ตอนที่ : 09 เตือนสติ
ไม่นานนักก็มาถึงคอนโดของเขา ฉันโดนดึงออกมาจากรถ แล้วก็ถูกรั้งให้เดินไปอย่างไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ จริงๆ ฉันแค่กำลังคิดคำตอบอยู่ต่างหาก ไม่รู้จะตอบยังไงเลยเหมือนกัน เขาเล่นรู้ทันหมดทุกอย่างเลยแบบนี้
"อ๊ะ! นะ หนึ่งเจ็บ" ฉันร้องออกมาเพราะเจ็บตรงข้อมือที่ถูกเขากำไว้แน่น
คุณเสือมองหน้าฉันก่อนจะปล่อยมือออกจากข้อมือของฉัน แล้วเปลี่ยนไปยืนกอดอกแทน แหงล่ะตอนนี้จะหนีก็ไม่ทันแล้วนี่ อยู่ในลิฟท์กันแล้ว ซ้ำยังถูกเขาประกบอยู่แบบนี้อีก ผู้หญิงตัวเล็กตัวน้อยอย่างฉันจะหนีไปไหนได้
"ตกลงได้คำตอบหรือยัง?" จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น กอดอกมองหน้าฉันนิ่งเหมือนกำลังใช้สายตาเค้นเอาคำตอบ ในลิฟท์มันก็ย่ิงแคบๆ อยู่ด้วย เจอแบบนี้แล้วฉันทำตัวไม่ถูกเลย
"หนึ่งอยากพักเฉยๆ ค่ะ"
"โกหก!" ทำเสียงเข้ม แถมพูดเหมือนตะคอกด้วย แต่นั่นคงเป็นเนื้อเสียงเดิมของเขาอยู่แล้วล่ะ ฉันแค่ยังไม่ชินเฉยๆ หรอก มันสะดุ้งตกใจเลยเนี่ยสิ
"ก็แล้วคุณเสืออยากได้คำตอบแบบไหนล่ะคะ ตอบไปก็ไม่ถูกใจ คุณเสือพูดมาเลยว่าอยากให้หนึ่งตอบแบบไหน"
"เธอนี่มันยอกย้อนเก่งจริงๆ นะน้ำหนึ่ง!"
"....." เหอะ! เมื่อวานยังทำเมินใส่กันอยู่เลย วันนี้กลับมาทำเป็นใส่ใจสนใจ ผู้ชายอะไรหลายตัวตนชะมัด หรือว่ากลัวว่าเด็กคนอื่นจะรู้ว่าแอบซุกเด็กนักศึกษาไว้กินด้วย
"จะว่าไปเสาร์อาทิตย์ฉันไปหาพ่อแม่เธอที่บ้าน ก็เหมือนจะดีนะ"
"!!" เขานี่มันรู้จุดอ่อนฉันดีจริงๆ ถือไพ่เหนือกว่าหน่อย ชอบเอามาข่มขู่อยู่เรื่อยเลย นี่เขาเป็นแบบนี้กับทุกคนหรือเปล่าเนี่ย
"บอกให้แม่ของเธอรู้ก็น่าจะดี ว่าเรามีอะไรกันแล้ว"
"ก็ถ้าเป็นแบบนั้น คุณเสือก็คงจะถูกบังคับให้ต้องรับผิดชอบ เผลอๆ ต้องแต่งงานด้วยซ้ำ ที่บ้านของหนึ่งหัวโบราณจะตายไป" ฉันขู่กลับบ้าง อย่างน้อยผู้ชายที่ยังรักสนุกอยู่ ก็ไม่อยากแต่งงานหรอก เขาอาจจะกลัวการแต่งงานก็ได้
"ก็ไม่ได้แย่นะ แต่งงานกัน เธอก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านของฉัน ยากตรงไหน"
"!!" เพล้ง! หน้าของฉันแตกละเอียด มันไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลย
ทำไมเขาถึงเป็นผู้ชายแบบนี้นะ เป็นผู้ชายที่จ้องแต่จะเอาชนะอยู่ตลอดเวลาเลย
จะแต่งงานกันได้ยังไง ในเมื่อเราสองคนไม่ได้รักกันสักหน่อย ถ้าจะรับผิดชอบเพียงเพราะมีอะไรกัน ฉันว่ามันก็ดูไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ก็จริงอยู่ที่บ้านของฉันยังค่อนข้างหัวโบราณ โดยเฉพาะยาย แต่นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้ว
ฉันอยากจะกรี๊ดออกมาให้ดังๆ !
"ตกลงจะบอกได้หรือยัง?"
เอาวะมาถึงขนาดนี้แล้วมีอะไรก็บอกไปเถอะ เขาจะได้รู้ ว่าที่ฉันเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าถูกเขาเมินใส่ก่อนต่างหาก
"เมื่อวานหนึ่งไปเดินเล่นที่ห้างมา" พูดจบฉันก็เงยหน้าขึ้นมองเขา แต่เขากลับไม่แสดงสีหน้าสะทกสะท้านอะไรเลย นอกจากการเพ่งมองเหมือนกำลังจดจ้องกับประโยคคำพูดของฉัน
"อืม.."
"ทำไมคุณทำหน้าแบบนั้น เรายังเจอกันอยู่เลย แถมคุณยังทำหน้าตึงใส่หนึ่งด้วย"
"ฉันเนี่ยนะ!?"
"ใช่! หนึ่งไม่รู้จะไปไหน ก็เลยไปเดินเที่ยว แล้วก็ได้เจอคุณ มากับผู้หญิงไม่รู้ว่าใคร คุณทำเหมือนไม่รู้จักหนึ่งด้วย แล้วก็เดินไปเลย"
"นี่เธอจะบอกว่า เธอโกรธที่โดนฉันเมินงั้นเหรอ?"
"ก็ไม่เชิง คุณเสือเล่นมองตึงๆ แบบนั้น หนึ่งไม่ชอบ!"
"......"
"คุณเสือก็มีเด็กอยู่ตั้งหลายคน แถมคนพวกนั้นก็สวยๆ ทั้งนั้นเลย เลิกยุ่งกับหนึ่งเถอะนะ" ฉันพูดอ้อนวอน ก็เสียดายอยู่หรอก เขาทั้งหล่อทั้งรวย มีแต่ผู้หญิงเข้าหา ใครๆ ก็อยากได้ แต่ฉันไม่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้เลย เพราะฉันไม่ได้เต็มใจตั้งแต่แรก เขายื่นข้อเสนอที่ฉันไม่สามารถเลือกอย่างอื่นได้ต่างหาก
"คนอื่นเขาไม่เถียงฉัน ไม่พูดตะคอกใส่ฉัน แล้วก็ไม่คิดอยากเอาชนะฉันไง"
"แล้วหนึ่งเป็นยังไงคะ?"
"ก็อย่างที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ไง" พูดจบเขาก็ยิ้มมุมปาก
"......"
"ฉันขอเตือนเอาไว้อีกอย่างนะ การที่ฉันจะมีใคร คบใคร หรือจะควงผู้หญิงคนไหน มันเป็นสิทธิ์ของฉัน"
"สิทธิ์ของผู้ชายเห็นแก่ตัวล่ะสิไม่ว่า" ฉันพูดพึมพำ
"ฉันแค่จะเตือนสติเธอ ว่าอย่าทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เพราะฉันไม่ชอบ ผู้หญิงที่ชอบทำตัวแบบนี้กับฉัน จบไม่สวยหลายคนแล้วนะ"
"....." เหอะ! ขู่เก่งจริงๆ นี่ตกลงคนหรืองูเห่าเนี่ย ใครอยากจะไปเป็นเด็กของเขา มีแต่เขาซะอีก ที่เข้ามาหาฉัน เรายื่นข้อเสนอบ้าบอพวกนี้ให้ ฉันไม่ได้อยากจะรับไว้เลยแม้แต่นิดเดียว
แต่จะว่าไป ก็รู้สึกหน่วงๆ เหมือนกันแฮะ มันก็หมายความว่า เขามีอะไรกับฉันเขาก็ไปเอากับคนอื่นได้ ยี๋! ขนลุกชะมัดเลย ผู้ชายที่ชอบนอนกับผู้หญิงหลายๆ คน เขาไม่กลัวติดโรคบ้างหรือไงกัน
"ได้ยินที่พูดใช่ไหมน้ำหนึ่ง"
"อือ ได้ยินค่ะ"
"ก็ดี เพราะเธออยู่ในฐานะเด็กของฉัน และฉันไม่ชอบให้ใครมาล้ำเส้น เธอจะได้รู้เอาไว้ ว่าควรยืนอยู่ตรงไหน"
"หนึ่งมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอคะ?"
"ห๊ะ?"
ติ๊ง~
ประตูลิฟท์เปิดออกพอดี ฉันเดินออกมา โดยที่ไม่รู้หรอกว่าห้องของเขาอยู่ตรงไหน เพราะก่อนหน้านั้นเขาให้ฉันไปที่โรงแรม ที่นี่ไม่ใช่ที่เดิม
"หนึ่ง!"
"อ๊ะ!?"
"อย่าเดินไปมั่วซั่ว!" เขาทำเสียงดุใส่ฉัน ทั้งๆ ที่ฉันเพิ่งจะก้าวออกมาจากลิฟท์ และเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวเอง
"ห้องคุณอยู่ไหนล่ะคะ?"
"ทางนี้"
เขาพาฉันเดินไป ก่อนจะเข้าไปข้างในพร้อมกัน ข้างในมันใหญ่มากดูจากภายนอกเหมือนจะไม่กว้างก็เถอะ แต่ข้างในมันกว้างมาก และมีชั้นสองด้วย โคมไฟก็สูงลิ่วผ้าม่านก็สูงรอบด้านเป็นกระจก มองเห็นแต่ท้องฟ้าและพวกยอดตึกไกลๆ ตา
"คุณพาหนึ่งมาที่นี่ทำไมคะ เดี๋ยวหนึ่งต้องไปเรียนอีก คงค้างคืนไม่ได้"
"ฉันก็ไม่ได้บอกให้เธอค้างคืน"
"....."
"ฉันหิว ทำอะไรให้กินที ไปจอดรถรอใครบางคนอยู่ครึ่งวัน ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน"
"ค่ะ" ฉันตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินไปหาห้องครัว แล้วเข้าไปทำอะไรให้เขากิน เขาพูดเหมือนกับว่ามันเป็นความผิดของฉัน ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้บอกให้เขาไปรอเลย เขาเป็นคนไปจอดรถรอเอง แต่กลับมาโทษฉัน โยนความผิดให้ฉันเนี่ยนะ
ผ่านไปสักพัก...
"เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"ไข่เจียว?"
"อื้อ.." พยักหน้าตอบด้วย
"ฉันไม่กิน"
"ก็แล้วแต่ค่ะ" เรื่องมากจริงๆ ผู้ชายคนนี้ ฉันนั่งลงตรงข้ามเขา จากนั้นก็ดึงจานข้าวไข่เจียวที่เอามาให้เขาก่อนหน้ามานั่งกินเอง จะให้ฉันทำอะไรให้กินได้ ในเมื่อตู้เย็นก็มีแต่ไข่ แทบจะไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ก็พอจะเข้าใจได้ เขาเป็นผู้ชาย คงไม่ทำอะไรกินเองหรอก
"เดี๋ยว!"
"คะ?"
"นี่เธอตั้งใจจะกินหมดเลยหรือไง ทำไมใจร้ายขนาดนี้ ฉันบอกแล้วนี่ว่าฉันหิวข้าว!"
"....." งง? งงมาก! สรุปเขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่ ก็บอกเองนี่ว่าไม่กินข้าวกับไข่เจียว พอฉันเอามานั่งกินเอง ก็กลับหาว่าฉันใจร้าย
ครืด!
จู่ๆ จานข้าวไข่เจียวก็ถูกดึงไปต่อหน้าต่อตา ก่อนที่ช้อนจะถูกดึงไปจากมือต่อจากนั้น เขานั่งกินข้าวต่อจากฉันที่เหลืออยู่
"ไหนบอกไม่กินไงคะ?"
"......" เขามองหน้าฉันเหมือนโกรธมาก
เขาทำเหมือนกับว่า สิ่งที่ฉันทำมันผิดร้ายแรงมากขนาดนั้น แค่อ่านข้อความแล้วไม่ตอบ แค่ไม่รับสายโทรศัพท์ ทำให้เขาเป็นได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