บทที่2เหยื่อที่น่าขย้ำ
คืนนั้นในห้องส่วนพระองค์ของเจ้าชาย ไคลน์เหวี่ยงร่างเซย์ลงบนเตียงขนาดใหญ่
เสียงผ้าเสื้อผ้าถูกกระชากจนขาดสะบั้นดังลั่นไปทั่วห้อง
เรือนร่างของทาสโอเมก้าคนใหม่ที่ขาวเนียนละเอียดจนสะท้อนกับแสงของดวงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาและยิ่งน่าสะดุดตาเมื่อเขานอนแผ่หลาอยู่บนผ้าปูสีแดงเข้ม
เสียงโลหะกระทบกันเบา ๆ ขณะที่ชุดเกราะหนักถูกถอดออกทีละชิ้น เผยให้เห็นเรือนร่างแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม หน้าท้องเนื้อแน่นจนเป็นคลื่นมีรอยแผลเป็นที่สร้างจากสงครามและเลือดของไคล์
"เจ้าชายผู้แข็งแกร่ง"
ดวงตาสีเข้มมองต่ำลงมาที่ร่างใต้แสงเทียน
เจ้าชายแสยะยิ้ม ร่างสูงก้าวขึ้นคร่อมพร้อมโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนปะทะปลายจมูกเซย์
เซย์จ้องมองเขาแทบจะไม่กระพริบตา
“โอเมก้าเงียบแบบนี้มันน่ารำคาญนะ ร้องหน่อยสิ อย่าทำเหมือนเจ้าพร้อมจะขึ้นเตียงกับข้าอยู่แล้ว”
เซย์ยกยิ้ม เย้ยหยันน้อย ๆ ทั้งที่ยังนอนนิ่ง
“แล้วถ้าข้าบอกว่าข้า ‘พร้อม’ จริง ๆ ล่ะ?”
ไคลน์ชะงักเพียงครู่ ก่อนแสยะยิ้มกว้างกว่าเดิม
“กล้าดี...แต่ข้าชอบนะ เรือนร่างแบบนี้ เสียงแบบนี้ ใบหน้าแบบนี้...โอเมก้าส่วนใหญ่ร้องขอชีวิต แต่เจ้า...น่าขยี้ดี”
มือหนาลูบไล้จากริมฝีปากสีเชอรี่เคลื่อนต่ำลงมาผ่านแผงอกของเซย์และหยอกล้อจุกสีสวยด้วยการใช้ปลายนิ้วกับนิ้วลูบคลึงเบา ๆ
"อื้ม..เจ้าชาย..ข้า"
เซย์บิดเร่าครางกระเส่ามองตาเขาอย่างยั่วยวน
ไคลน์ยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะลูบไล้มือหนาเคลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ ผ่านหน้าท้อง บั้นเอว และกระชากท่อนขาของเซย์แยกออกจากกันอย่างไร้ความปรานี ......
"คืนนี้ข้าจะบดขยี้เจ้า"
...แสงเทียนไหวระริก
เปลวสีทองอ่อนทาบลงบนผิวเนียนของเซย์อย่างน่าหลงใหล
ผิวขาวละเอียดราวกับอัญมณีเลอค่าสะท้อนแสงเทียนเป็นประกายวิบวับบนผ้าปูเตียงไหมสีแดงเข้มที่ยับยู่จากแรงบดเบียด
กลิ่นกายของเขา...หอมอ่อนจาง ไม่ใช่กลิ่นโอเมก้าทั่วไปที่ไคลน์คุ้นเคย
แต่กลับเร้าอารมณ์อัลฟ่าอย่างไคลน์ได้มากยิ่งกว่าเสียอีก
เหมือนมันถูกออกแบบมาให้ปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวเขาโดยเฉพาะ น่าลุ่มหลงแต่ก็แฝงไปด้วยอันตราย
ลำคอเรียวระหง มีกล้ามหน้าอกน้อย หน้าท้องแบนราบ และยอดอกสีชมพูที่ขึ้นเป็นตุ่มแข็งเล็กน้อยที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจากอากาศเย็นยะเยือกหรือถูกไคลน์สัมผัสกันแน่
แต่ใครเล่าจะสน เจ้าชายจ้องร่างบางตรงหน้าไม่วางตา
“น่ากินชิบหาย...” เขาพึมพำเสียงพร่า
ก่อนจะกระชากคอระหงเข้ามาแนบชิด รับจูบอย่างดุดัน จนเซย์เผลอครางต่ำในลำคออย่างห้ามไม่ได้
ลิ้นของไคลน์กวาดชิมความหวานภายในโพรงปากของเขา ราวกับว่าเซย์คือของหวานชิ้นโปรดที่เขาเพิ่งค้นพบและไม่อาจหยุดลิ้มรสมัน
เสียงจูบเปียกชื้นและการเบียดบดของริมฝีปากทำให้ทุกอย่างเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนอากาศหนาวรอบตัวแลดูอบอุ่นขึ้นถนัดตา
แต่สิ่งที่ไคลน์แปลกใจ นั่นก็คือในขณะที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว คือจังหวะที่เซย์ผลักเขาลงนอนราบลงไป
มือเรียวของเซย์ปลดเปลี้ยงกางเกงของอัลฟ่าหนุ่ม หลุดออกอย่างง่ายดาย
แก่นกายใหญ่โต ของเขากระเด้งขึ้นมาตั้งชัน โด่งเด่ง พร้อมรบ
เซย์ไม่พูดอะไร
เพียงแค่กวาดตามองสำรวจมันอย่างช้า ๆ
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าคมหวานอย่างเจ้าเล่ห์
เซย์เอื้อมมือไปโอบรอบแก่นกายลำเขื่องนั้นอย่างไม่รังเกียจ
ปลายนิ้วลูบวนที่หัวบานเปียกชื้น ก่อนจะใช้ปลายลิ้นแตะเบา ๆ
ลิ้นสีชมพูชื้นแฉะไล้เลียวนวนไปช้า ๆ สลับกับการลงน้ำหนักที่รอยแยกตรงกลางเบา ๆ
“อึก...” ไคลน์สะดุ้ง ร่างเกร็ง
เซย์ยังคงมองหน้าเขา
ขณะที่ปลายลิ้นร้อนลากจากโคนขึ้นปลาย
แล้วจู่ ๆ ก็ อมลงไปเต็มปาก ในคราวเดียวจนเจ้าชายต้องแอ่นสะโพกขึ้นสวนโดยไม่รู้ตัว
“อาา...เซย์...” เขาหอบพร่า ดวงตาแดงก่ำ
เสียง “จ๊วบบ จ๊าบบ” ดังสลับกับเสียงครางต่ำ ๆ ของอัลฟ่าหนุ่ม
มือของไคลน์ขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น
ขณะที่อีกข้างเผลอวางบนศีรษะของเซย์ แล้วกดตามจังหวะการขยับ
ปากของเซย์ร้อนชื้น ตอดรัดแน่น
เขาดูดแรงในบางจังหวะ เลียวนรอบหัวบานในบางช่วง แล้วตวัดลิ้นรัวจนน้ำใสไหลเยิ้มออกมาไม่หยุด
เขาไม่ได้แค่ใช้ปากปรนเปรอเจ้าชาย
แต่เขากำลัง “ล่อลวง” ไคลน์ด้วยปาก
“เจ้า...จะฆ่าข้าด้วยปากของเจ้าเลยหรือไง...” ไคลน์กัดฟัน เสียงพร่าปนหอบ
เซย์เงยหน้าขึ้น ดวงตาเปียกวาวและริมฝีปากเลอะคราบน้ำรักบางส่วนที่ปริ่มออกมา
เขาเลียมุมปากอย่างช้า ๆ ก่อนจะพูดเสียงนุ่มลึก
“ยังหรอกเจ้าชาย...ข้ายังไม่ได้เริ่มเลยด้วยซ้ำ”
แล้วเขาก็ อมมันกลับลงไปอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาทำแรงกว่าเดิม
เร็วกว่าเดิม
เสียงเนื้อกระแทกริมฝีปากดังสนั่น
แก่นกายร้อนผ่าวถูกปลุกกระตุ้นจนขบาบขนาดใหญ่ขึ้น
ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วกาย จนไคลน์ต้องแอ่นตัวหลุดเสียงครางพร่าดังลั่นห้อง
กล้ามเนื้อของเขากระตุกถี่
หัวใจเต้นแรงราวกับจะระเบิด
และในที่สุด...เขาก็ปลดปล่อยออกมาในปากของเซย์
เจ้าชายจิกหัวเตียงแน่น ขณะที่เซย์ยังคงไม่ยอมผละออก
เขากลืนลงไปช้า ๆ ทุกหยด...
ก่อนจะเลียปลายลำอีกครั้งเหมือนจะยั่วซ้ำ
“ฟู่ว...” ไคลน์หอบหนัก
น้ำตาซึมที่หางตาจากความเสียวซ่านที่กัดกินทั้งร่าง
เซย์ไล้นิ้วบนต้นขาเขาเบา ๆ
แล้วกระซิบข้างหูเสียงแผ่ว...แต่เร่าร้อนจนเหมือนเปลวเพลิง
“คืนนี้ยังอีกยาวไกล...เจ้าชายของข้า”
