บทย่อ
เหมันต์เจ้าของไร่ชาที่รักในชีวิตโสดเป็นที่สุดแต่กลับดันมามีใจให้กับลูกสาวเพื่อนแม่ ที่รักการทำขนมมากที่สุดในชีวิต แต่เขาก็เลือกที่จะปากแข็งและทำทุกอย่างตรงข้ามหัวใจ ******************************************** ความรักที่ไม่ชัดเจน ก็ไม่มีค่าพอที่รั้งอีกฝ่ายให้อยู่ได้ ถ้ารักเป็นเพียงแค่คำพูดแต่มันไม่เคยถูกแสดงผ่านการกระทำ ***************** “เอาไงเอากันวะ ต้องคุยให้รู้เรื่อง ดูสิถ้าเป็นผัวเมียกันแล้วจะกล้าไปไหนอีกไหม” ห้องนอนที่ปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ถูกดันให้เปิดออกกว้างด้วยแรงของชายหนุ่มที่กำลังหึงขึ้นหน้า “ตกลงจะไปจริง ๆ ใช่ไหม” เหมันต์อยู่ดี ๆ ก็ถามคำถามที่คนฟังยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะทิพย์นารียังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับลุลา หญิงสาวหันมามองหน้าคนถามลับหันกลับไปนั่งพับผ้าต่อ ยิ่งสร้างอารมณ์ความโกรธให้กับเหมันต์ให้รุนแรงขึ้น ร่างหนาโถมเข้าใส่คนร่างเล็กที่กำลังนั่งพับผ้าโดยไม่รู้ตัวว่าจะโดนอีกฝ่ายทำรุนแรงใส่ เหมันต์จัดการผลักร่างบางนอนลงกับเตียงนอน โดยที่ตัวเขาเองลืมไปเลยว่าประตูห้องยังปิดไม่สนิท ลุลาได้แต่พยายามใช้มือปัดป้องตัวเองจากการบุรุก โดยที่เธอยังคงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดี ๆ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ทำท่าโมโหและทำกับเธอแบบนี้ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกดึงออกจากกันกระดุมทุกเม็ดหลุดออกจากตัวเสื้อ กางเกงขาสั้นถูกถอดโดยง่ายทั้งที่เจ้าตัวก็ขัดขืนเต็มกำลัง ชายหนุ่มซุกไซ้ซอกคอยาว สองมือจับมือของลุลาขึงไว้กับที่นอน เมื่อปากหนาสัมผัสกับเรือนร่างของหญิงสาว ลุลาก็เป็นเหมือนเทียนที่ถูกไปแล้วหลอมละลาย เสียงของคนไม่เต็มใจดังจนทิพย์นารีต้องเดินออกจากห้องมาดู แต่ตอนนั้นคนตัวเล็กก็อ่อนระทวยไปหมดแล้ว คนเป็นแม่ที่เคยผ่านรสชาติแบบนี้มาก่อนแล้ว ทำได้แค่ปิดประตูให้สนิทด้วยเสียงที่เบาที่สุด ***หากเปรียบฉากรักของทั้งคู่เป็นเหมือนภาพยนตร์ ก็คงเป็นหนังสงครามที่ยิงกันได้ทั้งวัน***
1 ฤดูรักไร่เหมันต์
ตอนที่ 1
ดื้อ
ลุลาคุณหนูลูกสาวคนเดียวของอธิบดีคนดัง เธอโตมากับการโดนตามใจ เพราะบิดาของเธอ รอคอยการมีลูกมานานเกือบสิบปี พอมีเธอขึ้นมา จรูญจึงรักและดูแลเธออย่างแก้วตาดวงใจ อยากได้อะไรต้องได้ แหมแต่จันทร์จิราเป็นแม่แท้ ๆ ยังไม่กล้าขัดใจเลย
จรูญเป็นฝ่ายตามใจลูก แต่ลุลากลับไม่เคยกลัวเขา เธอกลัวจันทร์จิรามากกว่า เธอจะเข้าหาพ่อก็ต่อเมื่อต้องการอะไรหรือโดนใครขัดใจเท่านั้น
ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อลุลาสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในคณะคหกรรมซึ่งคนเป็นพ่อไม่เห็นด้วยและพยายามทั้งข้อร้องและบังคับแต่ก็ไม่มีผล
“ลุลาขอเรียนที่ชอบเถอะค่ะ คุณพ่อก็รู้ว่าลูกไม่ได้เป็นคนเรียนเก่ง ถ้ายิ่งไปเรียนที่ไม่ชอบอีกมีหวังไม่จบแน่ ๆ ”
จรูญพูดจนไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เขาได้แต่นั่งทำท่าทางเสียใจเพื่อหวังว่าลูกสาวของเขาจะเห็นใจเขาบ้าง แต่มันกลับไม่ได้ผล
จันทร์จิราได้แต่ปลอบใจสามี เพราะเธอรู้ว่าที่ลุลาไม่ฟังใครแบบนี้ก็เป็นเพราะตัวสามีเธอเองที่ตามใจมาตลอด
“ให้ลูกเรียนที่เธอชอบดีแล้วค่ะ เพราะถ้าลุลายอมทำตามใจเราแต่สุดท้ายเรียนไม่จบเราจะเสียใจยิ่งกว่า บางครั้งการเรียนคหกรรมก็อาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิดก็ได้ อย่าคิดมากนะคะ”
จรูญมองลูกสาวตั้งแต่เข้าปีหนึ่งจนตอนนี้เธออยู่ปีสามแล้ว ไม่มีวันไหนที่ลูกสาวของเขาไม่มีความสุขเลย ลุลาจะมีขนมและของกินของประเทศต่างมาฝากพ่อกับแม่เสมอ ซึ่งก็เป็นฝีมือการทำของเธอเองทั้งนั้น
“อร่อยมากเลย ไว้วันหลังพ่อประชุม จ้างลุลาจัดเบรกให้พ่อดีกว่า”
จรูญส่งเสริมลูกสาว เพราะอยากให้คนในกระทรวงได้ชิมฝีมือของลูกสาว เพราะเขาตั้งใจว่าถ้าลุลาเรียนจบจะให้ไปทำงานฝ่ายอาหารที่กระทรวง
วันที่จรูญรอคอยก็มาถึง ในที่สุดยอดดวงใจของเขาก็เรียนจบคนเป็นพ่อจึงตัดสินใจที่จะพูดเรื่องเส้นทางชีวิตต่อจากนี้กับลูกสาว
“ลุลาลูกอยากจะเรียนต่อปริญญาโทไหม พ่อจะส่งไปเรียนที่เมืองนอก จะได้กลับมาเป็นเชฟดังไปเลย”
“คงไม่ไปค่ะคุณพ่อ ลุลาว่าจะหาเรียนต่อที่เมืองไทยเรียนแบบเป็นคอร์สสั้น ๆ ก็พอค่ะ ลุลาว่าจะไปสมัครงานตามร้านกาแฟดัง ๆ ที่เขามีขนมขายเพื่อเก็บประสบการณ์ ไว้พร้อมเมื่อไหร่ก็จะเปิดร้านเป็นของตัวเอง”
จรูญเริ่มมีสีหน้าตึงเครียดทันที เมื่อรู้ว่าลูกสาวของเขาทำท่า จะเลือกทางเดินให้กับชีวิตเองอีกแล้ว
“ลุลาพ่อตามใจลูกมาตลอดตั้งแต่ลูกเกิด พ่อขอนะครั้งนี้ ลูกต้องไปทำงานในกระทรวงกับพ่อ เพราะพ่อจะได้หาทางบรรจุลูกเข้าเป็นข้าราชการก่อนที่พ่อจะเกษียณอย่างน้อยลูกจะได้มีอาชีพที่มั่นคง แล้วถ้าอยากเปิดร้านค่อยว่ากัน”
จันทร์จิรายืนฟังพ่อลูกคุยกันอยู่ห่าง ๆ โดยที่เธอเลือกที่จะไม่เข้ามา อยากรู้ว่าลูกสาวจะดื้อกับบิดาอีกไหม
“คุณพ่อคะ ลุลาเกลียดที่สุดเลยระบบเส้นสายและที่สำคัญลูกไม่ชอบการเป็นข้าราชการ มันมั่นคงแต่มันคือการย่ำอยู่กับที่ ลูกอยากหาประสบการณ์และสุดท้ายคือลูกอยากเป็นเจ้านายตัวเอง”