บท
ตั้งค่า

4.ภาคอดีตรักตราตรึง 4

ดวงตากลมโตมองสิ่งนั้นไม่วางตา นางตกใจ ขัดเขิน ระคนอยากรู้อยากเห็น

“ชั่วช้า ทะ ท่านเป็นคนสัปดนโดยแท้”

“ฮ่าๆ ยามนี้เจ้าได้เห็นร่างกายของข้าหมดแล้ว ย่อมนับว่าเป็นภรรยาด้วย”

“ดะ เดี๋ยวก่อน ทั้งหมดนี้เป็นแผนของท่านหรอกหรือหมอยาเจ้าเล่ห์”

“ปละ เปล่า เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ข้าจะมัวล้อเล่นกับความตายได้อย่างไร” พอเขาเอ่ยจบจึงหลับตาพริ้ม แต่ในตอนนั้นอิ้งเยว่กระวนกระวายใจอย่างที่สุด

“เข็มเงินก็ปักเรียบร้อย เหตุใดยังต้องให้ข้าทนดูท่านเปลือยเปล่าอีกล่ะ”

“แม่นางน้อย การรักษายังไม่จบ ข้าอยากวานให้เจ้าช่วยสร้างความอบอุ่นให้ได้หรือไม่”

“ละ แล้วข้าต้องทำเยี่ยงไร” นางแมวถาม โดยหารู้ไม่ว่ากำลังถูกชายหนุ่มหลอกล่อให้ติดกับ

“ขอเพียงเจ้านอนอยู่ข้างกายข้า มอบความอุ่นซ่านจากเรือนกายสตรีและสัมผัสนุ่มนิ่ม จากนั้นอาการข้าก็จะฟื้นตัวโดยเร็ว”

“ท่านพูดจริงอย่างนั้นหรือ”

“เป็นจริงแน่แท้ หาได้มีการกล่าวเท็จอันใด”

อิ้งเยว่ถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนนอนลงข้างเขา และเป็นตอนนั้นที่นางรับรู้ได้ว่าตัวเองเกิดความต้องการบางอย่าง ซึ่งเขาคงมีแรงปรารถนาเช่นเดียวกัน

“ข้าอยากจูบเจ้าจะได้ไหม” ถงฉีร้องขอ

“ชายหญิงใกล้ชิดกันย่อมไม่สมควร ท่านเป็นคนบอกข้าเมื่อวันแรกที่เราพบหน้ากัน” อิ้งเยว่แย้ง

“แต่เจ้าเป็นภรรยาข้าแล้ว”

“ท่านหมอยา นั่นมันก็แค่การฝังเข็ม อย่าได้กล่าวอย่างคนไร้ยางอาย!”

“ถึงอย่างนั้นก็ตาม เกิดมาไม่เคยมีหญิงใดเห็นของลับข้า และเจ้าไม่เพียงแค่เห็น ยัง...มองมันราวกับว่าชื่นชมและอยากสัมผัส!”

เมื่อถูกทักท้วง อิ้งเยว่จึงหยิกที่สีข้างเขา หยิกแรงๆ เพราะรู้ว่าเขามีอาการชาไปทั้งร่างคงไม่รู้สึกเจ็บอันใด ทว่าถงฉีกลับร้องโอดโอยราวกับถูกคมมีดเฉือนร่าง

“ท่านหายดีแล้วอย่างนั้นหรือ เหตุใดจึงรู้สึกเจ็บปวด”

“นับว่าทุกอย่างกลับคืนมาได้สามส่วนแล้ว” เขากล่าวยอมรับ เพราะเมื่อเข็มแรกฝังเข้าไปในร่าง เลือดในกายก็กลับมาไหลเวียนเช่นปกติ

“เช่นนั้นข้าก็ควรไปเสียที” อิ้งเยว่รู้แล้วว่าตนกำลังเสียรู้ให้หมอยาเจ้าเล่ห์

“ได้ แต่ก่อนจากไป ข้าต้องการ...” เขาเอ่ยยังไม่ทันจบประโยคก็ขโมยจุมพิตนาง

“คนฉวยโอกาส!”

“ข้าจำยอมเป็นคนเช่นนั้น เพราะมันอาจเป็นโอกาสเดียวที่ข้าจะได้พบกับหญิงงามเช่นเจ้า”

อิ้งเยว่มองเข้าไปในดวงตาของถงฉี มองอย่างลึกซึ้ง สุดท้ายนางก็จูบเขากลับ จูบราวกับต้องการเป็นเจ้าของชายผู้นี้ กระทั่งถอนริมฝีปากออก นางจึงบอกเขาด้วยเสียงสั่นเครือ

“ข้าไม่ใช่สิ่งที่ท่านเห็น เรือนร่างนี้ล้วนหลอกลวง”

หมอยาหนุ่มยิ้ม และตอบนางกลับว่า “ข้ารู้ รู้ตั้งแต่เห็นว่าเจ้ามีหางโผล่ออกมาตอนที่คุยกับเด็กผู้ชายคนนั้น”

