บทที่ 5
“มื้อนี้อาจจะเลี้ยงขอบคุณ แต่มื้อหน้าและมื้อต่อๆ ไป อาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ”
“คงไม่มีมื้อหน้าหรอก”
“ของอย่างนี้ต้องดูกันต่อไป หกโมงเย็นแล้ว ได้เวลาเลิกงานแล้วจ้ะน้ำค้างคนสวย กลับไปได้แล้วเดี๋ยวพ่อเทพบุตรกรีกจะคอยนาน” เพื่อนสาวรีบดันร่างของหยาดน้ำค้างออกไปนอกเคาน์เตอร์ ไม่วายที่จะหยิบกระเป๋าสะพายให้ด้วย เหมันต์ก้าวลงจากรถเมื่อเห็นหยาดน้ำค้างออกมาจากประตูสปอร์ตคลับ เป็นคนเปิดประตูหลังรอให้หญิงสาวอย่างเป็นสุภาพบุรุษ หยาดน้ำค้างเอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปในรถ
ห้องอาหารที่เหมันต์พาหญิงสาวมารับประทานอาหารในครั้งนี้ เป็นห้องอาหารที่อยู่ในโรงแรมหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศสวยงาม มองเห็นแม่น้ำที่มีเรือน้อยใหญ่ลอยลำอยู่
“เชิญครับ” เหมันต์ทำหน้าที่สุภาพบุรุษอีกครั้ง เลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่ง สร้างความประทับใจให้หญิงสาวเต็มที่ แต่มันไม่หมดเพียงเท่านี้ หลังจากที่เหมันต์นั่งลงอาหารถูกทยอยมาวางที่โต๊ะนับสิบชนิด ราวกับว่าอาหารเหล่านี้ถูกสั่งจองไว้ก่อนหน้า พอเขามาทุกอย่างสามารถเสิร์ฟได้ทันที
หยาดน้ำค้างอดประหลาดใจไม่ได้ ห้องอาหารแห่งนี้ขึ้นชื่อในความอร่อย แต่เหตุใดไม่มีลูกค้ามาใช้บริการเลย ต่างกับที่เธอเคยได้ยินมาว่า ห้องอาหารไทยที่นี่จะมีบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง ดารา นักร้องหรือแม่แต่ดาราจากต่างประเทศจะต้องแวะเวียนมา ทว่าวันนี้มีเขาและเธอเท่านั้นที่นั่งรับประทานอาหาร
“น้ำค้างเคยได้ยินมาว่า ห้องอาหารที่นี่อร่อยและมีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการเนืองแน่น แต่ทำไมวันนี้มันไม่เหมือนกับที่น้ำค้างเคยได้ยินมาเลย” หญิงสาวอดสงสัยไม่ได้ เหมันต์ยิ้มก่อนจะตอบ
“ผมเหมาที่นี่ครับ เพราะต้องการทานอาหารกับน้ำค้างแค่สองคนครับ” หยาดน้ำค้างถึงกับทำช้อนหลุดมือ เหมาห้องอาหารแห่งนี้หรือ เขาเหมาห้องอาหารเพราะอยากรับประทานอาหารกับเธอเพียงสองคน หัวใจของสาวน้อยเต้นจับจังหวะไม่ได้ทันที
“เหมาเหรอคะ” เธอทวนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่ครับ เหมาตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงสองทุ่ม ไม่กี่แสนเองครับ ผมคิดว่ามันคุ้มหากได้ทานอาหารกับคุณเพียงสองคน” มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก แค่เสียเงินไม่กี่แสนแต่เขามั่นใจว่าวันนี้ได้หัวใจเธอมาเกือบครึ่ง
“ทำไมคุณเหมันต์ต้องทำแบบนี้ด้วยคะ หรือว่าทำทุกครั้งที่พาผู้หญิงมารับประทานอาหาร” หญิงสาวไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนี้เป็นครั้งแรก อาจจะหลายครั้งแล้วก็ได้
“ผมจะทำแบบนี้เฉพาะผู้หญิงที่ผมคิดว่าใช่เท่านั้นครับ” คำตอบของเขานั้น สร้างความปั่นป่วนในจิตใจของหยาดน้ำค้างยิ่งนัก ผู้หญิงที่ใช่อย่างนั้นหรือ หมายความว่ายังไง ใจสาวเจ้าเต้นแรงอีกครั้งทั้งๆ ที่เพิ่งสงบได้ไม่ถึงสามสิบวินาที
“” หยาดน้ำค้างไม่สามารถพูดอะไรได้ นอกจากนั่งก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารต่อไป ไม่เงยหน้ามองชายหนุ่มที่หมั่นตักอาหารเลิศรสใส่จานของเธอเลย
