บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 เดือดแทน

“ท่านพี่ ลูกสาวยังไม่ประสา อย่าถือสาหาความนางเลยเจ้าค่ะ นางเคยได้รักอย่างท่วมท้น คงจะเสียใจที่จู่ ๆ ท่านพ่อก็พาน้องสาวเข้ามาอีกคน

หลินเอ๋อร์ จึงตั้งตัวไม่ทัน เสียมารยาทเอ่ยต่อว่าต่อขานบิดาเช่นนี้” น้ำเสียงปราศรัยแต่วาจาที่พูดออกมานั้นเชือดเฉือนอีกฝ่ายอย่างเลือดเย็น

เมิ่งลู่หลินยืนลอบกำหมัดแน่น ใต้เสื้อแขนกว้างของนาง ใบหน้ายังคงจะไม่พอใจสักเท่าไหร่ นางอ่อนแอเสมอ บิดาสอนสั่งอะไร นางมิเคยโต้แย้งสักครึ่งคำ

แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน เพียงเท่านี้ย่อมรู้แล้วว่าบิดารักสตรีน้อยนางนี้มากกว่านางแล้ว นางมิได้อิจฉา แต่ที่พูดก็เพื่อรักษาหน้าของมารดาที่เป็นฮูหยินเอก

ตอนนี้ก็ป่วยกระเสาะกระแสะนอนอยู่บนเตียง สาวใช้ก็เพิ่งจะรายงานว่าท่านแม่ทั้งเสียใจและขอหย่า นางมิอยากจะให้เกิดเรื่องเช่นนี้ เหตุใดบิดามิฟังความนางบ้าง

“เจ้าเห็นหรือไม่ แม่รองกับน้องสามไม่ถือโทษโกรธเจ้า ยังไม่รีบขอบคุณพวกนางอีก” คนที่คิดว่าตนเองเป็นใหญ่ในจวน เอ่ยตวาดเสียงดังลั่น ท่าทางมิได้ลดละแต่อย่างใด กลับเพิ่มพูนความกรุ่นโกรธเข้ามาอีก และเห็นใจภรรยารองกับลูกสาวอีกคนจนสุดหัวใจ

ยามนี้อย่างไรลูกสาวจากภรรยาคนแรกเป็นพี่สาวย่อมต้องเสียสละให้นาง วันนี้ไม่สั่งสอน วันหน้านางจะต้องข่มเหงรังแกน้องเป็นแน่ จึงได้กำราบเอาไว้เนิ่น ๆ จะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง

“ท่านพ่อ ลูกรู้สึกไม่สบายขอตัวกลับเรือนก่อนเจ้าค่ะ เชิญพวกท่านทั้งสองตามสบาย” เมิ่งลู่หลินไม่อยากจะพูดอีกแล้ว จึงได้บ่ายเบี่ยง นางไม่ผิด มิได้พูดผิดไปสักนิด

“นังเด็กไร้มารยาท กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดดุดันตะคอกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง สองแม่ลูกอรสพิษแสร้งก้มหน้าหลบซ่อนสายตายิ้มเยาะเย้ยอีกฝ่าย ที่อีกฝ่ายถูกดุด่าต่อว่าเช่นนี้

อนาคตพวกนางสองแม่ลูกย่อมสบายมีคนถือหางให้แล้ว ซูฉียืนเท้าเอวคล้ายดั่งแจกันมีหู สีหน้าและท่าทางกระฟัดกระเฟียดไม่น้อยเหมือนมีควันออกหูอย่างไรอย่างนั้นในตอนนี้

“ท่านพ่อ” เมิ่งลู่หลินดวงตาแดงก่ำ นางเสียใจอย่างสุดซึ้ง บิดามิเคยพูดจาว่ากล่าวนางรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ย่อมทำให้เสียใจมาก พลางนึกน้อยใจขึ้นมาอีกครั้ง

ดวงตากลมโตรื้นแดงนั่นมองไปยังสองแม่ลูกที่กำลังส่งยิ้มถากถางมาให้ นางหรือจะต่อกรได้ เห็นทีว่าบิดาจะหลงลูกคนใหม่แล้ว

“ไปนั่งคุกเข่าสำนึกผิดที่หน้าศาลบรรพชน อย่าใจคอคับแคบให้มักมากนัก ไม่เช่นนั้นอย่ามาหาว่าพ่อไร้น้ำใจกับเจ้า อีกอย่าง ขอโทษแม่รองของเจ้ากับน้องสาวด้วย” เมื่อเห็นน้ำตาของลูกสาวคนโต พ่ออย่างเขาก็เจ็บไม่น้อย นางไม่เคยร้องไห้เช่นนี้มาก่อน

ครั้งนี้เขาต่อว่ารุนแรงไป ด้วยเพราะไม่อาจจะภรรยารองและลูกสาวอีกคนถูกตราหน้าหรือ ถูกลูกสาวคนโตกดขี่ในจวนนี้ได้ เขาจะต้องกางปีกปกป้องพวกนางเหมือนแม่ไก่ที่ปกป้องลูกน้อย เขาเพียงแค่อยากจะให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไร้เรื่องราวทะเลาะเบาะแว้ง

เขาปวดหัวกับ ฮูหยินเอกเมียรักมากพอแล้ว และลูกสาวคนโตไม่เชื่อฟังบิดาอีก เขาจะทำอย่างไร

“เจ้าค่ะ ลูกจะไปคุกเข่าแต่ลูกไม่เห็นว่าตนเองจะพูดอันใดผิดไป หากจะให้ลูกเอ่ยกล่าวขอโทษก็เกรงว่าจะไม่ได้ยินคำนั้น ลูกขอตัวเจ้าคะ”

เมิ่งลู่หลินเดินกลับเรือนด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มสองข้าง สาวใช้ข้างกาย อดที่จะสงสารคุณหนู ไม่น้อย แต่นางก็ทำได้แค่เพียงเอ่ยปลอบใจเท่านั้นเอง มิกล้าเอ่ยปากสอดเข้าไปวุ่นวายเรื่องของเจ้านาย

เมื่อมาถึงเรือนนอนของนางแล้ว ก็จัดการถอดชุดสีฟ้าอ่อนออก จากนั้นสวมเพียงชุดขาว เดินไปยังศาลบรรพชนเพื่อนั่งคุกเข่าสำนึกผิด

คำสั่งเหมือนไม่ได้ร้ายแรง แต่ทว่าเข่าของนางมีค่านัก ผิวพรรณของนางผุดผาดผ่องใส ไร้ร่องรอยจุดแดงจุดดำ ใบหน้างดงามเกลี้ยงเกลาเป็นเอกแห่งแคว้น

มารดาภูมิใจนักที่บุตรสาวเพียงคนเดียว ดูงดงามราวกับนางเซียนน้อย ยามแย้มยิ้มก็ชวนให้หลงใหล ยามหน้าบึ้งตึงก็ยังดูน่ารัก ในสายตาของมารดา ไม่ว่าลูกสาวจะทำอันใดล้วนงดงามไปเสียทุกอย่าง กิริยามารยาท ความรู้นั้นครบถ้วน

“คุณหนูจะไปคุกเข่าจริง ๆ หรือเจ้าคะ” อาจิน สาวใช้เอ่ยถามขึ้น นางเดินตามหลังต้อย ๆ ของผู้เป็นนาย

เห็นความเสียใจเบื้องหน้าของนายสาว ก็มิอาจจะแบ่งเบาความเศร้าโศกนี้ได้ จึงทำได้แค่เพียงอยู่กับนางในวันที่อ้างว้างเท่านั้น

นึกแค้นเคืองนายท่านใจจะขาด มองไม่ออกหรืออย่างไรกัน สองแม่ลูกนั่นตั้งใจชัด ๆ ทำมาเป็นพูดจารื่นหู แท้ที่จริงแล้วไม่ได้ต่างจากนางจิ้งจอกสักนิด

สตรีพวกนี้ร่างรังเกียจ มักอย่างได้และครอบครองในสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเอง ยิ่งคุณหนูสามดูท่าจะร้ายไม่เอา แสร้งออดอ้อนนายท่าน จนทำให้คุณหนูรองถูกสั่งคุกเข่าเช่นนี้

ย่อมไม่เป็นธรรม!

“คำสั่งของท่านพ่อ ละเลยได้รึ” ยามใบหน้าของเศร้าสร้อย หากใครได้พบก็อดที่จะสงสารคุณหนูผู้งดงามราวกับนางเซียนไม่น้อย

ดวงตากลมโตมีแววที่หม่นหมองไม่น้อย ริมฝีปากอวบอิ่มเรียบนิ่งเป็นเส้นตรง สีหน้ายังคงเฉยเมยกับเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจ

บิดาไม่รักและไม่เห็นใจ ยังไม่เท่ากับนำสตรีพวกนั้นเข้ามาสร้างความวุ่นวายปั่นป่วน จวนที่เคยเงียบสงบสุข ต่อแต่นี้คงจะหนีไม่พ้นเรื่องวุ่นวายเป็นแน่

นางไม่อยากจะก่อเรื่องวุ่นวายให้บิดาและมารดาลำบากใจ เช่นนั้นต่อแต่นี้จะทำดีกับพวกนางสักหน่อย เห็นใจน้องสาวต่างมารดาให้มาก พวกนางคงจะลำบากมาไม่น้อย

ซูฉีเดินกลอกกลิ้งตาไปมาอย่างไม่พอใจที่เห็น เมิ่งลู่หลินนั้นแสนดีเกินกว่าจะเยียวยา หากเป็นเธอจะไม่มีวันไปนั่งคุกเข่าอย่างเด็ดขาด คนที่จะไปนั่งตรงนั้นคือสองแม่ลูกจอมตอแหล เจ้าน้ำตาต่างหากเล่า

“หากว่าคุณชายใหญ่กลับมา ย่อมไม่พอใจแน่เจ้าค่ะ” อาจินเอ่ยเสียงแผ่วเบา นางสงสารคุณหนูจับใจเกรงว่าหากนั่งคุกเข่าจนนานไปจะทำให้เข่านั้นฟกช้ำและไม่น่ามองก็เป็นได้

แต่ไหนแต่ไรมาฮูหยินมิเคยจะเอ่ยปากลงโทษให้คุณหนูไปนั่งสำนึกผิด ผิวพรรณของคุณหนูงดงามออกปานนี้ หากเกิดรอยบวมช้ำอาจไม่งาม เสียดายผิวที่งดงามจริง ๆ หากเป็นไปได้ สาวใช้เช่นนางอยากจะนั่งตรงนั้นแทน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel