บทที่ 9 ฝันเปียก!? NC

ทั้งที่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ได้เพียงหนึ่งวันเท่านั้น แต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกลับมีมากมายเสียจนจ้าวเหม่ยอิงรู้สึกท้อใจ

ชีวิตการเป็นองค์หญิงนั้น มิใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ แต่ในเมื่อนางมาอยู่ในร่างนี้แล้ว เช่นนั้นก็มีแต่ต้องพยายามสู้ต่อไป จนกว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวและทำแผนการที่วางไว้ในอนาคตให้สำเร็จเท่านั้น

จ้าวเหม่ยอิงตัดสินใจจะช่วยเหลือพี่ชายผู้เป็นรัชทายาทให้ขึ้นครองบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง และสั่งสอนน้องสาวให้มากที่สุด เพื่อให้นางสามารถเอาตัวรอดได้ เมื่อต้องไปล้มลุกคลุกคลานอยู่ในเนื้อเรื่อง

หลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างสำเร็จ นางจะออกท่องเที่ยวสำรวจโลกแห่งนี้เสียให้ทั่ว และทำแผนที่ขนาดใหญ่ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้

เมื่อครั้งอยู่ในโลกก่อนงานอดิเรกหนึ่งที่นางชอบทำ นั่นคือการออกสำรวจป่าคนเดียว และทำแผนที่เส้นทางเดินป่าไว้ให้กลุ่มนักสำรวจด้วยกันได้เข้าไปศึกษาในพื้นที่เหล่านั้น

มาบัดนี้แม้จะมิได้มีพวกเทคโนโลยีเข้าช่วยเหมือนเมื่อก่อน แต่สำหรับจ้าวเหม่ยอิงแล้วกลับมิใช่อุปสรรคแต่อย่างใด นางจะต้องทำตามแผนที่วางไว้ให้ได้

ที่สำคัญนางยังมีสกิลที่สวรรค์ประทานให้อีกตั้งสามอย่าง รับรองว่าแผนการที่วางไว้จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน

พรุ่งนี้นางจะต้องรีบตื่นมาฝึกฝนวรยุทธ์ จึงรีบเข้านอนเร็วและหลับสนิทไปในเวลาเพียงไม่นานด้วยความเหนื่อยล้า

บนเตียงสี่เสาในห้องนอนอันหรูหรา เงาร่างของคนสองคนกำลังขยับกายบดเบียดกันอย่างร้อนแรง

หญิงสาวนางหนึ่งกำลังถูกบุรุษหนุ่มร่างสูงกำยำปรนเปรอความใคร่ให้อย่างถึงอกถึงใจ

แท่งร้อนใหญ่โตกระหน่ำแทงเข้าไปในร่องเสียวของหญิงสาวไม่ยั้ง

“ซี๊ด~ อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ! พ่อม้าศึกช่วยเบาหน่อย! อ๊า~ ซี๊ด~ ฉันเสียวจะตายอยู่แล้ว! อ๊ะ! อ๊ะ!”

นางทำได้เพียงร้องครวญครางและเด้งสะโพกรับความร้อนแรงที่เขากระแทกกระทั้นเข้ามาจากทางด้านหลัง

มือบอบบางจิกหมอนใบใหญ่แสนนุ่มไว้แน่น ทั้งยังเกลือกใบหน้าลงไปละเลงเพื่อระบายความเสียวในบางครั้ง

มือหนาของเขาบีบคลึงสะโพกขาวเนียน ก่อนจะจับไว้มั่นและซอยแก่นกลางเข้าออกแรงๆ อย่างถี่กระชั้น ทำเอาหญิงสาวถึงกับหวีดร้องออกมาด้วยความเสียวสุดจะบรรยาย

ความสุขแสนรัญจวนยังมิทันได้สงบลง เขากลับพลิกร่างนางให้นอนหงาย ก่อนจะทาบทับร่างสูงกำยำนั่นลงมาทั้งตัว

มือใหญ่แยกเรียวขาของนางออก ก่อนจะสอดใส่เจ้ามังกรยักษ์เข้ามาในร่องนางอีกครั้ง

สะโพกหนันแน่นค่อยๆ ซอยเข้าออกช้าๆ พร้อมกับริมฝีปากบางที่ก้มลงมาประกบจูบนางอย่างร้อนแรง

“อื้อ~ อื้อ~ อื้อ~” หญิงสาวอยากจะครางออกมาดังๆ เสียเหลือเกิน แต่ติดตรงที่ถูกเขาดูดกลืนเสียงไปจนหมดสิ้น

ลิ้นหนาแทรกเข้ามาพัวพันรัดรึงกับลิ้นของนางอย่างกระหาย ความช่ำชองในการจูบเช่นนี้ทำเอาหญิงสาวแทบคลุ้มคลั่ง

ท่อนเอ็นใหญ่โตของเขาเริ่มเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง น้ำรักที่เพิ่งจะปลดปล่อยเข้าไปก่อนหน้าถูกกระแทกเสียจนไหลเยิ้มออกมาจากด้านในร่องเสียว

เขาดันขาอ่อนด้านหลังของนางขึ้นจนปลายเท้าแทบจะแตะศีรษะ ยิ่งทำให้ตอนเขาเสียบแท่งร้อนใหญ่โตเข้ามา ถึงกับชนปากมดลูกของนางเลยทีเดียว

“ซี๊ด~ อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊า~ โอ๊ย~ เสียว! เสียวโคตร! ฉัน… อ๊า~ ฉัน… อ๊ะ! ไม่ไหวแล้ว ซี๊ด~ อ๊า~”

นางถึงกับเกร็งกระตุกและปลดปล่อยน้ำชุ่มฉ่ำออกมาเต็มไปหมด แต่บุรุษด้านบนยังคงขยับสะโพกหนันแน่นไม่หยุด

เขาก้มลงมาบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาว ทั้งยังเร่งจังหวะซอยท่อนเอ็นแรงๆ ถี่ๆ อีกครั้ง

นางหวีดร้องอยู่ในลำคออย่างแสนทรมาน และกอดคอแกร่งของบุรุษด้านบนไว้แน่น น้ำชุ่มฉ่ำที่เพิ่งปลดปล่อยไปกลับไหลทะลักออกมาเพิ่มพร้อมกับน้ำรักสีขาวขุ่นของเขา

เมื่อริมฝีปากบางยอมถอนจูบออก นางถึงกับหอบหายใจราวกับปลาขาดน้ำ

‘ทำไมฉันถึงรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก การมีอะไรกันมันรู้สึกดีขนาดนี้เชียว?’

สัมผัสอันเร่าร้อนที่แผดเผาไปทั่วร่างยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ความรู้สึกที่พุ่งขึ้นสูงจนสุดถึงขนาดต้องหวีดร้อง

และดิ่งลงไปยังความทรมานที่ต้องการให้เขาปรนเปรออย่างร้อนแรงแบบต่อเนื่อง ซึ่งเพียงไม่นานบุรุษด้านบนก็สนองความต้องการของนางได้อยากถึงอกถึงใจยิ่ง

ความรัญจวนที่เกิดขึ้นจากการเสร็จสมไปหลายครั้งหลายครา ทำให้จ้าวเหม่ยอิงถึงกับหมดเรี่ยวแรง แม้แต่จะลืมตาขึ้นมองบุรุษผู้นั้น

‘ใคร? พ่อม้าศึกแสนคึกคะนองคนนี้เป็นใครกัน!? เท่าที่จำได้ในโลกโน้น แม้แต่แฟนฉันยังไม่เคยมีด้วยซ้ำ! หรือจะเป็นพระเอกหนังโป๊ในคลิปลับที่ยัยมิกิหามาให้ดู? แต่ว่าพระเอกหนังโป๊จะถึงขั้นทะลุมิติมาโยกกับฉันขนาดนี้เชียวเหรอ!?’

หญิงสาวคิดพลางพยายามลืมเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้น เพื่อจะได้เห็นใบหน้าของบุรุษด้านบนให้ชัดเจน แต่สิ่งที่มองเห็นกลับเป็นเพียงใบหน้าอันพร่าเลือนของคนผู้หนึ่งเท่านั้น

นางรู้สึกได้ว่าเขากำลังจ้องมองตนเองอยู่ สายตานั่นทั้งรักใคร่ทั้งหลงใหลนางปานจะกลืนกินเลยทีเดียว

จุมพิตแผ่วเบาที่ประทับลงบนหน้าผาก ช่างอ่อนโยนเสียจนหัวใจนางเคลิ้มไหว

อ้อมกอดที่ค่อยๆ กระชับให้แน่นขึ้นอย่างทะนุถนอม ทำให้ใบหน้าของนางซุกซบเข้าไปในแผงอกอุ่นนั่น

ความรู้สึกหวานละมุนค่อยๆ เอ่อล้นออกมาจากในหัวใจ นางกอดตอบบุรุษผู้นั้นอย่างแนบแน่น เขาลูบไล้แผ่นหลังนางเบาๆ อย่างอ่อนโยน

เหมือนเป็นความหวานชื่นภายหลังคลื่นรักอันโหมกระหน่ำ ในใจหญิงสาวคิดเพียงว่า อยากจะอยู่ในอ้อมกอดของบุรุษผู้นี้ไปชั่วชีวิต…

บนเตียงหลังเล็กแสนประณีตในห้องบรรทมปีกขวาของตำหนักฉงฮว๋า หญิงสาวผู้ซึ่งกำลังหลับใหลค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย

ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวอย่างมึนงง

‘ไม่ใช่เตียงสี่เสา ไม่มีม่านแพรต่วน ไม่มีที่นอนขนเป็ดและ… ไม่มีพ่อม้าศึกแสนคึกคะนองคนนั้น!!’

หญิงสาวเผยสีหน้าเสียดายออกมาอย่างสุดแสน ก่อนจะรีบสะบัดหน้าไปมาแรงๆ อยู่หลายครั้ง

‘นี่ฉันเป็นบ้าอะไรถึงได้ฝันเปียกแบบนี้! ไม่ใช่วัยรุ่นที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่านเสียหน่อย… แต่ว่าพ่อม้าศึกนั่น… ทั้งหุ่นแซ่บ แล้วก็ลีลาเด็ดเป็นบ้า! โอ๊ย~ พอๆ หยุด! เลิกคิดได้แล้ว เอาเวลาไปฝึกฝนสกิลวรยุทธ์ดีกว่า’

สุดท้ายเมื่อสามารถหยุดความคิดฟุ้งซ่านของตนเองลงได้ จ้าวเหม่ยอิงจึงลุกขึ้นมาเริ่มฝึกฝนวรยุทธ์อย่างจริงจัง และสลัดความฝันนั่นทิ้งไปได้ในที่สุด

แต่ก็เพียงแค่วันแรกเท่านั้น…

ผู้ที่ตั้งใจตื่นมาฝึกฝนพร้อมกับหญิงสาว ยังมีผู้เป็นน้องและข้ารับใช้ทั้งสี่คน หากนางกำนัลคนสนิทเหล่านี้สามารถฝึกฝนสกิลต่างๆ ได้ล่ะก็ เช่นนั้นจะสามารถเป็นมือเป็นเท้าให้กับพวกนางสองพี่น้องได้มากโขทีเดียว

แต่จากการทดสอบทั้งห้าคนแล้ว ดูเหมือนแต่ละคนจะมีความถนัดที่แตกต่างกันออกไป

จ้าวลี่อิน นอกจากทักษะการแสดงที่ไม่ว่าอย่างไรก็จำเป็นต้องฝึกฝนให้ชำนาญแล้ว นางยังมีพรสวรรค์ด้านการจดจำรายละเอียดได้ดี จึงเหมาะกับการเรียนวิชาแพทย์และวิชาแปลงโฉม

ชิงถง เป็นคนร่าเริงสดใสและอัธยาศัยดี ทั้งยังมีความคล่องแคล่วว่องไว นางเรียนรู้เรื่องกระบวนท่าต่างๆ ในการฝึกยุทธ์ได้ดียิ่ง

ชิงฮวา เป็นคนรอบคอบ และเดิมมีความสามารถด้านการทำอาหารอยู่บ้าง จ้าวเหม่ยอิงจึงสอนเทคนิคการทำอาหารแบบประยุกต์ และวิธีการใช้มีดของตนเองให้กับนาง

เซียงเซียง แม้จะดูเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย แต่แท้จริงแล้วนางแรงเยอะยิ่ง! ครั้งก่อนที่ทำอาหารร่วมกัน คนที่แบกเครื่องครัวใหญ่ๆ ทั้งหมดไปยังตำหนักเก่าอันห่างไกลในคราวเดียวก็คือนาง!

และซินซิน นางราวกับเป็นตัวละครลับก็มิปาน เพราะทุกอย่างที่จ้าวเหม่ยอิงสอน นางล้วนจดจำได้ทั้งสิ้น และสามารถทำออกมาได้ในเวลาเพียงไม่นาน มีเพียงสิ่งเดียวที่ดูเหมือนนางจะไม่ค่อยถนัด คือเรื่องการแสดงความรู้สึกนั่นเอง

แต่ไม่ว่าใครจะถนัดสิ่งใด จ้าวเหม่ยอิงยังคงให้ทุกคนเรียนรู้ทุกอย่างที่นางตั้งใจถ่ายทอด

และนางได้บอกกับทุกคนว่าความรู้เหล่านี้ เป็นสวรรค์ประทานให้หลังจากที่นางหายดี เพื่อไถ่โทษที่ทำให้นางสติฟั่นเฟือนมาตลอดระยะเวลาหลายปี

สตรีทั้งห้าเชื่อคำบอกเล่าของหญิงสาวโดยมิสงสัยสิ่งใดแม้แต่น้อย ก็ในเมื่อนางสามารถสอนทุกคนได้ เช่นนี้ก็เป็นหลักฐานยืนยันแล้ว ว่าสิ่งที่องค์หญิงสามตรัสคือความจริง!

ทุกคนต่างตั้งใจฝึกฝนกันอย่างขะมักเขม้น เพียงแต่ยิ่งนานวันเข้าอาจารย์ผู้สอนอย่างจ้าวเหม่ยอิง ดูเหมือนจะมีเรื่องอะไรในใจที่มิสามารถเอ่ยกับผู้ใดได้

แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็นถึงความหนักอกของหญิงสาวได้เลยสักคน

นี่ต้องถือว่าเป็นเรื่องดีกระมัง เพราะหากให้ใครรู้เข้าล่ะก็ นางคงอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนีแล้ว!

ตั้งแต่วันแรกที่ฟื้นขึ้นมาจนกระทั่งบัดนี้

นางฝันเปียกแทบทุกคืน!