“อาหารอร่อยมากหรือครับ ถึงได้เอาแต่นั่งก้มหน้าทาน ไม่ยอมเงยหน้ามองผมเลย ทั้งๆ ที่ผมอยากจะเห็นหน้าคุณทุกนาทีที่ทานอาหาร” อาหารที่เธอกำลังกลืนลงไปในลำคอนั้น ติดอยู่ที่กลางหลอดลมทันที ทำให้หญิงสาวเกิดอากาศลำลัก ต้องรีบดื่มน้ำทันที
“อาหารมันอร่อยน่ะค่ะ” เธอแก้ตัว
“มีคนเค้าเคยบอกผมว่า อาหารจะอร่อยหรือไม่อร่อย ขึ้นอยู่กับว่าตอนนี้เรากำลังนั่งทานอาหารอยู่กับใคร บางครั้งอาหารบนโต๊ะอาจจะไม่ได้เรื่อง แต่เมื่อมองใบหน้าของคนที่อยู่ร่วมโต๊ะ อาหารทุกอย่างจะอร่อยทันควัน ผมเคยค้านในประโยคที่ได้ยิน ไม่ว่าจะทานอยู่กับใครอาหารบนโต๊ะก็อร่อยเสมอ แต่พอมาวันนี้ผมถึงเข้าใจ อาหารมื้อนี้เลิศรสมากที่สุดเท่าที่ผมเคยทานมา เพราะว่ามีน้ำค้างร่วมทานอาหารกับผมด้วย” การขายขนมจีบของเขานั้นทำให้หญิงสาวถึงกับอึ้งทึ่ง ไม่ทันได้ตั้งรับและเตรียมใจ สมแล้วที่เป็นคาสโนว่าตัวยง หยาดน้ำค้างถึงกับทำอะไรไม่ถูก ยอมรับว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายจีบ แต่เป็นครั้งแรกที่ทำให้หัวใจของสาวน้อยสั่นไหว กระโจนลงไปในบ่วงรักทีละนิด
“น้ำค้างไม่คู่ควรกับคุณเหมันต์หรอกค่ะ” เธอบอกจากใจจริง เนื่องจากทั้งฐานะทางสังคม และทรัพย์สิน การศึกษา ไม่มีส่วนไหนที่เทียบเทียมเขาได้เลยสักข้อ และเธอเองก็ไม่อยากเจ็บช้ำในเรื่องนี้ด้วย
“อะไรที่น้ำค้างใช้ตัดสินล่ะครับว่าน้ำค้างคู่ควรกับผมหรือไม่ การศึกษา ฐานะทั้งการเงินและทางสังคม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเครื่องตัดสินนะครับ หัวใจต่างหากที่เป็นเครื่องตัดสินทุกอย่าง เหมือนตอนนี้หัวใจของผมมันบอกว่าน้ำค้างคือคนที่ใช่” เหมันต์พูดเองอยากจะอาเจียนเอง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาจีบผู้หญิงแบบนี้ จริงอยู่เขาพอใจในตัวของหยาดน้ำค้างในระดับหนึ่ง แต่พอรู้ว่าเธอคือเจ้าของที่ดินที่เขาต้องการ และคำเจ็บที่ฝากมาถึงเขา ความพอใจของเขาเหือดหายลงสิ้น ต้องทำให้เธอรู้ว่าอย่าได้มาผยองกับคนอย่างเขา
“เอ่อ.” หยาดน้ำค้างพูดไม่ออก
“น้ำค้างยังไม่ต้องให้คำตอบกับผมตอนนี้ก็ได้ครับ ผมจะทำให้น้ำค้างเห็นว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นล้วนออกมาจากใจทั้งสิ้น ถ้าคุณให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเอง” เจอคำนี้เข้าไปหยาดน้ำค้างจะปฏิเสธต่อไปก็คงไม่ได้ เธอควรจะปิดกั้นหัวใจของตัวเองเหมือนที่ผ่านมา หรือว่าเปิดรับเขาเข้ามาในหัวใจดี นั่นเป็นสิ่งที่หยาดน้ำค้างกำลังขัดแย้งในใจ
การรับประทานอาหารเสร็จสิ้นในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากนั้นชายหนุ่มได้พาเธอไปส่งที่บ้าน และอ้อยอิ่งคุยกันที่หน้าบ้านนานนับสิบนาที ก่อนที่ชายหนุ่มจะเห็นว่าวันนี้เขารุกเธอมามากพอแล้ว จึงขอตัวกลับบ้าน แต่ไม่วายทิ้งคำพูดให้สาวน้อยใจเต้นรัว
“พรุ่งนี้ผมจะมารับไปทำงานนะครับ รอผมนะครับ” หยาดน้ำค้างมองรถยนต์ที่เคลื่อนตัวออกไป หัวใจของเธอวันนี้ช่างกระไรนัก เต้นเร็วผิดจังหวะทั้งวัน เมื่อเช้านี้หัวใจของเธอแทบจะกระดอนออกมาเมื่อเห็นหน้าเขาครั้งแรก พอตกเย็นมันทำท่าจะเป็นเหมือนเมื่อเช้าอีกครั้ง แต่ดูจะหนักกว่า เต้นถี่รัวเร็วสั่นไปหมด วาจาที่จีบเธอนั้นยิ่งแล้วใหญ่ ทำให้กลอนประตูหัวใจที่ปิดตาย เปิดแง้มรับเหมันต์เข้ามาในหัวใจอย่างไม่รู้ตัว
.....................