อิ้งเยว่ทำตาโต ทั้งตกใจอีกทั้งละอาย แต่นางยังกล่าวอย่างเล่นลิ้นว่า “เช่นนั้นข้าจะเป็นภรรยาของท่านได้เยี่ยงไร”

“โลกนี้มีความลับมากมาย และข้าเชื่อว่าสามารถปรุงยาทำให้ปีศาจเช่นเจ้ามีร่างกายเหมือนมนุษย์อย่างสมบูรณ์”

“ฮิๆ ถ้าหากเก่งกาจเช่นนั้น ข้าจักยอมเป็นภรรยาท่าน”

“ดี เช่นนั้นข้าจะท้าพนันกับเจ้า”

“ได้ อิ้งเยว่ยินดีรับคำท้า” เมื่อเอ่ยจบนางก็ดึงเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างของเขาออก

“ข้าคิดว่านางแมวสองหางมีวิธีรักษาท่านให้หายอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าการฝังเข็มพิเรนทร์พวกนี้”

“เจ้าเข้าใจถูกต้อง ผู้ที่ลงมาจากต้ากวนหมิงซานย่อมสามารถช่วยข้าขับพิษได้ เพียงแค่มอบสัมผัสอันอบอุ่นและจุมพิตหวานซึ้ง!”

จากนั้นทั้งคู่ก็กอดกันแน่น ต่างถ่ายทอดลมหายใจรินรดอีกฝ่าย

“กายสัมผัสกาย ใจผสานใจ”

อิ้งเยว่เอ่ยแล้วขยับขึ้นไปนั่งบนตัวของถงฉี ลงมือนวดเนื้อตัวชายหนุ่มพร้อมสร้างความรัญจวนใจให้แก่เขาด้วยการเลีย!

ปลายลิ้นสีชมพูเล็กๆ ตวัดไล้เลียตามใบหน้า ซอกคอ และติ่งหู เมื่อเขาเคลิ้มจัดนางก็จูบปาก พร้อมส่งลิ้นเข้าไปตวัดรัดลิ้นอุ่นร้อนของถงฉี

กระทั่งอุณหภูมิในร่างกายเขาค่อยๆ กลับมาสูงขึ้น ถงฉีจึงเอื้อมมือมาสัมผัสเรือนร่างของอิ้งเยว่

“ท่านสิเน่หาต่อเรือนร่างนี้เยี่ยงนั้นหรือ”

ชายหนุ่มไม่รู้จะตอบอย่างไร

“ข้ามิอาจโกหกเจ้า บุรุษย่อมชมชอบสตรีงาม”

เมื่อได้ยินดังนั้นนางแมวจึงหยุดการกระทำของตน ก่อนคืนร่างเดิม

“ข้าก็เป็นเช่นนี้ นางแมวสองหาง เป็นปีศาจร้ายที่ใครๆ ควรเกรงกลัว”

“แต่ยกเว้นผู้ชายแซ่ไป๋ที่ขาเป๋คนนี้ และอย่างที่ลั่นวาจาไว้ วันหนึ่งข้าจะทำให้เจ้ามีร่างมนุษย์ที่แท้จริง และต้องเป็นมารดาของบุตรชายหญิงของข้าด้วย”

“ฮิๆ แต่ข้าคิดว่ามันคงไม่ใช่ชาตินี้ ดูแล้วท่านคงยังมีความสามารถและบารมีไม่พอ” นางแมวเอ่ยจบจึงใช้อุ้งเท้านุ่มนิ่มตบลงบนแก้มเขาไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะกรีดร้องเสียงหลงเมื่อมีบ่วงเชือกรัดเข้าที่คอ แล้วดึงตัวให้ออกห่างจากถงฉี

“ฟ้าดินไฉนยังไม่ลงโทษชายผู้นี้ ดูเอาเถิดมันเลวเพียงใด ถึงขั้นสมสู่กับนางแมวปีศาจ!!”

ถงฉีพยายามลุกพรวดขึ้น แต่ไหล่สองข้างของเขาถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กดเอาไว้

“ตระกูลของเจ้าสิ้นแล้ว ตอนนี้ตำหนักไป๋ซานร้างผู้คน สำนักหมอยาก็ถูกเผาจนสิ้น”

“ข้าไม่ใช่คนตระกูลไป๋โดยกำเนิด ไยต้องมาตามรังควานอีก”

“ฮ่าๆ นายข้าสั่งให้ขุดรากถอนโคน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าจึงไม่มีสิทธิ์อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป” โจรร้ายประกาศชัดเจน

“ตระกูลไป๋ไม่เคยทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และหมอทุกคนบนผืนแผ่นดินนี้ต่างทำหน้าที่รักษาคนป่วย เหตุใดจึงคิดกระทำการชั่วช้าต่อพวกเรา”

“ฮ่าๆ เพราะมันเป็นเสี้ยนหนามใหญ่ที่ทำให้ชาวบ้านแข็งข้อกับนายข้า ดังนั้นพวกเจ้าไม่สมควรมีชีวิตอยู่” ชายคนดังกล่าวเอ่ยจบก็เตรียมลงดาบตัดคอถงฉี เป็นตอนนั้นที่อิ้งเยว่พยายามดิ้นรนอย่างแรง กระทั่งนางสามารถกัดเชือกที่เป็นบ่วงรัดคอตัวเองขาด!

