ตอนที่ 2 เริ่มงานวันแรก
เริ่มงานวันแรก
"สวัสดีค่ะ พี่พัด ข้าวขอโทษน่ะค่ะ ที่วันแรกก็มาสายเลย พอดีรถติดนิดหน่อยค่ะ" ต้นข้าวรีบขอโทษขอโพยรุ่นพี่หนุ่มทันที เมื่อมาถึงตามที่นัดช้ากว่าที่นัดหมายไว้
"นี่คีย์การ์ด ไปตามหมายเลขได้เลยน่ะ ใช้เข้าไปได้เลย" พัสกรเอ่ยบอกพร้อมกับยื่นคีย์การ์ดห้องของดาราหนุ่มให้
"ให้ข้าวเข้าไปเลย เจ้าของห้องเขาจะไม่ว่าเอาเหรอค่ะ และพี่ไม่ไปส่งข้าวเหรอ" ต้นข้าวเอ่ยถามอย่างงุนงง เมื่อชายหนุ่มยื่นคีย์การ์ดห้องพักดาราหนุ่มให้
ก่อนที่เธอจะรับงานนี้ เธอก็พอทราบมาแล้ว ว่าดาราหนุ่มนั้นเป็นใคร เพราะพัสกรได้เล่าทุกอย่างให้ฟังแล้วพอคราวๆ
"พี่ติดงานน่ะ พี่ไปก่อนน่ะ โชคดีน่ะน้องสาว" พัสกรเอ่ยไม่ทันจบประโยคก็รีบหมุนตัวกลับออกไปทันที
"พะ พี่พัด! เฮ่อ...นี่เราต้องอยู่ที่นี่กับไอ้ดาราเรื่องมากนั้นจริงๆเหรอ?" หญิงเอ่ยเพียงลำพัง พร้อมกับถอนหายใจยาว "สู้สิข้าว แกทำได้ สู้โว้ยข้าว สู้โว้ย"
หญิงสาวเดินลาวกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอขึ้นไปยังชั้นเป้าหมายด้วยลิฟท์ และมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของดาราหนุ่มตามหมาเลขที่คีย์การ์ดระบุไว้
หญิงสาวกดออดอยู่นานสองก็ไร้วี่แววการตอบรับจากคนด้านใน เธอจึงถือวิสาสะสแกนคีย์การ์ดเข้าไปข้างในภายในห้องทันที
"สวัสดีค่ะ...มีคนอยู่ไหมค่ะ" เมื่อไม่มีการตอบรับใดๆ ต้นข้าวจึงกวาดสายตาดูรอบๆ บริเวรภายในห้อง
"นี่พึ่งรู้ว่าดารา จำเป็นต้องอยู่ห้องใหญ่ขนาดนี้เชียวเรอะ" ต้นข้าวพูดออกมาคนเดียว
"ใหญ่แล้วมันหนักส่วนไหนของเธอไม่ทราบ" เสียงเอ่ยออกมาจากทางด้านหลังของเธอ
"นี่...คะ คุณ!...ว้ายยยย บักผีบ้า" ต้นข้าวร้องอุทานออกมาเป็นภาษถิ่นเธอทันที เมื่อหันหลังไปเจอชายร่างสูงนุ่งแค่ผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว ที่พันรอบเอวอยู่หมิ่นเหม
"แล้วนี้เข้าห้องคนอื่นก่อนได้รับอนุญาตได้ยังไงยัยอ้วน" ปุยเมฆต่อว่าเธอทันที
"ว่าใครอ้วนห้ะ...แบบนี้เขาเรียกว่าเต็มไม้เต็มมือย่ะ"
"เถียงคำไม่ตกฟาก แล้วพี่พัดล่ะ" ดาราหนุ่มเอ่ยถามทันที
"พี่พัดให้นี่ฉันมา" ต้นข้าวชูคีย์การ์ดห้องให้แก่คนร่างสูงดู "แล้วบอกว่าติดธุระ ให้ฉันเข้ามาได้เลย"
"แล้วเธอก็ทำตามที่เขาบอกเนี้ยน่ะ ไว้ใจคนง่ายจังน่ะ โดยการใช้คีย์การ์ดเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ ถ้าเกิดเขาบอกให้เธอไปทำอะไรที่ไม่ดี เธอก็จะยอมทำงั้นสิ" ปุยเมฆเอ่ยขึ้นเชิงน้ำเสียงประชดประชัน
"ก็ฉันกดออดตั้งนาน ไม่มีใครเปิด ฉันคิดว่า นะ คุณไม่อยู่"
ปุยเมฆได้แต่ส่ายหน้า แล้วเดินไปยังโต๊ะที่เอกสารสูงเท่าภูเขา แล้วหยิบแฟ้มประวัติของต้นข้าว ที่พัสกร นำเข้ามาให้ก่อนจะออกไปรอรับต้นข้าว
"ณัฐนรี บุญสอน อายุ 23 ปี ชื่อเล่น ต้นข้าว พึ่งจบใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน หึ" ชายหนุ่มเค้นหัวเราะออกมาทันที "ประวัติแค่เนี้ย...และพี่พัดจะส่งมาเพื่อ? เห้อ เป็นคนอีสานเหรอ"
"คนอีสานแล้วมันจะทำไมค่ะ อย่าลืมสิ ว่าตัวเองก็มาจากอีสานเหมือนกันน่ะ แมนบ่ค่ะ อ้ายเมฆขา" ต้นจ้าวโพล้งขึ้นมาทันที
