บทที่ 10
เช้าวันต่อมา
ร่างหนาของสงกรานต์ค่อย ๆ ขยับลุกออกจากเตียงช้า ๆ เพราะกลัวหญิงสาวที่นอนข้างกันจะตื่น
เมื่อคืนหลังจากแน่ใจว่าจันทร์ฉายหลับไปแล้วชายหนุ่มจึงลุกออกจากโซฟาตัวยาว ย้ายตัวเองขึ้นมาบนเตียงนอนกอดหญิงสาวไว้ก่อนจะหลับตามเธอไปทีหลัง
ทว่าก่อนที่จะหลับชายหนุ่มกลับขบคิดเรื่องต่าง ๆ มากมาย เขารู้ว่าทำไมจันทร์ฉายถึงได้พูดแบบนั้นออกมา และก็เข้าใจเธอด้วย จึงไม่ได้รู้สึกโกรธเธอถ้าจะมีก็มีแค่ความไม่พอใจเท่านั้น
สงกรานต์มองคนที่กำลังนอนหลับด้วยสายตาอบอุ่น เขาอยากพูดหลาย ๆ เรื่องราวกับเธอ เพียงแต่ว่าเขายังพูดมันออกมาตอนนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องของอรอุมา
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเขารักอรอุมาจริง ๆ รักมากกว่าเพื่อนกัน และเป็นเขาที่รักเธอข้างเดียว สำหรับอรอุมาแล้วเขาคงเป็นได้แค่เพื่อนของเธอเท่านั้น แต่เขาก็ยังคงมีความหวัง หวังว่าสักวันอรอุมาจะรู้สึกกับเขามากกว่าเพื่อนคนหนึ่งได้บ้าง แต่หวังนั้นของเขาคงจะไม่เป็นจริงเมื่อเธอมีคนของใจอยู่แล้ว
สงกรานต์ยอมรับว่าตอนนี้เขายังไม่ได้รู้สึกรักจันทร์ฉาย แต่ความที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดหกเดือนที่ผ่านมา ผ่านความสัมพันธ์ลับ ๆ แบบนั้นก็ต้องบอกว่าเขารู้สึกผูกพันและรู้สึกดีกับเธอด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่อาจพูดคำว่ารักออกมาได้เท่านั้นเอง
หลังจากใช้เวลาขบคิดมาหลายวันเขาก็หาข้อสรุปให้ตัวเองได้ว่า ไหน ๆ จันทร์ฉายก็ท้องลูกของเขาแล้ว ทำไมเขาไม่ลองเปิดใจให้เธอเข้ามา บางทีเขาอาจจะมีความสุขมาก ๆ เลยก็ได้ ที่สำคัญลูกของเขาที่อยู่ในท้องของเธอเมื่อเกิดมาจะได้มีครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ มีพ่อแม่และลูก
อีกอย่างหลังจากที่ได้รับรู้ว่าอรอุมามีเจ้าของหัวใจจากที่คิดว่าตัวเองจะเสียใจและเจ็บปวดจนไม่เป็นผู้เป็นคนกลับผิดคาด เพราะเขาแค่รู้สึกใจหายเท่านั้น ไม่ได้โกรธหรือเสียใจ แต่กลับมีความรู้สึกเป็นห่วงเข้ามาแทนที่ ห่วงว่าเธอจะถูกหลอก หลังจากตกตะกอนความคิดและความรู้สึกตัวเองที่มีต่ออรอุมาได้แล้ว จึงสรุปได้ว่า
แท้ที่จริงแล้วความรู้สึกที่เขามีให้อรอุมาคงจะเป็นความรักของเพื่อน มากกว่าจะเป็นความรักดั่งคนรัก ก่อนหน้านี้ที่คิดว่าเขารักเธอก็อาจจะเป็นเพราะเขารู้จักเธอมาตั้งแต่เด็กและสนิทกันมาก จึงเข้าใจผิดไปเองว่าความรักที่มีให้เธอนั้นเป็นความรักฉันชู้สาว ไหนจะมีข้อผูกมัดที่เป็นดั่งคู่หมั้นกันกลาย ๆ นั่นอีกยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่คิดนั้นถูก พอมาวันนี้ได้รู้ข่าวว่าเธอมีคนรักนอกจากความเป็นห่วงเป็นใยที่มีให้ก็ไม่มีความรู้สึกอื่นใดอีกเลย
ยิ่งได้ทำความรู้จักกับความรู้สึกของตัวเองดีแล้วจึงได้ข้อสรุปว่า เขาไม่ได้รักเธอดั่งคนรักแต่รักเธอดั่งน้องสาวและความหวังดีของเพื่อนคนหนึ่งนั่นเอง และเพราะเป็นแบบนี้เขาจึงไม่ได้เสียใจอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อรู้ว่าเธอมีเจ้าของหัวใจ
