บท
ตั้งค่า

ความขมขื่นที่ปกปิดไว้ : 3

ฮึ่ม!

เสียงฟ้าคำรามดังห่าใหญ่พร้อมกับเม็ดฝนมากมายหลั่งเป็นสายดับเพลิงอัคคีนั้นในพริบตา

ตุบ...

ดรุณีน้อยสลบล้มลงบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝนเวทย์

"กางค่ายกลเกล็ดพิรุณ"

นักพรตในอาภรณ์สีขาวเหินลงจากฟ้าปรากฏขึ้นตรงหน้าของหลี่ต้งและหลี่จง ผู้มาเยือนสั่งลูกศิษย์อีกสามคนร่ายเขตอาคมล้อมรอบตัวหลี่ชิงชิงเอาไว้

"ท่านคือ..."

หลี่จงเคยเห็นการแต่งกายเช่นนี้ หากแต่เขากลับไม่รู้ชื่อนักพรตหญิงตรงหน้า

"ข้าคือเจ้าสำนักเมฆาล่องลอย หยวนจี"

"ท่านแซ่หยวนหรือ ไม่ทราบท่านเกี่ยวข้องอันใดกับหยวนชิง"

หลี่ต้งได้ยินชื่อแซ่ของนักพรตท่านนี้จากปากนางเองจึงใคร่สงสัย

"เจ้ารู้จักหยวนชิง?"

เจ้าสำนักหยวนจีทั้งดีใจระคนแปลกใจที่ชาวบ้านผู้นี้เอ่ยนามของพี่น้องร่วมสาบานนาง

"นางคือพี่สะใภ้ข้า" หลี่จงเป็นคนตอบคำถามเพราะกลัวพี่ชายจะพลั้งปากพูดอะไรไม่เข้าหูนักพรตหญิงตรงหน้าเข้า

"เช่นนั้นเองรึ ข้ากับหยวนชิงเป็นศิษย์จากสำนักเมฆาล่องลอยรุ่นแรก ถูกเจ้าสำนักรุ่นก่อนเก็บมาเลี้ยงจึงใช้แซ่เดียวกัน เปรียบเสมือนพี่น้องร่วมสาบานกัน"

เจ้าสำนักเมฆาล่องลอยหยวนจีอธิบายสิ่งที่สกุลหลี่ไม่เคยรู้มาก่อนให้ฟัง

"เหตุใดพี่สะใภ้ถึงไม่เคยบอกเรื่องนี้แก่เรา"

"เรื่องนี้หากเล่าแล้วยาวนัก เมื่อยี่สิบปีก่อน หยวนชิงกับข้าต่างก็ถูกอาจารย์หมายหัวไม่คนใดก็คนหนึ่งจะต้องได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป ทว่าหยวนชิงมีนิสัยเป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบอยู่ในกฎในเกณฑ์ นางไม่อยากถูกจองจำไว้ที่เขาเมฆาที่เงียบสงบนั้น สุดท้ายจึงตัดสินใจหนีลงจากเขาและปกปิดตัวตนจากสำนักเมฆาล่องลอยไม่ให้ผู้ใดตามหาเบาะแสนางเจอ"

เจ้าสำนักหยวนจีเล่าความเป็นมาด้วยความสุขุม

"ถึงกระนั้นเมื่อสิบปีก่อน มีอยู่วันหนึ่งนางก็ติดต่อข้ามา บอกว่านางมีชีวิตที่สุขสบาย มีสามีอันเป็นที่รัก และบอกข่าวดีว่านางกำลังจะมีลูก ข้าจึงรีบส่งศิษย์จำนวนหนึ่งออกค้นหานางแต่ก็ไม่พบ จวบจนเดือนก่อนมีข่าวลือว่าหมู่บ้านทางแดนบูรพามีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้น คาดเดากันว่าเกี่ยวข้องกับปีศาจข้าจึงลงมาดูด้วยตนเองจนเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่เลยช่วยนางไว้ทัน"

