ให้ความรักนี้มันตายไปกับผม
เอิงเอย....
"ไปนอนได้แล้วลูกดึกแล้ว^^" พ่อบอกกับฉันหลังจากเดินเข้าบ้านมาพร้อมกับแม่
"ค่ะถ้าอย่างงั้นน้องเอิงขอตัวไปนอนก่อนนะคะพ่อแม่"จุ๊บ จุ๊บ ฉันเดินไปจุ๊บแก้มพ่อกับแม่คนละจุ๊บก่อนจะเดินขึ้นห้องตัวเองด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว
"ทำไมถึงกลับมาล่ะไหนบอกจะไปอ่านหนังสือสอบกับยัยเอมิมีอะไรหรือเปล่า" พอฉันเดินเข้าห้องพี่อันดาก็เดินตามเข้ามา ทำไมยังไม่นอนอีกปกติพี่สาวฉันจะเป็นคนนอนไวนอนตรงเวลาสามทุ่มคือหลับแล้วห้ามใครไปกวนด้วยแต่นี่เที่ยงคืนกว่าแล้ว
"แล้วทำไมพี่ถึงยังไม่นอนล่ะดึกแล้วนะ" ฉันถามกลับด้วยความสงสัย
"ตอนแรกก็หลับไปแล้วแล่ะแต่พอดีหิวน้ำก็เลยเดินลงมาหาน้ำดื่มแล้วได้ยินพ่อกับแม่คุยกันเรื่องจะไปรับเราที่บ้านโน้นพี่ก็เลยนอนไม่หลับเป็นห่วงเราน่ะ"
"ขอบคุณนะคะแต่น้องเอิงไม่ได้เป็นอะไรหรอกแค่..ไม่ชินกับการนอนผิดที่ก็เลยโทรเรียกพ่อให้ไปรับ" ฉันพยายามหาเหตุผลที่เข้าท่าที่สุดและเป็นเหตุผลเดียวกับที่บอกพ่อให้มารับ
"อื้มมม พี่นึกว่ามีอะไรมากกว่านั้นซะอีกแต่ถ้าเราบอกไม่มีอะไรก็ดีแล้วพี่แค่เป็นห่วงน่ะ"
"น้องเอิงรู้ค่ะว่าพี่อันดาห่วงน้องเอิงมาก น้องเอิงไม่ได้เป็นอะไรค่ะ^^"
"ถ้างั้นพี่ไปนอนก่อนนะเราเองก็นอนได้แล้วอย่านอนดึกเข้าใจมั้ย"
"เข้าใจค่าาา^^"
พี่อันดาเดินออกจากห้องไปฉันก็เดินไปปิดประตูห้อง อยากจะบอกว่าพี่อันดาดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉันเยอะเลยทั้งที่เราเกิดห่างกันไม่กี่นาทีไม่รู้เป็นเพราะอะไร ฉันยังจำได้คุณย่ากับคุณปู่เคยบ่นว่าฉันน่ะซนกว่าดื้อกว่าพี่อันดาหลายเท่าทั้งที่เลี้ยงมาเหมือนกันซึ่งอันนี้ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรแต่ถึงฉันจะดื้อจะซนแต่ฉันก็น่ารักสำหรับทุกคนนะจะบอกให้
บอม....
ผมเดินออกมาจากห้องนอนดัวเองในตอนสายของอีกวัน วันนี้ผมไม่ต้องเข้าบริษัทเนื่องจากต้องดูแลยัยหลานจอมแสบที่พี่ชายกับพี่สะใภ้ฝากไว้ให้ดูแล อันที่จริงแกก็โตแล้วนะไม่ต้องให้ผมดูแลก็ได้แต่ก็นั่นแล่ะลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเป็นหัวใจของคนทั้งบ้านต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ยิ่งป๊าม๊าผมนะยิ่งแล้วใหญ่ตามใจหลานสาวทุกอย่างไม่เคยขัดใจอะไรเลยก็คงพอๆกับ..น้องเอิงนั่นแล่ะรายนั้นก็โดนตามใจมาตั้งแต่เด็กจนเคยตัวจนเสียนิสัยในบางครั้ง ยกตัวอย่างเรื่องเมื่อคืนนี้ผมไม่รู้ว่าน้องเอิงแอบกินเบียร์ตอนไหนเพราะผมได้กลิ่นชัดเลยเมื่อคืน ไหนจะยังกล้าที่จะสารภาพรักผมอีกแล้วก็ยังจูบผมก่อนด้วยผมก็เลยลงโทษด้วยการจูบคืนอย่างเร่าร้อนจนเด็กดื้อนั่นตกใจตาค้างวิ่งหายออกไปจากห้อง ไม่รู้จะเข็ดหรือเปล่าที่โดนแบบนั้น
ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรไปเรื่อย แกร๊ก เสียงประตูห้องตรงข้ามถูกเปิดออกมาปรากฏว่าเป็นหลานสาวตัวดีของผมเองที่เดินออกมาในชุดที่เตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกเพราะมีกระเป๋าเอ้สะพายอยู่ด้านหลัง
"สวัสดีค่ะอาบอม" เอมิยกมือไหว้ผมผมก็พยักหน้าแล้วมองไปที่ประตูอีกครั้งเพื่อดูว่าอีกคนจะออกมาตอนไหนแต่ก็ไม่มีใครเพราะผมเห็นเอมิปิดประตู
"อืมแล้วนี่จะไปไหนแต่เช้า"
"ไปอ่าหนังสือบ้านยัยเอิงค่ะ"
"ไปทำไมก็เพื่อนเราอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือไง" ผมถามกลับด้วยความสงสัยว่าจะไปทำไม
"แปลว่าอาไม่รู้ ยัยเอิงให้ลุงภูผามารับกลับตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ"
"รับกลับเมื่อคืน??" ผมถามหลานสาวย้ำอีกรอบ
"ค่ะ ไม่รู้ยัยนั่นเป็นอะไรแต่แปลกที่ยัยเอิงหน้าแดงจัดเหมือนไปเจออะไรมาแถมปากก็ดูบวมๆสงสัยโดนผึ้งตัวผู้มันต่อยปาก"
"ผึ้งตัวผู้ต่อยปาก??"
"ใช่ค่ะเมื่อคืนยัยเอิงปากบวมตุ่ยเลยพอตั้งสติได้ยัยนั่นก็เลยโทรบอกพ่อมารับกลับทันที เนี่ยเอมิก็กำลังจะไปบ้านยัยเอิงจะไปดูซะหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง" ผมทำได้แค่พยักหน้ารับรู้เพราะไม่รู้จะตอบกลับหลานสาวไปว่าอะไรดี
"เอ้อ อาบอมว่ามั้ยไปส่งเอมิที่บ้านยัยเอิงหน่อยสิ"
"อาไม่ว่างต้องเคลียร์เอกสาร" ผมหาข้ออ้างเพื่อตัดปัญหาเพราะไม่อยากไปเจอหน้ายัยเด็กแก่แดดนั่นที่โดนผมจูบตอบกลับแบบเร่าร้อนและรุนแรงไปเมื่อวาน
"ว๊าาา ทำไงดี อืมมมคิดออกแล้วให้ไอ้ชินมันมารับดีกว่าวันก่อนเห็นมันบ่นว่าอยากเจอยัยเอิงอยู่พอดีแต่ไม่มีข้ออ้างที่จะไปหาที่บ้านเพราะกลัวลุงภูผาเอาปืนไล่ยิงโทษฐานไปจีบยัยเอิงถึงบ้าน"
"ชิน??ชินไหน" ผมถามเอมิโดยไม่รู้ตัวจนหลานตัวแสบหันมามองหน้าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ตรงมุมปาก ผมก็เลยรีบทำหน้าปกติ
"แล้วอาจะอยากรู้ไปทำไมคะ"
"ก็แค่อยากรู้ ว่าเราจะให้ใครมารับเพราะพ่อแม่เราฝากอาให้ดูแลเราแต่ถ้าเราไม่บอกอาก็ไม่เป็นไรถ้าพ่อแม่เราโทรถามก็ตอบท่านเอาเองก็แล้วกัน
"บอกก็ได้ค่ะไม่ได้มีความลับอะไรสักหน่อย ชินเป็นเพื่อนสมัยอนุบาลของเอมิกับยัยเอิงค่ะ แต่พอจบชั้นประถมไอ้ชินมันก็ตามพ่อแม่ไปอยู่ซิดนีย์ แล้วมันเพิ่งกลับมาเพื่อจะหาที่เรียนต่อที่ไทยมันบ่นอยู่ที่โน่นไม่ค่อยมีเพื่อนคบมันเลยขอพ่อแม่มันมาเรียนต่อที่นี่ นี่ก็กำลังคิดกันอยู่ว่าเราสามคนจะไปสอบเข้ามหาลัยเดียวกันคณะเดียวกันดีหรือเปล่าเพราะจะได้อยู่ด้วยกันเจอหน้ากันทุกวันเหมือนเมื่อก่อน ไอ้ชินน่ะมันแอบชอบยัยเอิงมานานแล้วค่ะอาบอมแต่มันไม่กล้าบอกความในใจเพราะมันกลัวจะเสียเพื่อน" ผมยืนฟังที่หลานสาวเล่าก็อดคิดถึงตัวเองไม่ได้ที่สมัยก่อนแอบชอบอัยวาแต่ไม่กล้าบอกความในใจไม่เคยบอกใครว่าผมรู้สึกยังไงมันเป็นความลับในใจผมและจะเป็นความลับตลอดไปถึงผมจะรู้ว่าพี่ชายผมมองออกว่าผมรู้สึกยังไงกับอัยวาแต่แล้วไงในเมื่อผมไม่ยอมรับใครก็มาง้างปากผมพูดไม่ได้หรอกก็ให้ความลับนี้มันตายไปกับผมเลยก็แล้วกันแล้วตอนนี้ผมก็เลิกรู้สึกแบบนั้นกับอัยวาไปแล้ว ตอนนี้ความรู้สึกที่ผมมีให้อัยวาก็คือเพื่อนเท่านั้นจริงๆ ผมไม่รู้ว่าอะไรถึงทำให้ผมตัดใจจากอัยวาได้ทั้งที่ลองทำมานานหลายสิบปีแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล
"ถ้าอาบอมไม่ว่างไปส่งจริงๆงั้นเอมิโทรหาไอ้ชินก่อนนะคะ มันคงดีใจที่จะได้ไปเจอหน้ายัยเอิง^^" หลานสาวผมพูดด้วยน้ำเสียงสดใสตื่นเต้นก่อนจะหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าสะพาย
"ไม่ต้องโทรเดี๋ยวอาไปส่งเองพ่อแม่เราจะได้ไม่ว่าอาทีหลัง"
"คริ คริ คริ"
"ขำอะไร" ผมหันขวับไปมองหน้าหลานสาวที่ทำท่าทางหัวเราะ
"เปล่าค๊าบบบบ^^"
...................................