที ยังสั่งเธอว่า "คุณอุ้มฉันลงไปด้วย"