ลิขิตหงส์ฟ้าชะตารัก nc20

295.0K · จบแล้ว
ไป๋อวี้
119
บท
74.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ภาค 2 ลิขิตหงส์ฟ้าชะตารัก ภาค แคว้นจ้าว มีวางจำหน่ายเป็น E-Book ใน MEB นะคะ https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetailsJg==data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO047czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjE4MjY5NiI7fQ หลี่เหมยลี่ นักธุรกิจสาวร่างท้วม เจ้าของฉายา ‘เจ้าแม่เงินล้าน!’ ได้หลุดเข้าไปเป็นตัวละครในนิยายที่เธอเพิ่งอ่านจบ และกลายเป็นหนึ่งในคนที่จะต้องถูกตัวร้ายอันดับหนึ่งอย่าง เว่ยเหวินจิ้ง ทรราชผู้ล่มแคว้น ส่งไปเป็นเมียน้อยพระเอก!! นางจึงต้องงัดทุกความสามารถ ใช้ทุกกลยุทธ์ที่มีเพื่อเอาตัวรอดจากการเป็นเครื่องมือในครั้งนี้… ‘โลกจริงมันช่างง่ายดาย… แต่การมีชีวิตรอดในโลกนิยายนี่สิ! มันช่างยากเย็นยิ่งนัก’

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนางเอกเก่งรักหวานๆดราม่าข้ามมิติเกิดใหม่โตมาด้วยจีนโบราณ

บทที่ 1 เจ้าแม่เงินล้าน

“อ๊ะ…อ๊า~ ใกล้แล้ว ใกล้แล้วค่ะ…อื้อ~อ๊า~” เสียงร้องของหญิงสาวคนหนึ่งดังออกมาจากห้องชั้นบนสุดของคอนโดหรูใจกลางเมือง โชคดีที่ทั้งชั้นมีเพียงสองห้องเท่านั้น

“ไหนพวกแกบอกว่าจะมาเรียนคอร์สออนไลน์ไง นี่มันใช่ที่ไหนกัน!!” เสียงหญิงสาวอีกคนโวยวายขึ้นจนกลบเสียงแรกไปจนสิ้น

“ใช่สิแก นี่มันคอร์สสอนท่ายาก เป็นคลิปลับที่มิกิหามาเชียวนะ ดูสิ ท่านี้ฉันยังไม่เคยเลย ไว้กลับไปใช้กับสามีที่บ้านดีกว่า แหมทำเป็นโวยวาย ก็มีแต่แกแหละ อาเหมย พวกฉันแต่งงานกันหมดแระ เมื่อไหร่แกจะมีแฟน แต่งงงแต่งงานสักที” หญิงสาวอีกคนรีบสวนกลับทันที

“อาเหมย อย่าบอกนะว่าแก… ชอบผู้หญิง!!”เสียงตกใจของหญิงสาวอีกคนดังขึ้นตามมา

“โอ๊ย พวกแก ฉันก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้!! เข้าใจรึเปล่าคำว่า ไม่ได้โฟกัสน่ะ แล้วอาทิตย์หน้างานอาสาที่ดอยภูเชียง พวกแกเตรียมตัวกันรึยัง เคธี่แกเคลียร์คิวเดินแบบแล้วใช่มั้ย ใยไหมแกคุยกับผู้จัดการส่วนตัวรึยัง แล้วก็มิกิวันนั้นไม่อนุญาตให้แกไลฟ์สดนะ” หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าอาเหมยพูดเสียงดังพร้อมกับลุกขึ้นจากโซฟาแล้วชี้ไปหาทีละคน

“เรียบร้อยแล้วค่า คุณหญิง!!” สองสาวเคธี่และใยไหมประสานเสียงกันในทันใด

“โธ่ อาเหมย แค่นิดเดียวก็ไม่ได้เลยเหรอ” หญิงสาวที่ชื่อมิกิเอ่ยเสียงเล็กเสียงน้อย

“ไม่ได้! นี่ฉันตั้งใจจัดงานนี้ขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กๆนะ ไม่ได้ทำเพื่อพีอาร์สินค้าหรือบริษัทเหมือนรอบก่อนๆ พวกแกช่วยให้ความร่วมมือกันด้วย”

