บทที่ 2 เสือร้าย
เวลาผ่านป6ปี
หลังจากอรินดาสาวใต้ตาคมผมยาวสวยน่ารักและมองไม่เบื่อเธอเป็นสาวร่างเล็กสูงแค่ร้อยหกสิบห้าอิ่มมีน้ำมีนวลสัดส่วนทรวดทรงองค์เอวอรชรอ้อนแอ้นหย่ากับอดีตสามีแล้วหญิงสาวก็ประกาศขายบ้านเรือนหอและบ้านเดิมก็ปล่อยให้ครูในโรงเรียนเดียวกับพ่อแม่เช่าจะปล่อยทิ้งไว้มันก็จะทรุดโทรมและรกร้างเพราะเธอไม่คิดจะอยู่ในตอนนี้แต่ชีวิตบั้นปลายนั้นไม่แน่ จากนั้นก็เดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วซื้อคอนโดอยู่กลางกรุงเทพที่การเดินทางสะดวกเพราะอยู่คนเดียวและไม่รู้ว่าตัวเองท้องแต่พอรู้ก็ไม่คิดจะบอกอดีตสามีเพราะเธอสามารถเลี้ยงดูลูกคนเดียวได้
“น้องอินตื่นได้แล้วครับลูก” อรินดาปลุกลูกชายตัวน้อยที่นอนหลับก้นชี้โด่งแล้วอดขำไม่ได้
“วันนี้อินไม่สบายไม่ไปโรงเรียนได้มั้ยค้าบมามี้” เสียงเล็กตอบอู้อี้แล้วมุดตัวไปในผ้าห่ม
“ไม่ได้ครับลูก น้องอินไปโรงเรียนอีกหนึ่งวันแล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดแล้วครับ”
“อินอยากไปเที่ยวสวนสัตว์” คนเป็นลูกต่อรองกับแม่เพราะเพื่อนๆคุยให้ฟังว่าวันหยุดที่ผ่านมาพ่อแม่พาไปเที่ยวสวนสัตว์มาสนุกมากก็อยากไปเที่ยวบ้าง
“งั้นไปโรงเรียนก่อนครับ พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวกันโอเคมั้ยไม่งั้นวันนี้มามี้จะไปทำงานสายแน่ๆ” อรินดาพูดกับลูกชายอย่างอ่อนโยนและเธอพยายามเติมให้ลูกชายทุกอย่างทำหน้าทั้งพ่อและแม่ให้อย่างเต็มที่และโชคดีที่โรงเรียนอนุบาลของลูกชายเป็นโรงเรียนสองภาษาและมีนักเรียนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่พ่อแม่มาทำงานในเมืองไทยและค่าแรงก็แพงเอาเรื่องและเธอวางแผนเรื่องการศึกษาของลูกชายจนจบมหาวิทยาลัยไว้เรียบร้อยและรอให้ลูกชายเข้าเรียนระดับมัธยมก่อนเธออาจจะมองหาบ้านหลังเล็กๆอยู่ดับลูกชาย
“มามี้พูดจริงนะครับ” อินทัชลุกขึ้นถามแม่ด้วยความดีใจที่จะได้ไปเที่ยว
“จริงสิครับ เดี๋ยวเราชวนน้าบุษไปด้วยดีมั้ยครับ”
“ดีแน่นอนค้าบมามี้ งั้นอินไปอาบน้ำก่อนนะค้าบ พี่พันค้าบอินจะอาบน้ำไปโรงเรียนแล้วค้าบ” น้องอินเรียกหาพี่เลี้ยงสาวที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กและเป็นเหมือนญาติของอรินดาเพราะเธอรู้จักกับพันนีเด็กกำพร้าพ่อแม่เลิกกันและอยู่กับปู่ย่าพอปู่ย่าเสียชีวิตก็ถูป้าสะใภ้กับลูกกดขี่ข่มเหงและที่เธอช่วยก็เพราะว่าเพื่อนลูกชายของป้าจะข่มขืนพันนีก็หนีกระเซอะกระเซิงมาหลบหลังรถเธอแล้วเธอก็พาไปแจ้งความแต่สุดท้ายก็ยอมความเพราะพันนีไม่ได้เสียหายแล้วถูกป้าไล่ออกจากบ้านเธอจึงรับมาอยู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้และยังช่วยเหลือส่งเสียให้เรียนภาคค่ำจนตอนนี้พันนีใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว
อรินดามองตามหลังลูกชายเข้าห้องน้ำแล้วยิ้มก่อนจะเดินออกไปบอกพันนีให้มาช่วยอาบน้ำให้เจ้าตัวแสบของเธอแล้วตัวเองก็ไปเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคนและช่วงกลางวันหลังจากส่งลูกชายไปโรงเรียนแล้วพันนีก็ไปทำงานพิเศษในร้านกาแฟของบุษบาที่อยู่ห่างจากโรงเรียนของน้องอินแค่หนึ่งป้ายรถเมล์และเป็นร้านกาแฟเพื่อนของอรินดาที่เปิดในย่านโรงเรียนเอกชนชื่อดังและขายดีมากเพราะพ่อแม่ของนักเรียนมักจะไปนั่งดื่มกาแฟทานขนมนมเนยรอรับลูกๆของตัวเองและเลิกงานเวลาสิบสี่นาฬิกาครึ่งเพื่อไปรับน้องอิน
วันหยุดถัดมา
อรินดากับลูกชายพร้อมด้วยพี่เลี้ยงและบุษบาก็พากันไปเที่ยวสวยสัตว์ตามที่น้องอินขอให้แม่พาไปแล้วเด็กน้อยก็ชอบมากพูดไม่หยุดปากก่อนจะแวะทานอาหารกลางวันเมื่ออิ่มแล้วน้องอินก็ไปวิ่งเล่นกับเด็กๆที่พ่อแม่พามาเที่ยวและแวะทานอาหารที่ร้านอาหารในสวนสัตว์มีสนามหญ้าและของเด็กเล่นในร่มให้เด็กๆส่งเสียดังเจี๊ยวจ๊าวแต่ไม่มีใครรำคาญทุกคนมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
“แกสนใจจะเปลี่ยนงานหรือเปล่าอิ๋น” บุษบาสาวหมวยลูกผสมจีนกับอีสานฐานะดีมีอันจะกินทั้งสองเจอกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยและคบหากันมาจนถึงทุกวันนี้ก็สิบปีแล้วและยังมีเพื่อนอีกสองคนที่สนิทกันและอยู่กลุ่มเดียวกันและรู้เรื่องของอรินดาดีที่สุด
“ที่ไหนอ่ะแก แล้วงานอะไร” ตอนนี้เธอทำหน้าที่ผู้ช่วยเลขาของบริษัทใหญ่ทั้งที่จบการตลาดทำหน้าที่วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดแต่ถูกเจ้านายเสนอให้มาเป็นผู้ช่วยเพราะมีปฏิญาณไหวพริบดีและเก่งภาษาซึ่งเธอพูดได้สามภาษาคืออังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เพราะความชอบ
“บริษัทของพี่ชงโคน่ะสิ ตอนนี้แฟนนางจะไปทำงานที่เยอรมันแล้วนางต้องไปด้วยเพราะกลัวสามีของนางมีกิ๊กกั๊กน่ะ เจ้านายก็เลยให้หาเลขาคนใหม่ให้และเทรนงานให้ก่อนจะลาออก ฉันก็นึกถึงแกก็เลยมาถามก่อนที่พี่ชงโคจะติดป้ายประกาศรับสมัครน่ะ”
“ใช้เส้นสายจะดีเหรอแก ฉันกลัวจะทำให้พี่ชงโคสียชื่อน่ะสิ” อรินดาตอบเพื่อนเพราะเธอไม่ได้จบสายตรงแค่จับพลัดจับพลูมีเจ้านายใจดีส่งเสริมเท่านั้น
“แกทำได้ ลองไปคุยก่อนมั้ยล่ะ ถ้าแกคิดว่าไม่โอเคก็ไม่เอา แต่ว่าเจ้านายของพี่ชงโคเป็นผู้หญิงนะเงินก็ดีสวัสดิการก็เยอะและมั่นคง” บุษบาอยากให้เพื่อนได้งานนี้เพราะมันก้าวหน้ากว่าและเงินเดือนก็เยอะมีสวัสดิการอีกเพียบ
“ขอคิดดูก่อนได้มั้ยแก”
“ได้สิ แต่อย่านานนะอีกสามเดือนพี่ชงโคก็จะเดินทางแล้ว”
“ได้ๆ ขอบใจแกมากนะบุษ”
“ไม่เป็นไร ฉันเห็นว่างานดีก็อยากให้แกทำน่ะ” บุษบาตอบเพื่อนและคิดว่าอรินดาต้องชอบงานนี้แน่เพราะเจ้านายเป็นผู้หญิงและใจดีอีกด้วย
จากนั้นสองสาวก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยและบ่นถึงเพื่อนทั้งสองที่ไปทำงานต่างจังหวัดยังไม่มีใครกลับกรุงเทพ ก่อนจะพากันกลับบ้านเพราะน้องอินเล่นสนุกจนแบตหมดถึงได้ยอมกลับ
ที่เกาะกูด
สวรรค์ของนั่งเที่ยวมีหาดทรายขาวละเอียดสวยงามตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าอ่อนไล่ระดับไปตามความลึกของน้ำทะเลก็เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆจนกลายเป็นสีเขียวมรกตสะท้องแสงดวงอาทิตย์ระยิบระยับเป็นเกลียวคลื่นม้วนตัวสาดซัดเข้าฝั่งตลอดเวลายิ่งดูยิ่งเพลิดเพลินทุกคนที่มาที่นี่ต่างก็ชื่นชอบความสวยงามและเงียบสงบมีความเป็นส่วนตัวสูงและราคาก็แพงเดินทางสะดวกด้วยเครื่องบินเล็กจากสนามบินสุวรรณภูมิตรงไปเกาะกูดแล้วส่วนมากก็จะมีแต่พวกเศรษฐี ดารา นางแบบนายแบบนักธุรกิจนักการเมืองและไฮโซมาเที่ยวพักผ่อนกันเท่านั้น
“พอร์ชคะ แนนนี่ไม่อยากเล่นน้ำแล้วค่ะ” นิวารินพูดเสียงหวานออดอ้อนแฟนหนุ่มที่ใส่แค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียวอวดเรือนร่างแข็งแกร่งด้วยมัดกล้ามสุดเพอร์เฟคและสิ่งที่ซ่อนอยู่ในกางเกงว่าน้ำตัวจิ๋วมันทำให้ปากคอเธอแห้งผากเพราะอยากลิ้มลองมันทั้งที่เมื่อคืนก็ฟาดฟันกันไปหลายยกและเมื่อเช้าก็ต่ออีกสองยกพอตื่นมาก็ไม่เห็นเขาจึงเดินตามหาเห็นเขานอนบนเตียงอาบแดดริมสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงระบียงห้องหันหน้าออกทะเลเหมาะแก่ทำกิจกรรมเข้าจังหวะโดยไม่มีใครเห็นและวิลล่าหลังถัดไปก็อยู่ห่างกันพอสมควร
“ยังมีแรงเอาอีกเหรอแนน ผมว่าคุณไปกินอาหารเช้าก่อนดีมั้ย” ชายหนุ่มพูดแล้วยิ้มให้แฟนสาวที่เข้ากันได้ดีเรื่องเซ็กส์
“พอร์ชน่ากินกว่าอาหารเช้าอีกค่ะ” นิวารินพูดจบก็นั่งลงบนเตียงอาบแดดแล้วลูบไล้ต้นขาแกร่งขึ้นลงไปมาทั้งสองข้างและรู้ดีว่าพฤทธิ์ชอบแบบไหน
“เมื่อเช้าก็กินไปแล้วไม่ใช่เหรอ” พฤทธิ์พูดแล้วจับมือของเธอมาวางบนกางเกงว่าน้ำที่เจ้าตัวร้ายของเขานอนสงบนิ่งอยู่และนิวารินสามารถทำให้มันตื่นได้
“แนนนี่ยังไม่อิ่มเลยค่ะพอร์ชขา” สาวสวยลูบไล้ความแข็งแกร่งนอกร่มผ้าไปมาก่อนจะสอดมือเข้าไปในกางเกงว่ายน้ำแล้วบีบขยำมันเบาๆ