กลับกันกับจันทร์ฉายเพียงเธอบอกว่าไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบ และต้องการจะพาลูกไปจากเขา ชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนรุ่มอยู่ในอกความไม่ยินยอมฉายชัดแทบจะทันที ทั้งยังรู้สึกไม่พอใจ น้อยใจระคนกรุ่นโกรธคนตัวเล็กด้วยในบางครั้ง ความรู้สึกนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าความรักได้หรือยัง แต่เขามั่นใจว่าเขารู้สึกดีกับเธอมากจริง ๆ มากเกินกว่าจะเห็นเธอเป็นเพียงแค่พนักงานธรรมดา มากเกินกว่าจะเห็นเธอเป็นเพียงแค่คู่นอน และมากเกินกว่าจะยืนมองเธอเดินหันหลังหอบลูกหนีเขาไปโดยที่เขาไม่ทำอะไรได้
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่พูดคำว่ารักออกมา แต่เขาก็มั่นใจแล้วว่าความรู้สึกที่มีให้จันทร์ฉายนั้นมันมากกว่าความผูกพันและชอบไปแล้วแน่ ๆ ที่เขายังไม่พูดว่ารักก็เพื่อรอให้ตัวเองมั่นใจว่าเขารักเธอจริง ๆ ก่อนค่อยพูดมันให้เธอได้ฟัง
ที่ทำได้ตอนนี้คือการรอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขามั่นใจแล้วว่ารักเธอจริง ๆ ไม่ได้หลงเข้าใจผิดเช่นที่รู้สึกกับอรอุมานั่นเอง
หากเขามั่นใจและวันนั้นมาถึง เขาจะรีบพูดมันออกไปให้เธอได้รู้ ให้เธอได้มั่นใจว่าเขาก็รักเธอไม่ต่างกัน
ใช่แล้ว
ชายหนุ่มรู้ว่าจันทร์ฉายรู้สึกกับเขาเช่นไร เขาก็ได้แต่หวังว่าหญิงสาวจะให้โอกาสเขาโดยการอดทนรอและอยู่บ้านหลังนี้ อยู่ข้าง ๆ เขาจนกว่าเขาจะพูดมันออกมา
สงกรานต์ยอมรับว่าเห็นแก่ตัว แต่หากการเห็นแก่ตัวนี้ทำให้จันทร์ฉายยังอยู่ข้างกาย ไม่ได้หนีหายไปไหน เขาก็พร้อมจะทำมัน และหวังว่าเธอจะให้อภัยเขาเมื่อได้รู้ความจริงนี้ในอนาคต
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนข้อความไลน์ที่เข้ามานั้นทำให้ชายหนุ่มหลุดออกจากภวังค์ความคิดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วกดข้อความอ่าน
เมื่ออ่านข้อความจบชายหนุ่มก็กลอกตามองบนทันที ก่อนจะพิมพ์กลับไปว่า
‘รีบกลับมา’
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจข้อความและโทรศัพท์อีก ชายหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้ารัว ๆ ของสมาร์ตโฟนพาให้จันทร์ฉายที่กำลังหลับฝันดีตื่นขึ้น สายตาพยายามมองหาต้นตอของเสียงรบกวน เมื่อเห็นแล้วว่าไม่ใช่เครื่องของตัวเองก็ตั้งท่าจะนอนต่อ เพียงแต่ว่าทันทีที่เธอจะทิ้งหัวลงหมอนเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
จันทร์ฉายรู้สึกรำคาญ เธอมองไปยังโซฟาตัวยาวที่สงกรานต์ใช้หลับนอนด้วยความหงุดหงิด แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นชายหนุ่มนอนอยู่ตรงนั้น
หญิงสาวหันมามองข้างตัวอย่างรวดเร็วเมื่อไม่เห็นเขานอนอยู่ตรงนี้ก็ถอนหายใจออกมา ขณะที่กำลังจะพูดว่าเขาไปไหน หูก็ได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากฝักบัว จันทร์ฉายมองไปตามเสียงก็เห็นว่าประตูห้องน้ำปิดอยู่ เพียงเท่านี้เธอก็เข้าใจในทันทีว่าเจ้าของสมาร์ตโฟนเครื่องที่ส่งเสียงรบกวนเวลานอนของเธออยู่ตอนนี้หายไปไหน
ด้วยความสงสัยและรำคาญใจเธอจึงคว้าหมับสมาร์ตโฟนชายหนุ่มมาถือไว้ตั้งใจจะปิดเสียงและการแจ้งเตือนเสีย ทว่ายังไม่ทันจะได้กดปลดล็อกก็เห็นข้อความที่แสดงอยู่บนหน้าจอแล้ว
ตึก ตึก ตึก
ใจหญิงสาวเต้นแรงและรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ กับข้อความเหล่านั้น ความง่วงที่มีในตอนแรกเริ่มหายไปเหลือไว้เพียงความเศร้าสร้อยเท่านั้น
หญิงสาวเงยหน้ากลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล ก่อนจะวางสมาร์ตโฟน ของชายหนุ่มไว้ที่เดิมซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เขาเปิดประตูห้องน้ำออกมา
“ทำอะไร” สงกรานต์ถามตาจ้องมองมือของหญิงสาวที่กำสมาร์ตโฟนเขาไว้อยู่ คิ้วเข้มขมวดมุ่นก่อนจะส่งสายตาที่มีความสงสัยไปให้หญิงสาว ชายหนุ่มอยากรู้ว่าเธอหยิบสมาร์ตโฟนเขาขึ้นมาทำไม
แต่สิ่งที่จันทร์ฉายเข้าใจนั้นคือ เขาไม่พอใจที่เธอไปยุ่งวุ่นวายกับข้าวของส่วนตัวของเขา หญิงสาวรีบวางตัวเครื่องเจ้าปัญหาลงก่อนจะหันกลับมามองชายหนุ่มอีกครั้งแล้วพูดว่า
“ไม่ได้ทำอะไรค่ะ”
“ไม่ได้ทำอะไรได้ยังไง ก็พี่เห็นอยู่ว่าฉาย...”
“ก็บอกว่าไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำสิคะ ที่เห็นอยู่ก็แค่รำคาญเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์เท่านั้น เลยจะหยิบขึ้นมาปิดแจ้งเตือนไม่ได้อยากยุ่งวุ่นวายอะไรกับของส่วนตัวของพี่เลยสักนิด”
ชายหนุ่มย่นคิ้วเข้าหากันมากกว่าเดิมแล้วพูดว่า
“พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
“จะแบบไหนก็ช่างเถอะค่ะ ฉายไม่ได้สนใจ ไหน ๆ พี่ก็ออกจากห้องน้ำมาแล้วยังไงก็รบกวนปิดด้วยนะคะ ฉายรำคาญฉายจะนอน” พูดจบก็ทิ้งตัวนอนหันหลังให้ชายหนุ่ม
สงกรานต์ส่ายหัวแล้วเดินไปหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากดปิดการแจ้งเตือนไว้ก่อนตามที่เธอบอก ทว่าเพียงสายตาเห็นข้อความที่แสดงอยู่บนหน้าจอเขาก็รู้ทันทีว่าที่จันทร์ฉายปั้นปึ่งใส่เขามันเป็นเพราะอะไร
อาการแบบนี้แสดงว่าเธอเห็นข้อความที่ถูกส่งมาเหล่านี้แน่ ๆ
มุมปากของสงกรานต์ยกยิ้มรู้สึกดีที่เห็นหญิงสาวมีท่าทีไม่พอใจและแง่งอนของเธอเพียงเห็นข้อความของอรอุมาที่ส่งมา
นี่ถ้าเธอกดดูข้อความหรือรอดูอีกสักนิดเธอจะรู้เลยว่าข้อความหลังที่ส่งมาล้วนถามถึงเธอทั้งสิ้น เท่านั้นยังไม่พอยังมีการล้อเลียนเขาและเธอผ่านทางข้อความอีกด้วย
น่าเสียดายที่เธอไม่ได้เห็น และเขาก็ไม่คิดจะแก้ไขหรือบอกให้เธอรู้ การเห็นเธอหึงเขาแบบนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกัน ที่สำคัญท่าทางของเธอก็ออกจะน่ารัก เขาชอบ
ชายหนุ่มหัวเราะให้กับความคิดของตัวเอง ก่อนจะแต่งตัวและออกไปทำงาน ก่อนออกเขาก็บอกให้หญิงสาวรู้อีกครั้งแล้วจึงเดินออกไป