บทนำ
ท่ามกลางความมืดมิดและเย็นเฉียบ เสียงกระซิบเดี๋ยวดังเดี๋ยวเบาค่อยๆ เข้าสู่โสตประสาทของหญิงสาว
“เอาล่ะ โชคดียิ่งที่มาทัน มิเช่นนั้นร่างนี้คงใช้การมิได้แล้ว”
“ไป๋อู่ฉาง! เจ้าคนสะเพร่า! ถ้าร่างนี้ใช้มิได้นางก็ไม่มีร่างใหม่อีกแล้วนะ”
“ข้าถึงได้บอกให้เจ้ารีบอย่างไรเล่า ช่างเถอะ เพียงเท่านี้ก็หมดหน้าที่ของพวกเราแล้ว กลับไปพักผ่อนให้สบายใจดีกว่า”
เสียงรอบด้านเงียบลงอีกครั้ง เหลือเพียงความหนาวเย็นที่คอยกัดกินจิตใจหญิงสาวเท่านั้น
หลี่เหมยลี่พยายามนึกว่าเหตุใดตนเองจึงมาอยู่ที่นี่ หากจำไม่ผิดเธอกระโดดลงไปช่วยเด็กชายที่ลื่นตกลงไปในกระแสน้ำป่า ซึ่งไหลบ่าลงมาท่วมเส้นทางสัญจร ตอนไปเที่ยวล่องแก่งที่น้ำตกล่องละมุน
เธอส่งเด็กคนนั้นเข้าไปใกล้ฝั่งได้อย่างปลอดภัย แต่ตนเอง…
‘ดูเหมือนว่า… ฉันคงจะตายไปแล้วสินะ!’
หญิงสาวโอดครวญอยู่ในใจอย่างรู้สึกแย่ ชีวิตนี้อยู่มาสามสิบปีไม่เคยเสียใจกับการเป็นสาวท้วมมากขนาดนี้
เพราะเป็นสาวร่างใหญ่ทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่อุทยานไม่สามารถดึงตัวเธอและเด็กขึ้นจากกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากได้ ทั้งที่ผูกเชือกกู้ภัยไว้กับตัวแท้ๆ!
สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจสละเชือกให้เด็กน้อย และพยายามว่ายทวนกระแสน้ำพาเด็กขึ้นไปบนโขดหินใกล้ฝั่ง แต่ตัวเองดันหมดสติไปเสียอย่างนั้น!
‘นี่คือที่เรียกกันว่าตายอย่างอนาถใช่มะ!? โธ่! ชีวิต เกิดมาไม่สวยทีนึงแล้ว ขอตายแบบสวยหน่อยไม่ได้เหรอไง!!’
แม้จะคร่ำครวญเพียงใดแต่เหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว เมื่อครู่ที่ได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสองนั้น จะต้องเป็นยมทูตดำขาวที่เป็นผู้รับวิญญาณคนตายแน่ๆ
แต่เมื่อกี้พวกเขาพูดถึงร่างใหม่ หรือว่าเธอจะได้โอกาสมีชีวิตอีกครั้ง!
หญิงสาวเริ่มมีกำลังใจขึ้นมาก และอธิษฐานอยู่ในใจอย่างคาดหวัง
‘ชีวิตก่อนก็ลำบากมามากแล้ว เพิ่งสบายได้ไม่กี่ปีก็ดันมาตายแบบนี้… สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายด้วยความดีก่อนตายที่ลูกช้างได้ช่วยเหลือเด็กน้อยไว้ ขอให้ลูกช้างเกิดมารูปสวย รวยทรัพย์ นับวิชา มีฐานะดีด้วยเถิด!’
วาบ!
จู่ๆ กลับมีแสงสว่างจ้าเกิดขึ้นรอบด้าน จนกลบความมืดมิดไปเสียสิ้น ภาพต่างๆ มากมายไหลบ่าเข้ามาในสมองหญิงสาวราวเขื่อนแตก!
แต่เพียงไม่นานเธอกลับหมดสติลงไปอีกครั้ง…