“ได้ค่ะ คุณหญิง!!” ทั้งสามตอบรับขึ้นพร้อมกัน

“แล้วตกลงแกไม่สนใจผู้ชายคนไหนเลยเหรอ” คำถามของมิกิทำให้คนที่พยายามเปลี่ยนเรื่องอย่างหลี่เหมยลี่ถึงกับถอนหายใจ

“นั่นสิ พวกเราคบกันมาสิบกว่าปีจนพวกฉันแต่งงานลูกหนึ่งลูกสองกันหมดแล้ว แต่แกยังไม่มีแม้แต่แฟนเนี่ยอ่ะนะ ให้ตายเหอะ!” เคธี่เริ่มบ่นกระปอดกระแปด

“ก็ถึงต้องให้อาเหมยมาเรียนภาคทฤษฎีนี่ไง คลิปเด็ดที่ให้มิกิหามายังมีอีกเยอะนะ หรือถ้าแกอยากเรียนภาคปฎิบัติ ก็เลือกเอาจากแฟนคลับของมิกิเลยเป็นไง สต๊อกนางเยอะ” ใยไหมพูดขึ้นพร้อมกับดึงตัวหลี่เหมยลี่ให้นั่งลงบนโซฟาตามเดิม

“เฮ้อ~ ฉันเลิกเป็นเพื่อนกับพวกแกตอนนี้ทันมั้ย”

“ไม่ทันแล้วจ้า~” สามเสียงประสานพร้อมกันอีกครั้งอย่างรื่นเริง

หลี่เหมยลี่ ฉายาเจ้าแม่เงินล้าน นักธุรกิจสาวร่างท้วมเชื้อสายจีนแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ในอดีตพ่อกับแม่ของเธอมีอาชีพทำขนมขาย เธอจึงค้าขายเก่งตั้งแต่เด็ก ด้วยเพราะฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างยากจน จึงทำให้เธอมีความมานะอดทนและความพยายามที่สูงมาก

หลังจากที่เธอเข้าเรียนชั้นมัธยม ฐานะทางบ้านก็เริ่มดีขึ้น ในโรงเรียนเธอเป็นเด็กเรียนเก่งและชอบทำกิจกรรม จึงได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียน

เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยเธอก็ยังได้รับเลือกให้เป็นประธานรุ่นและได้พบกับเพื่อนที่สนิทที่สุดสามคน ซึ่งต่อมาทั้งสามก็กลายเป็นตำนาน สามสาวดาวค้างฟ้าของมหาวิทยาลัย

คนแรก เคธี่ หรือ แคทเธอรีน นางแบบลูกครึ่งสุดเซ็กซี่ คนที่สอง ใยไหม นางเอกซีรี่ย์ชื่อดัง และสุดท้าย มิกิ เน็ตไอดอลสาวสุดฮอต ซึ่งแน่นอนว่าอดีตดาวมหาลัยมีแค่สามไม่ใช่สี่

หลังจบงานอาสาหญิงสาวทั้งสี่ตัดสินใจจะไปพักผ่อนโดยเช่าโฮมสเตย์อยู่ด้วยกันอีกสามคืนและไปล่องแก่งตามความต้องการของเหมยลี่

“อาเหมย ช่วงนี้มีนิยายเรื่องไหนให้ฉันเอาไปรีวิวได้บ้างมั้ย” มิกิถามขึ้นขณะที่ทั้งสี่คนกำลังย่างบาร์บีคิวมื้อเย็นอยู่

“อืม ฉันเพิ่งอ่านเรื่องหนึ่งจบ เนื้อเรื่องสนุก แต่ตัวละครค่อนข้างขัดใจฉันไปหน่อย” เหมยลี่พูดไปพร้อมกับยื่นบาร์บีคิวที่สุกแล้วลงในจานเคธี่

“เรื่องอะไรเหรอ จริงสิ ดูเหมือนช่วงนี้คนกำลังฮิตนิยายจีนกับพระเอกสายดาร์คกันอยู่ อย่างเรื่องเดือดเหนือพยัคฆ์ ฟ้าส่งข้ามาลุย อะไรแบบเนี่ย”

“เรื่องพวกนั้นที่เขาฮิตกันก็เพราะแกรีวิวไม่ใช่หรือไง”เหมยลี่พูดพลางส่ายหัวอย่างระอา

“นั่นก็เอามาจากแกไง งานอดิเรกของแกนอกจากเรื่องแปลกๆพวกนั้นแล้ว ก็เห็นจะมีแต่เรื่องอ่านหนังสือนี่แหละที่ดูธรรมดาที่สุด” มิกิหัวเราะแล้วเดินถือจานบาร์บีคิวไปที่โต๊ะอาหาร

“ฉันเห็นด้วยกับมิกิ แกควรลดกิจกรรมน่าเหนื่อยพวกนั้นลงบ้างนะ จะได้มีเวลาหาหนุ่มรู้ใจสักที” เคธี่พูดจบก็ถือจานตามมิกิไปนั่งลงข้างเธอ

“โดดร่ม เดินป่า ทำค่ายอาสาพัฒนาชุมชน มันแปลกตรงไหนเนี่ย” เหมยลี่ถอนหายใจก่อนยกจานของตนเองเดินไปนั่งเช่นกัน

“เรื่องพวกนั้นไม่แปลกหรอกถ้าแก ไม่พยายามประดิษฐ์ร่มที่ใช้กระโดดเอง หรือเข้าไปสำรวจป่าคนเดียวแล้วหายไปเป็นอาทิตย์ จากนั้นก็กลับมาพร้อมแผนที่ประหลาดๆของแกน่ะ” ใยไหมเอ่ยเสียงดุขณะนั่งลงข้างเหมยลี่

“เอาล่ะๆ ฉันจะลดกิจกรรมบางอย่างลงแล้วกัน ป่าในประเทศไทยนี่ฉันก็สำรวจมาเกือบหมดแล้ว พวกแกก็เลิกบ่นฉันสักทีเถอะ”

“อ่ะ แล้วตกลงมีนิยายเรื่องอะไรให้ฉันไปทำคอนเทนท์” เสียงมิกิถามอย่างสนใจ

“ มีแน่นอน ‘เรื่องหงส์คู่บัลลังก์’…

เรื่องมันมีอยู่ว่านางเอกเป็นองค์หญิงแคว้นจ้าวเดินทางไปแคว้นเว่ยเพื่อแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์แทนพี่สาวที่ร่างกายอ่อนแอ เพราะแคว้นจ้าวแพ้สงคราม ในระหว่างเดินทางขบวนของนางเอกก็ถูกลอบทำร้าย แล้วนางเอกก็ได้ช่วยชีวิตแม่ทัพแคว้นเว่ยไว้ ทั้งสองเลยเริ่มสนิทกัน

จนมาถึงเมืองหลวงแคว้นเว่ย นางเอกถูกเจ้าอาวาสที่ไทเฮานับถือทำนายว่ามีชะตาหงส์คู่แคว้น หากนางเป็นฮองเฮาจะทำให้บ้านเมืองสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองไปอีกร้อยปี

เพราะคำทำนายนี้เองนางเอกเลยกลายเป็นเป้าหมายของเหล่าองค์ชาย และในระหว่างเดินทางกลับจากวัด ขบวนเดินทางก็ถูกลอบโจมตี

รัชทายาทซึ่งก็คือพระเอกเข้ามาช่วยนางเอก คนทั้งสองถูกไล่ต้อนไปจนตกหน้าผา แต่ไม่ตายพระเอกช่วยนางเอกไว้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส นางเอกที่ตอนแรกไม่ถูกกับพระเอกก็เริ่มใจอ่อน

ทั้งสองคนปลอมเป็นสามีภรรยาแล้วแฝงตัวอยู่ในหมู่บ้านจนพระเอกหายดี พอกลับมาถึงเมืองหลวงปรากฏว่าพระเอกถูกใส่ร้ายว่าสมคบคิดกับเผ่าซย่งหนู พระเอกจึงอาสาไปทำศึกเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์

และแม่ทัพที่นางเอกเคยช่วยชีวิตไว้ก็กลายเป็นอัครเสนาบดีที่มีอำนาจมากเพราะเก่งทั้งบุ๋นบู๊ นางเอกจึงไปขอร้องให้อัครเสนาบดีช่วยพระเอกแต่ถูกปฏิเสธ

นางเอกจึงแอบตามพระเอกไปทำศึกด้วย พอรบชนะพระเอกก็ประกาศจะแต่งนางเอกเป็นชายาและเดินทางกลับ

แต่พอกลับมาถึงเมืองหลวงกลายเป็นว่าฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์ และเหล่าองค์ชายต่างแก่งแย่งกันจนเกิดศึกภายใน ทำให้อัครเสนาบดีต้องออกมาควบคุมสถานการณ์และยึดอำนาจ จากนั้นแต่งตั้งตนเองเป็นผู้สำเร็จราชการแทน และรอคอยให้พระเอกกลับมา

พอพระเอกมาถึงก็ถูกเขาทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสต้องหนีเอาชีวิตรอด ส่วนนางเอกก็ถูกจับตัวไว้เพื่อแต่งงานกับอัครเสนาบดี ซึ่งเขาชอบนางเอกมานานแล้ว

และแผนการลอบสังหารฮ่องเต้กับพระเอกรวมถึงเรื่องแย่งชิงอำนาจของเหล่าองค์ชายก็เป็นแผนการของเขาทั้งหมด

มีแค่เรื่องเกี่ยวกับนางเอกเท่านั้นที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดความรู้สึกรักขึ้นจริงๆ สุดท้ายนางเอกตอบตกลงแต่งงาน

แต่ในคืนเข้าหอนางเอกวางยาพิษในจอกเหล้า พอตัวร้ายดื่มเข้าไปก็กระอักเลือด นางเอกฉวยโอกาสแทงมีดสั้นที่พระเอกเคยให้ไว้เข้ากลางอกตัวร้ายจนมิดด้าม พอตัวร้ายตายนางเอกก็กระอักเลือดเพราะดื่มเหล้าพิษเข้าไปเหมือนกัน

ตอนที่ใกล้จะตายจู่ๆพระเอกก็พังประตูห้องเข้ามา พอเห็นนางเอกจมกองเลือดก็รีบเอายาที่ได้จากหมอเทวดาให้นางเอกกิน จากนั้นก็พานางเอกไปให้หมอเทวดาช่วยรักษา

เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง พระเอกรับสืบทอดบัลลังก์กลายเป็นฮ่องเต้ และแต่งตั้งนางเอกเป็นฮองเฮา มีลูกด้วยกันหกคน ไม่รับสนมเพิ่มจบ”

เมื่อเสียงของเหมยลี่สิ้นสุดลง ทั้งโต๊ะก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบ เคธี่และใยไหมหันมามองหน้ากันก่อนจะพนมมือขึ้น

“สาธุ!!” ทั้งสองเอ่ยขึ้นอย่างรู้กัน

“ร่ายยาวเชียว ดื่มน้ำก่อนมั้ยแก ปกติก็เป็นแบบนี้เหรอมิกิ” ใยไหมยื่นขวดน้ำให้เหมยลี่พลางหันไปถามมิกิ

“ใช่ ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะจำไม่ได้นะ ฉันอัดเสียงไว้แล้ว นี่ไง” มิกิยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเสียง

‘เรื่องหงส์คู่บัลลังก์ เรื่องนี้~…’ ทุกคนมองมิกิแล้วส่ายหัวก่อนจะถอนหายใจ

“เอาล่ะ รีบกินเถอะ พรุ่งนี้พวกเราจะไปล่องแก่งกันไม่ใช่เหรอ” เคธี่พูดขึ้นก่อนจะลงมือจัดการบาร์บีคิวตรงหน้า แล้วทุกคนก็เริ่มทานมื้อเย็นกันอย่างรื่นรมย์

เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศแจ่มใสเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสี่คนเดินทางไปถึงอุทยานล่องละมุน และให้เจ้าหน้าที่นำทางไปจนถึงน้ำตกสายใหญ่

“พวกคุณอยู่ที่นี่ได้จนถึงสามโมงเย็นนะครับ หลังจากนั้นต้องออกจากที่นี่แล้ว พอฟ้ามืดอาจหลงป่าได้นะครับ” เจ้าหน้าที่เตือนทุกคนด้วยความหวังดี พร้อมส่งสายตาและยิ้มหวานให้กับมิกิ

“ค่ะ ขอบคุณที่ช่วยนำทางนะคะ เดี๋ยวที่เหลือพวกเราจัดการเองค่ะ” เหมยลี่เดินขึ้นมาตรงหน้าเจ้าหน้าที่อย่างกระตือรือร้น และบังมิกิจนมิด ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานชักสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่

“ถึงวันนี้กรมอุตุจะไม่ได้แจ้งเรื่องฝนตก แต่ที่นี่เป็นป่าทึบ มักมีฝนตกบ่อยๆ ระวังเรื่องน้ำป่าด้วยแล้วกัน” เสียงเจ้าหน้าที่กระด้างขึ้นมาทันที แล้วเขาก็เดินจากไป ทั้งสี่คนหันมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา

“คิกคิก… อาเหมย ยังเหมือนเดิมเลยนะ มิกิน่ะลูกสองแล้วนะ คิดว่าจะเอาตัวรอดไม่ได้อีกเหรอ” เคธี่พูดพลางหัวเราะจนตัวงอ

“เออ ฉันลืมตัว ก็ดูอีตานั่นจ้องมิกิสิ นี่ถ้าเป็นปลากัดคงท้องไปแล้ว” เหมยลี่พูดพลางเดินสำรวจพื้นที่ไปเรื่อยๆ เมื่อเจอพื้นที่เหมาะสมแล้วทั้งสี่คนจึงจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับล่องแก่งทันที

ธารน้ำสายนี้ไหลค่อนข้างเชี่ยวรวมถึงมีหินที่เป็นเกาะแก่งอยู่มากทำให้ทั้งสี่คนล่องเรืออย่างสนุกสนาน พอถึงจุดหมาย ทุกคนจึงขึ้นไปทานอาหารเที่ยงกันบนริมฝั่งโดยมีเหมยลี่เป็นแม่ครัว แต่ทานไปได้ไม่นานก็เริ่มเห็นเมฆฝนตั้งเค้าอึมครึมมาแต่ไกล ทุกคนจึงรีบเก็บของและกลับไปที่หน้าด่านอุทยานทันที

เมื่อมาถึงหน้าอุทยานก็พบว่ามีผู้คนและเจ้าหน้าที่เดินไปมาเยอะมาก แต่ละคนมีท่าทางเร่งร้อน เมื่อเข้าไปสอบถามจึงได้รู้ว่า ฝนที่ตกตรงต้นน้ำตั้งแต่เที่ยงจนถึงตอนนี้ทำให้มีน้ำป่าไหลบ่าลงมาตัดทางสัญจรหลักและยังมีคนไม่กลับมาจากน้ำตกด้วย

ทั้งสี่คนรู้สึกโล่งอกที่ตัดสินใจกลับลงมาก่อน และด้วยประสบการณ์เดินป่าของเหมยลี่ เธอจึงตัดสินใจเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ทีมช่วยเหลือในหน่วยค้นหาทันที

“คุณเจ้าหน้าที่ คนที่ติดอยู่ด้านบนมีทั้งหมดเท่าไหร่คะ”

“เท่าที่ทราบ มีสามคนมากันเป็นครอบครัว ดูเหมือนจะพาเด็กมาด้วย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เมื่อฝนเริ่มซาทีมค้นหาทั้งหมดมุ่งหน้าขึ้นไปบนน้ำตกล่องละมุนอย่างยากลำบากด้วยความลื่นและความชันของพื้นที่ ทำให้แม้แต่เจ้าหน้าที่ยังได้บาดแผลกันไปไม่น้อยรวมถึงเหมยลี่เองก็เช่นกัน แต่เธอหาได้สนใจไม่ ตอนนี้เธอกำลังคิดถึงสภาพพื้นที่ของอุทยานแห่งนี้จากนั้นก็พยายามหาเส้นทางที่พอจะสัญจรได้จากในความทรงจำ เพราะตอนนี้ทุกคนมาถึงเส้นทางที่ไม่สามารถไปต่อได้แล้ว

“คุณเจ้าหน้าที่ หากเดินไปทางนี้อาจจะอ้อมหน่อย แต่ฉันเคยมาสำรวจแล้วสามารถไปถึงน้ำตกได้เหมือนกัน” เหมยลี่ชี้ไปตรงโขดหินใหญ่ที่ไม่ใช่ทางเดินทั่วไป

เจ้าหน้าที่ต่างมองหน้ากันเหมือนไม่เชื่อ เธอจึงเดินนำไปอย่าไม่สนใจ ทำให้ทุกคนต้องเดินตามหลังมาอย่างเสียมิได้ และพบว่ามีอีกเส้นทางหนึ่งไปยังน้ำตกจริง

หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง เมื่อฟ้ามืดสนิทแล้ว ก็สามารถหาครอบครัวพ่อแม่ลูกที่หายไปพบ ทุกคนต่างดีใจมากและเร่งพาทั้งสามกลับลงไปที่หน้าอุทยาน

แต่ในระหว่างทางนั่น ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เด็กน้อยที่จูงมือแม่อยู่ลื่นพลัดตกลงไปในน้ำที่ไหลเชี่ยว แม่ของเด็กกรีดร้องด้วยความตกใจ

เหมยลี่ส่งเชือกที่คล้องเอวตนเองให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งแล้วกระโดดตามเด็กน้อยลงไปในน้ำทันที

เธอพยายามว่ายหลบหลีกเศษกิ่งไม้และก้อนหินในน้ำจนกระทั่งไปถึงตัวเด็ก

“เด็กดี ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้ว พี่สาวมาช่วยแล้วนะ” เธอปลอบโยนเด็กน้อยที่กำลังตื่นกลัวและกอดเขาไว้แน่น

แต่ยังไม่ทันจะดีใจเธอก็มองเห็นหินก้อนใหญ่ด้านหน้าซึ่งกระแสน้ำกำลังพัดเธอและเด็กน้อยให้เข้าไปปะทะกับหินก้อนนั้น

“ดึงเชือก!!” เธอตะโกนขึ้นไปบนฝั่ง และพบว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายต่างช่วยกันดึงเชือกอยู่ด้วยความยากลำบาก ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อแม่ของเด็ก

แต่เพราะกระแสน้ำที่ไหลแรงและน้ำหนักตัวทั้งสองคนมากเกินไป จึงไม่สามารถดึงเธอและเด็กน้อยขึ้นไปได้ หากเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะไม่มีใครรอด

เหมยลี่ตัดสินใจปลดเชือดที่เอวไปคล้องที่ตัวเด็กน้อยและใช้ตนเองเป็นโล่รับแรงกระแทกจากก้อนหิน

ในชีวิตนี้เธอไม่เคยเสียใจเลยที่เป็นสาวร่างใหญ่ จนกระทั่งตอนนี้ เธอรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายพยายามว่ายพาเด็กน้อยให้เข้าใกล้ฝั่งมากที่สุด และยังคงใช้ตนเองปกป้องเขาจากเศษกิ่งไม้และก้อนหิน

แรงของเธอเริ่มหมดลงไปทุกที เธอรู้สึกเพียงร่างกายเย็นชืดไปหมด และก่อนที่จะหมดสติไป เธอส่งเด็กน้อยไปที่หินก้อนหนึ่งใกล้ริมน้ำอย่างปลอดภัย แต่ตัวเธอกลับลอยหายไปตามกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด