3
“ดีขึ้นแล้วค่ะ” ทานตะวันรีบเอ่ยตอบก่อนจะเดินไปเก็บใบยอตรงหน้าใส่ตะกร้า
“เก็บใบยอไปทำอะไรเหรอ” ภีมเอ่ยถามเด็กสาว
“เอาไปทำห่อหมกปลาช่อนค่ะ”
“น่ากินเชียว จำได้ว่าคุณยายทำอร่อย” กลับมาประเทศไทยเขาก็จะได้ชิมอาหารไทยอร่อยๆ รสชาติหลากหลาย เขาว่าอาหารไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งอร่อยและเต็มไปด้วยคุณค่าอันมีประโยชน์ต่อร่างกาย
“ให้ฉันช่วยเก็บไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อเขาขยับมือมาเด็ดใบยอใบเดียวกันกับเธอ เธอเลยรีบดึงมือหนี หน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหูเมื่อได้สบสายตาสีเหล็กกล้าทรงเสน่ห์ของภีม
“พอแล้วค่ะ ไม่ได้ใส่เยอะอะไรขนาดนั้น” ทานตะวันรีบเอ่ยห้ามปรามเอาไว้ ทำให้เขาต้องชะงักมือที่กำลังจะเด็ดใบยอใส่ตะกร้าของเธออีก
“ทำกับข้าวเป็นด้วยรึ” ภีมเอ่ยถามสาวน้อยหน้ามน ลอบสังเกตเธออย่างเงียบๆ
“ทำเป็นค่ะ” เธอตอบเขาแต่ไม่กล้ามองหน้า การได้มองสบตาของภีมทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ อาจเพราะว่าเขาเป็นคนที่คุณยายอยากให้เธอแต่งงานด้วย
“คุณยายคงหัดให้เป็นแม่ศรีเรือนสินะ”
“คะ?” เธออุทานไม่แน่ใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร
“ฉันเดินไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” พอเธอขยับตัวเขาก็เดินตามมาเคียงข้าง
“ทำไมต้องปฏิเสธด้วย ไม่อยากทำความรู้จักกับฉันเหรอ”
“ทำไมต้องทำความรู้จักด้วยคะ” เอ่ยถามแล้วหัวใจเต้นแรง คุณยายยังไม่ได้บอกเธอตรงๆ แต่เธอแอบได้ยินท่านคุยกับป้าสมศรีเรื่องที่จะให้เธอแต่งงานกับภีม เขาเองก็คงรู้แล้ว ภีมเป็นหนุ่มหล่อลูกเสี้ยวผสมที่ดูมีเสน่ห์และทำให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้
“ไม่รู้จริงๆ เหรอ”
“อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อเขาคว้าแขนเล็กๆ ของเธอเอาไว้ไม่ให้เดินต่อ เธอดิ้นเขาจึงดึงร่างน้อยมากอดเอาไว้ มองสบตาเธอในระยะกระชั้นชิด ทำเอาตะกร้าใส่ใบยอตกหล่นลงพื้น
“ว่ายังไงล่ะ” เขามองสบตาสาวน้อยที่มีท่าทีหวาดหวั่นนั่นทำให้เขาอยากแกล้งเธอนัก คิดว่าเธอน่าจะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร
“ปล่อยนะคะลุงภีม” ใบหน้าของสาวน้อยแตกตื่นยามที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาขยับเข้ามาใกล้ พร้อมด้วยลมหายใจที่เป่ารดอยู่กับแก้มนวลใส
“อยากให้ฉันปล่อยจริงๆ เหรอ”
“ลุงภีมมีอะไรกับตะวันหรือเปล่าคะ” เธอพยายามหนีเขาก็พยายามกอด
“เธอรู้เรื่องของเราหรือยัง” ภีมถามตรงๆ
“เรื่องอะไรคะ” ทานตะวันเอ่ยถามแล้วหน้าแดงก่ำ เธอต้องปิดปากให้เงียบเข้าไว้ จะให้เข้ารู้ไม่ได้ว่าเธอเผอิญได้ยินคุณยายคุยกับป้าสมศรีคุยกัน
“ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงหึ หลบตาทำไม” เขาดูออกว่าเธอไขสือ
“ตะวันไม่ได้อยากได้ยินนะคะ แต่เผอิญเดินผ่านไปเท่านั้นเอง” เธอจำต้องตอบเขาออกไปเพราะว่าร่างสูงของเขาดึงเธอไปกอดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“เมื่อกี้ไม่ยอมตอบแถมยังทำไขสืออีกด้วย งั้นลงโทษเด็กปากแข็งยังไงดี” เขาขยับใบหน้าเข้าไปหาก่อนจะแกล้งขยี้ริมฝีปากแรงๆ กับแก้มสาว ทานตะวันตาโต ไม่คิดว่าจะโดนหอมแก้มเอาแบบนี้
“โอ๊ย!” ภีมร้องเสียงหลงเมื่อโดนเข่าของสาวน้อยกระแทกเข้าให้เต็มๆ เขายังไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็รีบเก็บตะกร้าใบยอหนีเข้าบ้านไปในทันที
ทานตะวันรีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในห้องครัว เจอเข้ากับป้าสมศรีที่กำลังตำเครื่องแกงทำห่อหมกอยู่
“วิ่งหนีอะไรมา ทำไมถึงได้กระหืดกระหอบแบบนั้น” ป้าสมศรีเอ่ยถามเด็กสาวที่วิ่งหน้าตาแตกตื่นเข้ามาในห้องครัว
“ไม่ได้หนีอะไรเลยค่ะ คือตะวันแค่รีบเอาใบยอมาให้ป้าสมศรีน่ะค่ะ” ทานตะวันโกหกคำโต
“อ้าว... คุณภีมหิวหรือยังคะ วันนี้ป้าทำห่อหมกปลาช่อนของโปรดของคุณภีมเลยนะคะ” ป้าสมศรีเอ่ยทักทายชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในห้องครัว
“น่ากินจังเลยครับ” ภีมตอบแล้วหันไปมองหน้าสาวน้อยที่รีบก้มหน้างุดๆ
“แม่ตะวันเขาทำกับข้าวเก่ง คุณยายกับป้าสอนมากับมือ” ป้าสมศรีพูดยิ้มๆ ด้วยว่าอยากเชียร์ให้คนทั้งคู่ได้ชอบพอกันจะได้ตกลงปลงใจแต่งงานกันเสียที
“เด็กช่างประจบจังเลยนะครับ” ภีมพูดลอยๆ แต่ทำให้ทานตะวันต้องมองคนหาเรื่อง
“คุณภีมพูดอะไรแบบนั้น ขี้ประจวบอะไรกัน หนูตะวันน่ะน่ารักช่างเอาใจคนแก่จะตายไปค่ะ” ป้าสมศรีค้อนเจ้านายหนุ่ม ในขณะที่ทานตะวันหน้างอใส่คนที่หาว่าเธอขี้ประจบ
“เหรอครับ” เขาถามแต่มองเด็กสาวไม่วาง
“มายืนอยู่ในครัวจะช่วยป้ากับหนูตะวันทำกับข้าวหรือไง” ป้าสมศรีเอ่ยแซว
“ให้ผมช่วยอะไรบ้างล่ะครับ” ภีมเอ่ยถามขณะเดินไปทรุดนั่งลงใกล้ๆ กับเด็กสาว ทานตะวันรีบขยับตัวหนีในทันทีที่เขาเข้ามานั่งเบียดเธอแบบนี้
“ให้ฉันช่วยอะไรไหม” เพราะไม่อยากให้เธอหนีเขาเลยแกล้งโอบเอวบางเอาไว้
“โอ๊ย! ป้าศรีตีผมทำไมครับ” ภีมร้องโอดโอยเมื่อโดนป้าสมศรีตีมือเข้าให้