นางแมวกระโดดไปรอบทิศ ทั้งตะปบและใช้กรงเล็บข่วนเหล่านักบู๊จนได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน

“นางแมวผี คิดหรือว่าจะเอาชนะพวกข้าได้”

อิ้งเยว่ร้องเสียงดัง และเตรียมเข้าไปจัดการพวกที่เหลือ แต่นางประมาทเกินไป ชายที่เป็นหัวหน้ามีดาบที่ลงอาคม และเขาใช้มันฟันเข้ากลางหลังนางสุดแรง

เสียงร้องโหยหวนแผดก้อง สองพวงหางปุกปุยของอื้งเยว่ถูกคว้าเอาไว้

คนใจโฉดเตรียมใช้ดาบเล่มเดียวกันตัดหางของนาง แต่ถงฉีพุ่งเข้ามายื้อแย่งดาบในมือคนร่างสูงใหญ่ เขาออกแรงสุดกำลังจนทำให้อิ้งเยว่หลุดรอด แต่กลับเป็นเขาที่โชคร้ายถูกชายคนเดียวกันซัดฝ่ามือเข้าใส่กลางหน้าอกอย่างแรง

ถงฉีกระอักเลือดและเซเสียหลักลงไปนั่งบนพื้น ไม่เพียงแค่นั้น เขายังถูกคนร้ายอีกคนปราดเข้ามาใช้กระบี่แหลมและคมฟันเข้าที่ร่างจนได้แผลใหญ่

นางแมวกระโจนหลบอาวุธของชายอีกสองคน และหวังเข้าไปช่วยถงฉีแต่ก็ช้าเกินไป ถงฉีทรุดลงไปนอนกับพื้นอย่างไร้ทางรับมือผู้ใดอีก อิ้งเยว่จึงอาละวาดหนัก คราวนี้แรงมีเท่าไรนางก็วาดลวดลายไม่ยั้ง กระนั้นยังนึกแค้นใจตัวเองที่ฝีมืออ่อนด้อยด้วยไม่ยอมเชื่อฟังบิดา

นางแมวจัดการคนพวกนั้นกระทั่งพวกมันล่าถอยออกไปยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ เสียงจากด้านหลังก็ตะโกนโหวกเหวกว่า

“พวกตระกูลไป๋กลับมาแล้ว มาพร้อมทหารจากเมืองหลวง หนีเร็ว พวกเรา...หนีเอาตัวรอดก่อน”

อิ้งเยว่เห็นว่าพวกมันจะหนีไป นางหวังจัดการคนที่ทำร้ายถงฉีให้สิ้นชีพ ทว่าชายหนุ่มรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายร้องเรียกนางเอาไว้เสียก่อน

“นางแมวโง่ เจ้าจงใจทิ้งสามีให้หนาวตายเพียงลำพังหรือไร”

นางแมวดึงสติตนกลับแล้วพุ่งเข้าไปหาถงฉี จึงเห็นว่าเลือดไหลท่วมร่างเขา

“อยากให้ข้าช่วยทำให้ร่างกายท่านอุ่นร้อนอย่างเช่นเมื่อครู่ใช่หรือไม่”

ชายหนุ่มยิ้มให้อิ้งเยว่ แต่มันเป็นรอยยิ้มซีดเซียว

“เกรงว่าจะสายเกินกาลแล้ว นางแมวน้อย...”

“ฮึ ข้าคืออิ้งเยว่ เป็นถึงธิดาของเผ่าจิ่วเซิงหัว ครอบครองว่านเก้าชีวิต และท่านก็เป็นหมอยา ไฉนต้องหวั่นกลัวว่าจะรักษาบาดแผลแค่นี้ไม่ได้”

“เจ้ามันโง่เขลาไม่เปลี่ยน” เขากล่าวและถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนถามนางแมวว่า “ตอนนี้เป็นยามใดอิ้งเยว่ ทำไมท้องฟ้าจึงมืดจนข้ามองไม่เห็นเจ้า” เขาว่าและยื่นมือสะเปะสะปะกระทั่งคว้าร่างแมวไปกอดไว้ได้

“กอดเจ้าอยู่เช่นนี้ เหตุใดถึงยังเหน็บหนาวไม่เปลี่ยน...” ถงฉีกล่าวจบก็นิ่งค้างไป

อิ้งเยว่พยายามกลั้นน้ำตาและมองไปยังภูเขาสูงที่อยู่ไม่ห่างจากจุดนี้ มองแล้วจึงกรีดร้องดังโหยหวน

“ท่านจะตายเช่นนี้ไม่ได้ถงฉี จงฟื้น ฟื้นขึ้น และรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ข้า”

อิ้งเยว่เอ่ยอย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา กระทั่งสายลมวูบหนึ่งผ่านร่าง นั่นทำให้นางรับรู้ว่า โลกนี้ไม่มีบุรุษหมอยาที่ชื่อถงฉีอีกต่อไป

“ข้าจะรอพบท่าน...ไม่ว่านานแค่ไหนข้าก็จะรอ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel