มีหวัง(2)
อัศวินตัดสินใจขับรถกลับบ้านพร้อมหัวใจที่แสนจะเหงาและว้าเหว่ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาแค่เพียงไม่นานแต่ใครจะรู้ว่ามันกลับสร้างความรู้สึกที่แสนผูกพันฝังตราตึงหัวใจของเขาจนถึงทุกวันนี้
ชายหนุ่มอดโทษตัวเองไม่ได้ถ้าคืนนั้นเขาไม่ปล่อยร่างกายให้ทำตามเสียงของหัวใจจนความสัมพันธ์กับศรุดาป่านนี้เธอก็คงอยู่ข้าง ๆ เขาหรือถ้าตัวเขาเองสำนึกผิดและจัดดารเรื่องทุกอย่างได้เร็วกว่านี้ศรุดาก็คงไม่หนีเขาไปไกล
“คุณพ่อจำทางไปไร่ของบ้านศรุดาไหมครับผมเคยไปก็จริงแต่ตอนนั้นก็ยังเด็กมากจำทางไม่ค่อยได้”
อัศวินเดินลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้านเข้ามาพูดคุยกับบิดาที่กำลังนั่งกินอาหารเช้าด้วยท่าทางดูมีความหวังเพราะอยู่ดีๆเมื่อคืนนี้เขาก็คิดขึ้นได้ว่าควรจะเริ่มต้นตามหาหญิงสาวจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดและนั่นก็มีแค่เพียงไร่ทอฝันเท่านั้น
“เคยไปแค่ครั้งเดียวพร้อมลูกนั่นแหละและอย่าถามพ่อนะว่าอยู่ที่ไหนพ่อจำไม่ได้หรอกแต่ถ้าลูกอยากจะรู้ พ่อถึงที่บริษัทจะจะให้เลขาช่วยหาข้อมูลและจะถ่ายรูปที่อยู่ส่งมาให้”
คนเป็นพ่อถึงแม้จะรู้สึกสงสัยในสิ่งที่ลูกถามแต่ก็ไม่อยากถามอะไรมากมายเพราะต่างคนต่างก็โตกันแล้วไม่อยากให้ลูกคิดว่าคนแก่อย่างเขากำลังเข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของวัยรุ่น
“มัวแต่ถามเรื่องของคนอื่นแล้วเรื่องของตัวเองล่ะลูก กลับมาจากเรียนแล้วก็คงถึงเวลาต้องทำงานไม่ใช่จะขับรถไปรถมาแบบนี้ พ่อให้เวลาพักผ่อน 1 เดือนแล้วเข้าไปเริ่มงานที่บริษัทเลยนะ พี่ชายของเราเขาเองก็กำลังจะแต่งงานอีกหน่อยก็คงไม่ค่อยมีเวลาถ้าไม่ช่วยกันพ่อจะขายหุ้นให้คนอื่น บริษัทใหญ่โตพ่อเองก็อายุมากขึ้นทุกวันถ้าลูกไม่อยากได้ก็จะได้ขายเอาเงินมาฝากธนาคารไว้ใช้ยามแก่”
อานนท์ยื่นคำขาดกับลูกชายความจริงแล้วเรื่องนี้คนเป็นพ่อได้พูดตั้งแต่เมื่อครั้งที่อัศวินยังอยู่ต่างประเทศว่าทันทีที่อัศวินกลับมาถึงประเทศไทยจะต้องมาสานต่องานที่บริษัททันทีเพราะพี่ชายคนโตกำลังจะแต่งงานและตอนนี้ก็มีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเองด้วยแล้วจึงไม่มีเวลาให้บริษัท
คนใจร้อนเดินไปเดินมามองแต่หน้าจอโทรศัพท์เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่บิดาของเขาจะส่งที่อยู่ไร่ของศรุดามา อัศวินตัดสินใจที่จะออกเดินทางทันทีถ้าเขาที่อยู่มาเพราะเวลาหนึ่งเดือนที่เขายังคงว่างงานอยู่มันดูน้อยนิดกับการตามหาใครสักคนแบบไร้จุดหมายและเขาไม่อยากเสียเวลาอีกเพราะเกือบหกปีที่ผ่านมามันก็ยาวนานเกินไปแล้ว
“ขอบคุณครับพ่อ”
ชายหนุ่มกำโทรศัพท์แนบกับอกแน่นในที่สุดเขาก็ได้ที่อยู่ไร่ของศรุดา ไร่ทอฝันอยู่ไกลจากที่นี่หลายร้อยกิโลเมตรเรียกได้ว่าเขาต้องเดินทางเกือบทั้งวันกว่าจะถึง อัศวินลงมือเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าทันที เขายังไม่กล้าโทรบอกทั้งพ่อและแม่จึงตัดสินใจว่าเมื่อไหร่ที่เดินทางออกจากกรุงเทพฯถึงจะค่อยส่งไลน์มาบอกบุพการีทั้งสองคน
หนุ่มนักเรียนนอกหัวใจพองโตขับรถไปยิ้มไปเปิดเพลงฟังอย่างมีความสุขถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้เลยก็ตามว่าปลายทางที่กำลังเดินทางไปจะทำให้เขาผิดหวังหรือสมหวังแต่อัศวินรู้แค่เพียงว่าอย่างน้อยชีวิตของเขาก็มีหวังขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้ทุกอย่างสายเกินไปเหมือนเมื่อหกปีที่แล้ว
อัศวินขับรถออกจากกรุงเทพฯเกือบสี่ชั่วโมงแต่ก็ยังคงไม่ถึงครึ่งทางที่เขาจะมุ่งหน้าไปยังไร่ทอฝัน ไร่ของหญิงสาวที่ขโมยหัวใจของเขาไป ชายหนุ่มตั้งใจตอนแรกว่าจะไม่แวะพักค้างคืนที่ไหนจนกว่าจะขับรถถึงตัวจังหวัดที่ไร่แห่งนั้นตั้งอยู่เพราะต้องการเดินทางแต่เช้าไปยังไร่ที่อยู่บนดอยสูงแต่ร่างกายที่ไม่ค่อยคุ้นชินกับสภาพอากาศและไม่ค่อยคุ้นชินกับการอดนอนจึงทำให้อัศวินต้องยอมยกธงขาวและพักค้างคืนก่อน
รีสอร์ทแสนธรรมดาที่ตั้งอยู่ข้างทางถนนใหญ่ถูกเลือกเป็นที่พักสายตาในค่ำคืนนี้แต่ด้วยความตื่นเต้นชายหนุ่มแม้จะพยายาม ข่มตาให้หลับแค่ไหนมันก็กลับนอนยิ่งนอนไม่หลับเขาจึงเลือกที่จะเปิดดูรูปภาพเก่า ๆ ในเฟซบุ๊กที่เขากลับศรุดาเคยมีความทรงจำร่วมกันถึงแม้ว่าตอนนี้หญิงสาวจะไม่ได้ใช้บัญชีนี้แล้วก็ตาม
“เธอไปอยู่ไหนนะยายหมูหน้าทะเล้น”
ชายหนุ่มเปิดดูรูปภาพครั้งนี้ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากครั้งอื่น ๆ เพราะเมื่อตอนที่อยู่ต่างประเทศเขาก็มักจะเปิดความทรงจำเหล่านี้ขึ้นมาดูประจำพร้อมด้วยหยดน้ำตาแห่งความพ่ายแพ้น้ำตาของลูกผู้ชายที่คิดถึงอดีตที่ตัวเองเป็นคนทำลายทุกอย่างแต่วันนี้รอยยิ้มกลับปรากฏบนใบหน้าที่หล่อเข้มเพราะอัศวินกำลังรู้สึกมีความหวังที่จะได้เจอสาวน้อยเพื่อนสนิทที่ตอนนี้เขาอยากให้เธอเป็นมากกว่าเพื่อนแล้ว
อัศวินตื่นนอนมามองนาฬิกาที่ติดอยู่ที่ผนังเขารีบลุกด้วย ความตกใจเพราะเมื่อคืนกว่าที่จะนอนหลับสนิทก็เกือบเช้ามืดจึงเผลอตื่นสายจนเกือบถึงเวลาของอาหารกลางวัน
การเดินทางที่แสนยาวนานของคนที่กำลังมีความหวังทำให้อัศวินไม่รู้สึกเหนื่อย ถึงแม้ชายหนุ่มยังคงต้องขับรถอย่างต่อเนื่องอีกเกือบ 5 ชั่วโมงถึงจะเข้าเขตอำเภอที่ไร่ของศรุดาตั้งอยู่
บรรยากาศข้างทางทำให้เขาคิดถึงความสงบของชนบทในประเทศอังกฤษที่เขาเคยไปขับรถเล่นกับเพื่อนๆและมันทำให้เขาคิดถึงสัญญาที่เคยให้ไว้กับศรุดาว่าจะไปซื้อที่ดินอยู่ใกล้ ๆ ไร่ของเธอ
พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน GPS บอกระยะทางที่เหลือว่าต้องใช้เวลาเดินทางอีกเกือบ 3 ชั่วโมงคืนนี้ชายหนุ่มจึงตั้งตัดสินใจพักค้างคืนในตัวเมืองอีกครั้ง
โรงแรมหรูกลางตัวจังหวัดถูกเลือกให้เป็นที่พักในคืนนี้เพราะอยู่ใกล้กับถนนคนเดินที่คงจะทำให้คนที่กำลังตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเจอพรุ่งนี้ได้เดินเล่นเพื่อผ่อนคลายความรู้สึก
อัศวินเดินไปเดินมาหลายรอบจนถึงรอบสุดท้ายที่แม่ค้าในตลาดเริ่มทยอยเก็บของกลับบ้านสายตาของเขาก็ไปสะดุดตากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขารู้สึกคุ้นแต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินไปหาเธอชายหนุ่มก็ถูกเด็กน้อยวิ่งมาชนและร้องไห้เสียงดังเมื่อเด็กน้อยคนนั้นก้มลงมองที่เข่าตัวเองแล้วเห็นเลือด
“ขอโทษด้วยนะคะพอดีลูกวิ่งหนีจับไม่ทัน”
แม่ของเด็กรีบเดินมาอุ้มตัวลูกสาวและรีบขอโทษชายหนุ่มอัศวินส่งยิ้มอย่างใจดีให้ก่อนที่เขาจะรีบพยายามมองหาว่าหญิงสาวที่เขาแสนคุ้นหน้าเพื่อมองว่าเธอเดินหายไปทางไหนแต่กลับไม่พบแม้แต่เงา
ชายหนุ่มหลับตาพยายามคิดภาพผู้หญิงที่เขาเห็นเมื่อครู่ภาพจำที่ฝังอยู่ในหัวใจก็แจ่มชัดขึ้นมาอัศวินนึกขึ้นได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนั้นเหมือนกับศรุดานั่นเอง