ลวงใจมาเฟียคาสิโน บทที่4...
มาเรียหมดความสนใจคนในบ้าน นางถือตะกร้าเดินเลาะไปด้านข้าง เกือบสิบนาทีถึงได้มาโผล่ด้านข้างกระท่อมริมหน้าผาได้ “ถือว่าเป็นคนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ดีนะ น่าสงสารพิกล”
กองขยะกองใหญ่ด้านข้าง กับลานกว้างๆ ที่ไม่มีใบไม้หลงเหลือ นับว่าเชลยคนนี้ไม่ได้น่าเบื่อเหมือนรายก่อนๆ หล่อนขจัดความกลัวได้อย่างดีทีเดียว
นิยาดาโผล่หน้าออกมามองหลังจากได้ยินการเคลื่อนไหว เธอถอนใจดังเฮือก เมื่อการเคลื่อนไหวนั่นเกิดจากคนเหมือนกันไม่ใช่สัตว์ร้ายเหมือนที่กลัว หญิงสูงอายุท่าทางกระด้าง แววตาเรียบเฉยสมกับการอยู่ท่ามกลางหมู่คนไม่ดี
“ฉันเอาอาหารมาให้” มาเรียส่งเสียงบอก
นิยาดาเลยยอมเดินออกมาจากด้านใน เธอมองตะกร้าอาหารในมือคนแปลกหน้าด้วยแววตานิ่งๆ
“ไม่ได้คิดจะฆ่านิใช่ไหมคะ”
มาเรียสูดลมหายใจลึกๆ “นั่นมันเรื่องของเธอกับเจ้านายฉัน”
“ขอบคุณค่ะ” นิยาดาพึมพำ ยื่นมือออกไปรับตะกร้านั่นมาถือไว้
“กินกันตายนะ ไม่ได้ดีอะไรหรอก” สายตาของหญิงตรงหน้ามองของกินที่บรรจุอยู่ในตะกร้าและไม่ปริปากพูดอะไรเลย
“แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ นิอยากรู้ เขาจะขังนิไว้แบบนี้อีกนานแค่ไหนคะ”
“ฉันไม่รู้หรอก ไม่ใช่หน้าที่ฉัน”
นิยาดาเม้มปาก มิตรภาพในฐานะเพื่อนมนุษย์ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกปลอดโปร่ง คนอันตรายนั่นยังคุกคามความรู้สึกของเธออยู่ตลอด ผู้ชายคนนั้นฉลาดเหลือเชื่อ เขาบีบบังคับเธอแบบอ้อมๆ โดยไม่แตะต้องเนื้อตัวของเธอเลย
“ที่นี่ที่ไหนคะ” ความอยากรู้ทำให้นิยาดาอดถามไม่ได้
มาเรียมองหญิงตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนลง ท่าทางของเธอไม่ใช่ผู้ร้ายปากแข็งที่สมควรกับบทลงโทษสุดหินเช่นนี้ “เดอร์ลาคัวล์ คฤหาสน์เดอร์ลาคัวล์”
นิยาดาขมวดคิ้ว ชื่อเสียงของตระกูลนี้เธอพอได้ยินมาบ้าง ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะเข้ามาพัวพันกับกลุ่มคนที่ทรงอิทธิพลขนาดนี้ได้ เธอแค่พลัดถิ่นมาหากินเท่านั้นเองนะ
“ทำไมซวยอย่างนี้นะนิ” เธอบ่นพึมพำ
“ทำอะไรมาล่ะ ขโมยของหรือว่าฆ่าคนตาย” มาเรียบตะล่อมถาม
“เปล่านะคะ นิแค่เห็น เอ...หรือว่าไม่เห็นนะ นินึกไม่ออกค่ะ ทุกอย่างมันคลุมเครือบอกไม่ถูก”
“ยังไงกันล่ะ ตกลงทำหรือไม่ได้ทำ”
“ไม่ได้ทำค่ะ แค่บังเอิญโผล่เข้าไปในเหตุการณ์ที่ตัวเองไม่สมควรเสนอหน้าเข้าไปค่ะ” นิยาดาพยายามอธิบาย ภาพที่ผุดขึ้นในหัวเธอยังไม่ปะติดปะต่อเท่าไรนัก
“เธอเห็นอะไรกันแน่”
“ไม่แน่ใจค่ะ แต่น่าจะมีคนตาย” คนคนนั้นอาจจะสำคัญมาก เธอกลายเป็นพยานรู้เห็นเลยถูกควบคุมเอาไว้
“นิสัยชอบสอดรู้ล่ะสิ”
“ไม่เลยค่ะ นิไม่ใช่คนแบบนั้นเลย”
“เอาเถอะ ฉันไม่ใช่คนที่ตัดสินอะไรได้ คงต้องรอให้คนคนนั้นเจรจากับเธอเอง ฉันไปล่ะมีงานรอให้ทำอีกเยอะ” มาเรียตัดบท พร้อมจะเดินจากไป แต่ก็ไม่วายหันมากำราบหญิงแปลกหน้า “อยู่แต่ในกระท่อมล่ะ กลางคืนหมาป่ามันชุม ฉันกลัวว่าเธอจะไม่มีชีวิตรอดกลับไป”
นิยาดาย่นคอหด สีหน้าสยอง ถึงไม่เคยเห็นสัตว์พวกนั้นตัวเป็นๆ แต่เสียงคำรามและดวงตาสีแดงสดที่เฝ้าอยู่ด้านนอก ก็ทำให้เธอขยาดไม่น้อย
“เจ้านายของป้าเป็นมาเฟียเหรอคะ” นิยาดาตะโกนถาม
มาเรียโบกมือตะโกนตอบ “เขาเปิดบ่อนกาสิโน เธอคิดว่าเขาเป็นคนดีไหมล่ะ”
บทที่5.การเอาชีวิตรอดท่ามกลางคนใจโฉด
กินแต่หัวมันเผาเข้าวันที่สอง อาหารที่หญิงแปลกหน้าไม่รู้จักชื่อนำมาให้ช่วยให้ความเครียดของนิยาดาลดลง ขนมปังแข็งๆ นั่นดีกว่าหัวมันเผาเป็นไหนๆ ถึงมันจะแข็งไปสักหน่อยแต่ก็อร่อยไม่ใช่เล่น เนื้อสัตว์ในกล่องพลาสติก นิยาดาอุ่นและเก็บไว้สำหรับกินในมื้อต่อไป มีน้ำขวดใหญ่ที่สะอาดจนไม่กล้ากินทีเดียว
เธอไม่เคยตกอับขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยต้องนอนหวาดผวา ลำเค็ญสุดๆ เท่าที่จำได้คือการนอนเบียดๆ กันในห้องแคบๆ แต่ก็ยังมีอาหารยาไส้ และรู้จักคนเหล่านั้นดี เธอโตมาในบ้านเด็กกำพร้า ถูกอัปเปหิออกจากที่นั่นตอนที่มีอายุครบสิบแปดปีเต็ม ขนาดพยายามยื้อไว้ที่สุด เพราะไม่รู้จะไปไหน ท้ายที่สุดเธอก็ต้องจำใจย้ายตัวเองออกมา ไม่อย่างนั้นเด็กที่เล็กกว่าเธอก็จะไม่มีที่นอน