EP 4 [4-2]
“ละ แล้ว ทำไมบอสถึง..”
“อาม่าอยากให้ผมแต่งงานและผมก็ยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานจริงๆ ตอนนี้”
“คุณก็บอกท่านไปตรงๆ สิคะ”
“ถ้ามันง่ายแบบนั้นผมคงทำไปแล้ว แต่คุณไม่ต้องกลัวหรอกเราแค่แต่งงานกันในนามและผมจะจ่ายค่าสินสอดให้คุณทั้งหมดสิบล้านบาท”
“สิบล้าน!”
นี่เขาบ้าไปหรือเปล่า เงินตั้งสิบล้านนะจะเอามาแลกกับการแต่งงานปลอมๆ กับผู้หญิงอย่างฉันอะเหรอ
“ทำไมต้องเป็นฉันด้วยคะ ฉันคิดว่าคุณน่าจะหาผู้หญิงสวยๆ โปรไฟล์ดีๆ ได้ไม่ยาก”
“เพราะอาม่าของผมฉลาดมากไง ถ้าเป็นคุณมันก็จะง่ายกว่า รู้จักกันมาสามปี ไม่ต้องเสียเวลาทำความรู้จักเพิ่มเติม แต่คงมีเรื่องที่จะต้องปรับกันนิดหน่อย ทำไมล่ะปกติคุณก็รับจ้างเที่ยวอยู่แล้วนี่แค่เลิกรับงานคนอื่นแล้วมาอยู่กับผมคนเดียว”
ทำไมประโยคสุดท้ายของเขามันทำให้ฉันใจเต้นแรงแบบนี้เนี้ย ฉันคิดตามที่เขาพูด ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็จะต้องเสียเวลาทำความรู้จักกันและอีกอย่างจะมีสักกี่คนที่จะยอมรับความเนี้ยบทุกระเบียบนิ้วของเขาได้ขนาดนี้
“บอสรู้เรื่องนั้นได้ไงคะ”
“คุณทำงานกับผมมาสามปีนะ คุณคิดว่าการแต่งตัวเชยๆใส่แว่นตาหนาๆ แค่นั้นจะทำให้ผมจำคุณไม่ได้เลยเหรอ”
“แต่ก็แค่การแต่งตัวนะคะ ไม่น่ารู้ไปถึงเรื่อง รับจ้างเที่ยว”
ฉันมองเขาอย่างจับผิด อย่าบอกนะว่าเขาส่งคนไปตามสืบเรื่องของฉัน
“ผมรู้ได้ยังไงมันไม่สำคัญหรอกคุณมิเชล”
“บอส!”
เขาพูดพร้อมกับดึงตัวฉันเข้าไปกอดจนฉันต้องรีบยกมือขึ้นมาดันตัวเขาเอาไว้ ฉันไม่คิดเลยนะว่าเขาจะเป็นคนมือไวขนาดนี้
“หึ! คุณจะยอมตกลงไหม”
“ฉะ ฉันขอเวลาคิดก่อนได้ไหมคะ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณคงต้องคืนเงินและตำแหน่งเลขาของผมมาแล้วล่ะ”
“นี่มันมัดมือชกกันนี่คะ”
ฉันจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ไม่มีทางเลือกให้ฉันเลยนี่นา บีบกันขนาดนี้ฉันจะปฏิเสธได้ยังไง
“หึๆ ฮ่าๆๆ”
อยู่ๆ เขาก็ดันหัวเราะออกมาแทน ฉันเพิ่งเห็นเขาหัวเราะครั้งแรกเลยนะ หรือว่าเขาบ้าไปแล้ว
“คุณหัวเราะอะไร”
“นี่คงเป็นครั้งแรกเลยมั่งที่คุณขึ้นเสียงและทำสีหน้าไม่พอใจใส่ผม”
“ฉันเป็นคนนะคะ ไม่ได้เกร็งหน้าขรึมเป็นหุ่นยนต์ตลอดเวลาเหมือนคุณ”
“คุณว่าไงนะ”
เขาพูดพร้อมกับก้มหน้าลงมาใกล้ฉันเข้าไปอีก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
"ชุดฉันคงมาส่งแล้วค่ะ”
ฉันรีบผลักเขาออกพร้อมกับเดินไปเปิดประตูห้องแต่คนที่ยืนอยู่หน้าห้องกลับไม่ใช่แม่บ้านอย่างที่ฉันคิดเอาไว้
“คะ..คุณสายไหม”
“คุณเลขาหน้าห้องเฮียนี่ ทำไมถึง..”
คุณเมเบลและคุณแกรมม่า สองพี่น้องมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าและฉันก็เพิ่งนึกได้ว่าชุดที่ฉันใส่อยู่มันคือเสื้อของบอส
“ไม่ใช่อย่าง..”
“อ้าว มาทำไมแต่เช้า”
บอสเดินมาที่ประตูพร้อมกับดึงตัวฉันเข้าไปกอดเอวเอาไว้ ทำให้สองพี่น้องที่ยืนอยู่หน้าห้องทำหน้าเหวอมากขึ้นและฉันพยายามดันตัวเขาออกเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรัดฉันแน่นกว่าเดิมอีก
“ขอเข้าห้องก่อนได้ไหมครับ”
“อืม”
บอสกอดเอวฉันให้เดินนำเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น
“บอสปล่อยฉันนะคะ จะทำอะไรคะ”
ฉันรีบหันไปกระซิบเขาทันที
“เลิกเรียกผมว่าบอส แทนตัวเองว่าไหม ตามน้ำไปก่อน”
เขาพูดจบก็นั่งลงที่ห้องนั่งเล่นและตามมาด้วยสองพี่น้องที่กำลังมองเราอย่างจับผิด
“นี่มันเรื่องอะไรกันคะ”
“ก็อย่างที่หนูเห็น”
“เฮียกับคุณไหม...”
“ไม่จริงอะ”
“ทำไม”
“ผมเห็นเฮียทำงานกับคุณเลขามาตั้งนาน ไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย”
“ทำไมเฮียต้องป่าวประกาศด้วยล่ะ”
เขาตอบออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนมันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งฉันก็ทำได้แค่ส่งยิ้มบางๆ ให้สองพี่น้องที่นั่งจ้องเราเท่านั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก..
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งและฉันคิดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นชุดทำงานที่ฉันกำลังรออยู่แน่ๆ
“ฉะ... ไหมขอไปเอาชุดก่อนนะคะ”
“ครับ”
เขาตอบพร้อมส่งยิ้มบางๆ และปล่อยมือออกจากเอวฉันเชิงอนุญาต ตอนนี้ฉันอยากจะยกรางวัลตุ๊กตาทองมอบให้เขาจริงๆ เลย ทำไมเขาถึงได้ตีหน้านิ่งได้ขนาดนี้นะ
“ชุดได้แล้วค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ”
ฉันรับชุดมาก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าไปแต่งตัวในห้องนอนของเขาโดยปล่อยให้สามพี่น้องนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น นี่ถ้าคนรองมาด้วยอีกคนก็คงครบองค์ประชุมพอดิบพอดี
อัลฟ่า PART ?
“เฮียช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่ามันไม่จริง”
“ทำไมเฮียต้องโกหก”
“งั้นแสดงว่าที่เฮียไม่โวยวายเรื่องอาม่าอยากให้แต่งงาน เพราะเฮียเป็นแฟนกับคุณไหมอยู่แล้วอะเหรอ แบบนี้ก็ขี้โกงน่ะสิ หนูนี่ยังเด็กที่สุดด้วยซ้ำ ทำไมหนูต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยไม่รู้ อยากจะบ้าตาย”
ยัยตัวเล็กของผมบ่นออกมายกใหญ่ เป็นธรรมดาที่เธอจะรู้สึกไม่พอใจเวลาที่ไม่ได้ดั่งใจเพราะเธอโดนตามใจมาโดยตลอดแต่อย่างว่าล่ะครับ บางทีผมก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้ตามใจเธอไม่ได้จริงๆ พูดง่ายๆ คือผมแพ้ทางน้องสาวนั้นแหละครับ
“ถ้าเฮียแต่งงาน หนูอาจจะไม่ต้องแต่งก็ได้นะ”
“เหมือนที่เฮียเบบอกใช่ไหมคะ ถ้ามีใครแต่งสักคนอาม่าก็น่าจะดีใจแล้ว”
“หึ! มันส่งเราสองคนมาสินะ”
“แหะๆ แต่เฮียเบต้องตกใจแน่ถ้ารู้ว่าเรามาเจออะไร”
“ไม่ต้องบอกมัน ให้มันรู้ทีหลัง”
“ฮ่าๆๆ ดีจัง”
น้องสาวผมหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะชะงักไปทันทีที่สายไหมเดินออกมาจากห้องนอนของผม
“ทำไมคุณไหมยังแต่งตัวแบบนี้”
สายไหมก้มลงมองชุดตัวเองพลางขมวดคิ้วก่อนจะถามออกมา
“มันทำไมเหรอคะ”
“มันเชยไงคะ อาม่าไม่มีทางชอบแน่ๆ มันดูแก่กว่ารุ่นอาม่าอีกคะ”
อีกอย่างของนิสัยน้องสาวผมก็คงจะเป็นการพูดตรงๆ จนบางคนมองว่าอาจจะปากร้ายไปหน่อย
“มะ มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก เนอะ”
แกรมม่าพูดพร้อมกับหันมามองหน้าผมเพื่อขอความคิดเห็น แต่จริงๆ ผมก็มองว่ามันเชยนั้นแหละ
“ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้หนูว่างเดี๋ยวหนูจะพาเจ๊ไหมไปแปลงโฉมเอง”
‘เจ๊ไหม!’
ทุกคนพูดออกมาพร้อมกันไม่เว้นแม้แต่เจ้าของชื่อก็ตาม
“ทำไมคะ ก็เป็นแฟนของเฮียไม่เรียกเจ๊ จะให้เรียกอะไร”
เมเบลพูดพลางยิ้มร่าแล้วลุกขึ้นเดินไปหาสายไหมที่ตอนนี้กำลังยืนงงอยู่
“วันนี้หนูขอตัวเจ๊ไหมหนึ่งวันนะคะเฮีย”
“คือ...ไหมต้องไปทำงานนะคะคุณเบล”
“คุณอะไรกันคะ เรียกหนูว่า เมเบล น้องเบล เฉยๆ ก็ได้ค่ะ อีกอย่างหนูไม่ยอมให้เจ๊ไหมแต่งตัวแบบนี้ไปตลอดหรอกนะคะ”
สายไหมทำหน้าลำบากใจก่อนจะหันมามองหน้าผมเหมือนต้องการความช่วยเหลือ ผมว่าไม่เห็นจะแปลกเลยวันนั้นที่เธอแต่งตัวก็ออกจะ...สวยดี
“ไปเถอะ”
ผมพูดพลางลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อหยิบบางอย่างในกระเป๋าสตางค์ออกมายื่นให้สายไหม
“นี่บัตรเฮีย เอาไปช้อปปิ้งกับเมเบลนะ”
แกรม/เมเบล “สายเปย์ ~”
------------------------------------
เฮียอัลก็มาจ้าาาาา