เจ้าสำนักหยวนจีมองไปยังหลี่ชิงชิงที่นอนหมดสติอยู่ที่เดิม

"เมื่อครู่เจ้าเรียกหยวนชิงว่าพี่สะใภ้ หรือว่านั่นคือลูกสาวของศิษย์น้องข้า"

จะว่าไปแล้ว หน้าตาดรุณีน้อยนางนั้นก็คล้ายหยวนชิงที่นางรู้จักอยู่หลายส่วน

"ท่านเจ้าสำนักเข้าใจถูกแล้ว นางคือบุตรสาวของพี่สะใภ้นามว่าหลี่ชิงชิง"

หลี่จงรีบบอกชาติกำเนิดหลานสาวทันที

เขานึกแล้วตั้งแต่เห็นหยวนชิงในคราแรกก็รู้แล้วว่านางต้องมิใช่คนธรรมดา

สตรีที่ไหนจะออกเดินทางมาที่หมู่บ้านกันดารเช่นนี้ แถมยังดูคล่องแคล่วไม่เกรงกลัวสิ่งใด แข็งแรงยิ่งกว่าบุรุษบางคนเสียอีก

"แล้วตอนนี้หยวนชิงของข้าอยู่ที่ใดกัน"

เจ้าสำนักหยวนจีมองหาพี่น้องร่วมสาบานของนาง

"นางตายแล้ว ถูกปีศาจฆ่าตายตั้งแต่สิบปีก่อน"

หลี่ต้งคับแค้นใจอย่างไร จนตอนนี้เขายังคงคับแค้นใจเรื่องถูกภรรยานอกใจเช่นนั้น น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจึงมีทั้งความเสียใจและเคียดแค้นปะปนอยู่

"ถูกปีศาจฆ่า หยวนชิงวรยุทธ์สูงส่ง ไม่มีทางจะพลาดท่าให้ปีศาจชั้นต่ำจนพบจุดจบเช่นนั้น"

นางและศิษย์น้องฝึกบำเพ็ญเพียรมาด้วยกันตั้งนาน วิชาของหยวนชิงแกร่งกล้ากว่านางด้วยซ้ำจะมาพลาดท่าให้กับปีศาจใดกัน

"ข้าพูดความจริงเหตุใดไม่มีผู้ใดเชื่อ"

หลี่ต้งสมเพชตนเองยิ่งนัก วันนั้นเขาเห็นกับตาตนเองว่ามีมังกร ตัวใหญ่กำลังใช้กรงเล็บแหลมคมเหยียบย้ำลำตัวของฮูหยินเขาอยู่ ส่วนปากใหญ่โตเขี้ยวยาวแหลมคมน่าเสียวไส้อ้าปากเตรียมจะกลืนกินเด็กน้อยที่อยู่ในแสงสีขาวเข้าไปแล้วหากเขาไม่ใจกล้าบ้าบิ่นเสี่ยงตายเข้าไปช่วยหลี่ชิงชิงออกมา

"แล้วเจ้าคือ..."

"นี่คือพี่ชายข้า หลี่ต้ง เป็นสามีของพี่สะใภ้"

หลี่จงกลัวว่าหลี่ต้งจะพูดอะไรไม่เข้าหูนักพรตตรงหน้าอีกจึงเป็นฝ่ายออกหน้าแทน

"เหตุใดท่านถึงบอกว่าศิษย์น้องข้าถูกปีศาจฆ่า ท่านเห็นกับตาหรือ แล้วจำได้หรือไม่ว่าเป็นปีศาจอะไร"

แม้น้ำเสียงเจ้าสำนักหยวนจีจะเรียบนิ่ง หากแต่ในใจนางกลับร้อนรนอยากหาความจริงเรื่องนี้ใจแทบขาด

"หากไม่เห็นเหตุใดจะกล้าพูด"

แววตาของหลี่ต้งไม่มีแววของคำโกหกอยู่เลย

"ได้โปรดบอกข้าเถิด ปีศาจที่สังหารศิษย์น้องข้าคือตนใด"

เจ้าสำนักหยวนจีรอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นกลางคัน

"ท่านอาจารย์! เหตุใดร่างกายของนางถึงได้มีปราณอัคคีพวยพุ่งออกมามากมายอีกแล้วเจ้าคะ พวกข้าจะต้านไม่ไหวกันแล้ว"

ยังไม่ทันที่หลี่ต้งจะได้บอกตัวตนปีศาจที่เขาเห็น เสียงศิษย์ที่เดินทางมาพร้อมหยวนจีรีบแทรกขึ้นเมื่อเห็นอาการที่แย่ลงของหลี่ชิงชิง

"แย่แล้ว ภายในกายนางมีปราณอัคคีอยู่จริง ร่างกายมนุษย์ธรรมดาคงต้านไม่ไหว หากรักษาไม่ทันนางอาจถูกธาตุไฟเข้าแทรกจนร่างแตกสลาย"

หยวนจีเห็นท่าไม่ดีรีบถ่ายทอดพลังเย็นเพื่อยับยั้งความร้อนในร่างกายให้หลี่ชิงชิง

"หากนี่คือเลือดเนื้อของหยวนชิง ข้าจะนำนางกลับสำนักเมฆาล่องลอยเพื่อรักษาตัวต่อ พวกท่านคงไม่ขัดข้อง"

"จะพาไปที่ใดก็เรื่องของท่าน เลือดเนื้อของปีศาจอย่างนางไปไกลเท่าไรได้ยิ่งดี"

"พี่ใหญ่!"

หลี่จงสังเกตเห็นสีหน้าของเจ้าสำนักหยวนจีที่ไม่สบอารมณ์ตอนที่หลี่ต้งพูดจาไม่ให้เกียรติพี่น้องของนางจึงรีบเตือนสติพี่ชาย แต่ดูเหมือนคนถูกเตือนจะไม่ใยดีสนใจท่าทีตอบสนองของเจ้าสำนักหยวนจีเลยสักนิด

"ท่านเจ้าสำนักอย่าฟังพี่ข้าเลย ตอนนี้เขาคงตกใจและเมาค้างจนสติเลอะเลือน หากที่สำนักศึกษาของท่านรักษาอาการของชิงเอ๋อร์ได้พวกข้ามิขัดข้องขอรับ เพียงแต่..."

หลี่จงไม่กล้าเอ่ยต่อเพราะไม่รู้ว่าสมควรขอหรือไม่

"หากพวกท่านต้องการพบนางให้ไปที่ตีนภูเขาเมฆาทางซีหนาน ส่วนนี่คือตราใช้ผ่านเข้าออกเขตอาคมชั้นแรก"

จี้หยกสลักคำว่า 'จี' ถูกยื่นให้หลี่จงเก็บไว้

"ขอบคุณเจ้าสำนักที่ยื่นมือช่วยเหลือ"

"นางเปรียบเสมือนหลานข้าเช่นกัน"

หลี่จงได้ยินเช่นนั้นก็เบาใจหลายส่วน ต่อไปเสี่ยวชิงของเขาจะไม่ต้องทรมานในคืนจันทร์เต็มดวงอีกแล้ว

"เช่นนั้นแล้วพวกข้าขอลา"

"ขอบคุณเจ้าสำนัก เดินทางปลอดภัย"

มีเพียงหลี่จงเท่านั้นที่มองหลี่ชิงชิงด้วยแววตาแห่งความห่วงใย จวบจวนคนของสำนักเมฆาล่องลอยพาตัวนางเหินกระบี่ขึ้นฟ้าไกลลับสุดสายตา

"ขอให้เจ้ามีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม พี่สะใภ้ เสี่ยวชิงของท่านได้พบศิษย์พี่ของท่านแล้ว โปรดคุ้มครองพวกนางด้วย"

นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่สกุลหลี่จะได้พบกับหลี่ชิงชิง สิ่งที่หลี่จงขอคงสมหวังในอีกไม่นาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel