บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 คนดูแลคนใหม่

บ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ตั้งตระหง่านท่ามกลางไร่องุ่นหลายร้อยไร่ ที่รายล้อมไปด้วยภูเขารอบด้าน ถัดจากไร่องุ่นก็ยังมีสวนส้มที่กำลังออกผลจนเห็นเป็นสีส้มไปทั้งสวนเป็นทางยาวกินพื้นที่หลายสิบไร่ สวนสตอเบอร์รี่สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนที่สามารถเดินเก็บได้เอง คอกม้าขนาดใหญ่อีกทั้งพันธุ์วัวชั้นดีจากเมืองนอก ฉัตรพงษ์ ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างจากบ้านทรงยุโรปหลังใหญ่นี้ ภายในชั้นสองของบ้านทุกคนในบ้านหลังนี้จะทราบกันดีว่าเป็นอาณาจักรของเขา คนที่ไม่มีธุระปะปังกับเขา หรือแม้แต่คนที่ไม่สนิทสนมจะไม่ได้รับโอกาสให้ขึ้นมาชั้นบนเด็ดขาด แม้แต่แม่บ้านก็จะขึ้นมาได้เป็นเวลาเท่านั้น แต่ทุกคนก็ล้วนทราบดีและไม่มีใครอยากที่จะไปข้องแวะกับเขามากนัก เพราะด้วยอารมณ์ที่ร้อนแรงดุจเปลวเพลิงของเขา ถ้าลองมันได้ลุกโชน ใครที่อยู่ใกล้คงได้มอดไหม้เป็นเถ้าธุลีแน่แท้

คุณฉัตร ที่ทุกคนในบ้านนี้เรียกขาน เดิมทีก็ไม่ได้ร้ายกาจอะไรขนาดนี้ แต่คงเพราะด้วยอุบัติเหตุทางรถถยนต์ครั้งนั้น ที่เขาเป็นคนขับรถเอง ทำให้เขาต้องสูญเสียบิดา และขาทั้งสองข้างไป วีลแชร์จึงกลายมาเป็นยานพาหนะติดตัวสำหรับเขา

ร่างของบุรุษเพศร่างกายกำยำนั่งทอดสายตาอยู่บนรถวีลแชร์ไฟฟ้า ตลอดหกเดือนที่ผ่านมา

"ไงไอ้เสือ อาละวาดอะไรวะ แม่บ้านถึงกับต้องฝากอาหารฉันขึ้นมา" เสียงทักทายจากหมอคนสนิทที่เป็นทั้งเพื่อนและหมอประจำตัวเขา หมอเปรมเอ่ยทักทายบุรุษที่ยังนั่งรถวีลแชร์หันหลังให้แขกผู้มาเยือน

"รำคาญยัยคุณนาย หาคนดูแลคนใหม่มาให้อีกแล้ว" ฉัตรพงษ์เอ่ยอย่างหัวเสีย พลางหันวีลแชร์ของเขามาทางหมอเปรมที่เดินขึ้นมาพร้อมถาดอาหาร เสียงหมอเปรมหัวเราะอย่างขบขัน ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของคนที่เพิ่งอาละวาดไปเมื่อสักครู่ให้คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง

"เออ ไอ้นี่ไม่ช่วย ยังจะขำ" เมื่อหาที่ลงไม่ได้ ฉัตรพงษ์ก็หันมาขู่ฟ่อใส่เพื่อนสนิททันที

"เออ มากินข้าวก่อนเถอะ เดี๋ยวจะช่วยหาให้ ให้คนนี้อยู่ไม่ได้ก่อน"

"มึงเตรียมหาคนใหม่เลย กูให้ไม่เกินเจ็ดวัน" หมอเปรมพยักหน้าหนักๆ แบบกลั้นขำ เพราะรู้สรรพคุณของเพื่อนตัวเองดี

"หกเดือนนี่เปลี่ยนคนดูแลกี่คนแล้ววะ" หมอเปรมถามขำๆ

"ไม่รู้ กูขี้เกียจนับ"