"นี่เธอ!" เสียงเข้มตวัดสายตามองจ้องอย่างคาดโทษ
"ค่ะ" หญิงสาวจ้องตาอย่างไม่ยอมแพ้
"ยัยข้าวเน่า"
"ฉันชื่อต้นข้าวค่ะ" ต้นข้าวบอกย้ำอีกที
"เออ...ฉันจะเรียกอะไร มันก็เรื่องของฉัน เพราะเธอคือลูกจ้าง เอากระเป๋าเข้าไปเก็บได้แล้ว ห้องเธออยู่อีกฝั่งหนึ่ง ทางโน้น" เสียงเข้มชี้นิ้วบอกทันที
"ค่าาาา" ต้นข้าวกำลังจะสาวเท้าเดิน
"แล้วอย่าเข้ามายุ่งวุ่นวายกับพื้นที่ส่วนตัวของฉันเป็นอันขาด" เสียงเข้มเอ่ยสั่งอีกครั้ง
"รับทราบค่า อ้ายเมฆ"
"นี่!! อ้อ...ลืมบอกอีกอย่าง อย่าให้ใครรู้ว่าตัวตนจริงๆของฉันคือใคร และในเมื่อเธอมาเป็นผู้ช่วยฉันแล้ว ก็มาเป็นแม่บ้านด้วยเลย อันนี้ฉันจ้างพิเศษ ไม่เกี่ยวกับเงินที่พี่พัดจ่าย"
"ค่าาา"
"ฉันจะคอยดูว่าเธอจะทำได้สักกี่วันกันเชียว ยัยข้าวเน่า"
"ชิ!" ต้นข้าวเดินไปตามทางที่ปุยเมฆชี้บอก พร้อมกลับกรอกตามองบนเล็กน้อย
อีกด้าน
ชีโน่ ชิษณุพงศ์ เพื่อนที่เข้าวงการมาพร้อมกับปุยเมฆ และยังเป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัยอีกด้วย ทั้งคู่เข้าวงการมาพร้อมกัน และมีผู้จัดการเป็นคนเดียวกัน นั้นก็คือ พัสกร แต่ทั้งคู่จะไม่รับงานคู่กัน แต่จะมีนัดสังสรรค์กันตลอด ถ้าหากเวลาว่างพร้อมกัน
"พี่พัด...เย็นนี้ผมไม่มีงานอื่นที่ไหนต่อแล้วใช่ไหมครับพี่" ชีโน่เอ่ยถามผู้จัดการหนุ่ม
"ไม่มี...งานนี้สุดท้ายของวันแล้ว ถามทำไม จะไปหาไอ้เมฆเหรอ" พัสกรตอบออกไป และถามต่ออีกที เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มถามทำไม
"ครับพี่...ช่วงนี้เวลาว่างไม่ค่อยตรงกับมันเลย" ชีโน่เอ่ยตอบ
"อย่าพากันดื่มมากจนลุกไม่ไหวเชียวล่ะ...ไม่งั้นพวกนาย จะได้อดอีกเป็นปีๆแน่" พัสกรจ้องมองพร้อมกับออกคำสั่งทันที
"คร้าป...พี่พัดสุดหล่อ" ชีโน่เอ่ยเสียงอ้อนพร้อมกับสวมกอดพัสกร อย่างเย้าแหย่
"ทลึ่งใหญ่แล้วไอ้นี้ กูยังอยากมีแม่ของลูกเป็นผู้หญิงอยู่น่ะ"
"เเกล้งนิดแกล้งหน่อยก็ไม่ได้เลยน่ะ พี่ก็รีบๆมีสิครับ อายุก็เข้าเลขสามแล้วน่ะพี่" ชีโน่เอ่ยขึ้น
"มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจไง จะให้พี่ไปเอาใครก็ได้มาเป็นแม่ของลูกงั้นเหรอ" พัสกรให้เหตุผลแก่ดาราหนุ่มรุ่นน้อง
"ผมว่าพี่เรื่องมาก..."
"พี่ล่ะไม่เข้าใจเล้ยจริงๆ พวกนายสองคนเป็นเพื่อนกันมาได้ไง จับฉลากได้มาเหรอ คนหนึ่งก็พูดมากจนไม่รู้จักหยุด แต่อีกคนเงียบขรึมยังกับเข้าสมาธิตลอดเวลา" พัสกรเเซวขึ้นมา
"พี่นี้ไม่รู้ไม่อ่ะไรเลยน่ะ ผมอยู่กับไอ้เมฆทีไรน่ะพี่ ผมนี้เป็นผู้ฟังน่ะครับจะบอกให้"
"เหรอ!...พี่ก็อยากเป็นผู้ฟังน่ะ" เพราะเมื่อไหร่ที่อยู่กับปุยเมฆ เหมือนกับว่าพูดคนเดียวตลอด
"อีกหน่อยพี่คงได้เป็นผู้ฟัง...ถ้ามันมีเมียน่ะ เมียมันก็คงจะพูดเหมือนที่ผมพูดนี่แหล่ะพี่"
"หยุดคิดเรื่องจะมีเมียกันเลยน่ะ ตอนนี้พวกนายอายุพึ่งเท่าไหร่กันเอง อีกอย่างงานก็กำลังรุ่ง คิดกันให้ดีดีด้วย ก่อนจะพากันทำอะไร" พัสกรเอ่ยห้ามทันที
"ผมก็แค่เปรียบเปรย พี่นี่ก็คิดเป็นจริงเป็นจังไปได้"
"พี่ห่วงอนาคตของพวกนายน่ะ ไอ้น้อง!"
"ครับ...ผมไปก่อนน่ะพี่ ไว้เจอกันพรุ่งนี้" ชีโน่เอ่ยลา แล้วรีบเดินจากไปทันที