"กูว่าสิบกว่าคนแล้วว่ะ" หมอเปรมหัวเราะลั่น แต่ฉัตรพงษ์ทำหน้าไม่สบอารมณ์นัก

ฉัตรพงษ์เพียรพยายามบอกแม่เลี้ยงของเขาว่าไม่ต้องหาคนดูแลมาให้ แต่เธอก็ไม่เคยยอม พอคนนี้ลาออกก็หาคนใหม่มาดูแลต่อให้ทันที ตลอดหกเดือนที่ผ่านมานี้เขาต้องอาละวาดคนพวกนั้นอย่างหนักเพื่อให้คนที่จะมาดูแลเขาทนไม่ได้แล้วลาออกไป แต่คุณนายที่เขามักจะค่อนขอดใส่ ก็เพียรหาคนใหม่มาแทนเช่นกัน

"มึงเตรียมหาคนที่ไว้ใจได้มาเหอะ กูไม่อยากให้เรื่องบานปลายแล้ว" ฉัตรพงษ์เอ่ยกับหมอเปรมอย่างไร้ร่องรอยของการพูดเล่นเหมือนเช่นเคย

"เออ กูดูไว้ให้แล้วคนนึง"

"หนูไม่ไปหรอกพ่อ หนูเรียนจบแล้วนะ หางานได้เราก็ทยอยใช้หนี้เขาก็ได้นี่พ่อ"

"เขาไม่ยอมแล้วลูก ถ้าเราหาเงินไปไถ่ที่ไม่ได้คราวนี้ เขาก็จะยึดแล้ว"

"แล้วทำไมต้องให้หนูไปเป็นคนใช้ด้วยล่ะ" เมื่อไม้อ่อนที่พูดกับผู้เป็นพ่อเริ่มไม่ได้ผล เพลงพิณก็เริ่มหาเหตุผล หนักเข้าเธอก็เริ่มโวยวาย

"เขาไม่ได้ให้แกไปเป็นคนใช้ เขาให้แกไปเป็นเลขาคุณฉัตร แล้วก็คอยดูแลเรื่องการอยู่การกินของเขาเฉยๆ"

"หนูจบบริหารนะพ่อ ไม่ได้จบพยาบาลศาสตร์ จะให้หนูไปเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวคนพิการน่ะ"

"หรือแกจะให้พ่อต้องไปเอง"

เมื่อผู้เป็นพ่อเอ่ยแบบนั้นมีหรือที่เธอจะสามารถปฏิเสธได้ ทั้งหมดนี่คงเป็นเพราะคุณแม่เลี้ยงของเธอแน่นอน เพราะเพลงพิณแอบได้ยินเธอคุยโทรศัพท์กับคุณนายอะไรสักอย่างว่าจะส่งลูกสาวไปทำงานใช้หนี้ให้แทน และเมื่อสองวันก่อน เจ้าหนี้ของเธอก็มาดูตัวเธอถึงที่บ้าน

บ่ายแก่ๆ ในวันที่แดดร้อนจัด รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ที่วิ่งมาบนถนนลูกรัง ทำให้ผู้หญิงร่างบางที่นั่งอยู่ที่เบาะด้านหน้าคู่กับคนขับต้องยึดมือโหนหลังคารถเอาไว้แน่น ไม่เช่นนั้นหัวของเธออาจโขกเข้ากับกระจกด้านข้างเวลารถลงหลุมก็เป็นได้

"พี่ ไร่ตั้งใหญ่โต ทำไมถนนอย่างกับผิวดวงจันทร์แบบนี้ล่ะ" เพลงพิณเอ่ยถามคนขับรถวัยกลางคนที่หน้าตาดูใจดี จนเธออดที่จะค่อนขอดไร่ฉัตรไพศาลอันใหญ่โตไม่ได้

"นายให้มาทางนี้" เพลงพิณขมวดคิ้วทันที ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel