บทย่อ
“คนที่ข้ารักมีเพียงชายผู้นั้น คนที่ช่วยเหลือข้าแค่ครั้งแรก และเขาก็ได้หายไปแล้ว เขาเป็นแค่ภาพมายา ส่วนท่าน....ท่านมันก็แค่บุรุษมากเล่ห์ รู้เอาไว้” หญิงสาวมัวแต่หลับหูหลับตาและพูดพร่ำโดยไม่มองสีหน้าคนฟังแม้แต่น้อย ไม่รู้เลยสักนิดว่ายามนี้ชายหนุ่มเหนือร่างกำลังทำสีหน้าอย่างไร ยิ้มกว้างแค่ไหน
ตอนที่ 1 ภารกิจเพื่อสาวใช้ร่างอวบ 1
สตรีร่างระหงนางหนึ่งกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงนอน
เรือนกายของนางเปล่าเปลือยไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม นางขยุ้มผ้าปูเตียงด้วยฝ่ามือน้อยๆ ที่กำลังสั่นเทา สายตาคู่สวยของนางกำลังเหลือบมองที่ชายหนุ่มผู้หนึ่ง เขากำลังก้มหน้าก้มตาละเลียดชิมเนินเนื้ออวบอิ่มตรงทรวงอกนาง
“ข้ารักเจ้า” เสียงของชายหนุ่มแตกพร่ายามเอ่ยคำพลางเข้มเม้มตรงเนื้อนูนเต่งตึง
“ข้ารักเจ้าเหลือเกิน เพ่ยเอ๋อร์”
หญิงสาวผู้ถูกบอกรักพร้อมกับถูกกลืนกินเนินเนื้อหยุ่นนุ่มครางรับเสียงหวาน
“ข้าก็รักท่านเช่นกัน หากแต่ท่าน”
นางกล่าวได้แค่เท่านั้น ริมฝีปากของนางก็ถูกประกบปิดด้วยกลีบปากของชายเหนือร่าง ตามด้วยช่วงกลางลำตัวถูกรุกล้ำฝังร่างอย่างเร่าร้อน
“อ๊ะ!” นางถึงกับร้องออกมาจนริมฝีปากที่กำลังถูกดูดกลืนเลื่อนหลุด
ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกจากนางพลางกัดฟันจนสันกรามนูนแล้วเอ่ย “ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดอะไร ข้ารักเพียงเจ้า สตรีนางอื่นข้าหาได้สนใจไม่”
จบคำแหบพร่าก็เริ่มจังหวะเสียวซ่านจนร่างงามสะท้านขึ้นลงรุนแรง
“แต่ว่า...อา” หญิงสาวแหงนหน้าหลับตาแต่ปากยังคงเปล่งวาจาแม้ครวญคราง
“นางเป็นภรรยาเอกของท่าน อ๊ะ”
“แล้วอย่างไร” เขาถามกลับเสียงแหบห้าวข้างแก้มนาง “สตรีที่ข้ารักหมดใจย่อมเป็นเจ้า”
“ข้าก็แค่สาวใช้อุ่นเตียงของท่าน”
นางเอ่ยเถียงพลางเอื้อมมือกอบกุมเอวสอบเขาที่กำลังเคลื่อนไหวไปมาบนกายนาง
“ข้าจะเลื่อนฐานะเจ้าขึ้นเป็นอนุคนสำคัญ”
ชายเหนือร่างกล่าวคำพร้อมก้มหน้าลงต่ำกดลงที่ซอกคอขาวผ่องแล้วดูดเม้มด้วยปลายลิ้นร้อนชื้น ลมหายใจร้อนลวกรินรดเป่าใบหูนางจนอุ่นซ่านไปหมด
“อนุหรือ? หึ!” นางแค่นเสียงในลำคออย่างไม่พอใจยามบิดตัวเร่าๆ ด้วยความเสียวสะท้าน
“เอาเถิด เจ้าอย่าได้กังวล” เขาอมยิ้มกรุ่มกริ่มแล้วก้มลงกดจูบนางตามแรงอารมณ์ที่มี
หญิงสาวยอมให้ชายหนุ่มดูดกลืนเรียวปากจนพอใจพร้อมกับขยับกลางกายตอบรับเขาอย่างเข้าจังหวะร้อนแรงที่เขามอบให้ สายตาของนางทอประกายหยาดเยิ้มยั่วยวน
ยามเขาปล่อยกลีบปากนางออกไปแล้วไล่กัดเม้มไปตามพวงแก้ม นางจึงขยับริมฝีปากบวมช้ำเอ่ยคำเสียงหวานสั่นเครือ “ข้ามิกล้า” กล่าวจบก็เอียงหน้างอง้ำหลบสายตาร้อนแรงของชายเหนือร่างอย่างมีจริตมารยา
“อ่า...ฮูหยินรองเป็นไร หืม...ฮูหยินรองของข้า”
ชายหนุ่มเอ่ยคำหวานล้ำด้วยอารมณ์กระสันเต็มขั้น แล้วก้มหน้าก้มตาบอกรักนางด้วยลีลาเหลือร้าย ครอบครองนางอย่างร้อนแรงถึงใจจนขาเตียงโยกโยน
ริมฝีปากของหญิงใต้ร่างพลันยกโค้งอย่างเจ้าเล่ห์ร้ายกาจก่อนจะหลุดเสียงครางดังลั่นยามร่างงามถูกจังหวะเร่งเร้ากระแทกกระทั้นกระชั้นถี่หนักหน่วงไม่มีออมแรง
ภายในห้องแห่งนี้กำลังมีศึกรักตั้งแต่เมื่อยามค่ำคืนที่ผ่านมา จนย่างเข้าเช้าวันใหม่ล่วงเลยไปกระทั่งเหยียบย่ำเข้ายามเย็นของอีกวัน ทำให้สตรีนางหนึ่งที่มาหยุดยืนอยู่นอกห้องนั้นต้องกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ
บนใบหน้าอ่อนหวานฉายชัดถึงความเจ็บปวด สายตาของนางก็รวดร้าวจนสั่นระริก ให้ความรู้สึกเจ็บแปลบปานมีเข็มนับพันทิ่มแทงตรงกลางใจ
นางคือภรรยาเอกของชายผู้ที่กำลังขึ้นคร่อมบนสตรีอีกคนอยู่ในห้อง
ภรรยาเอกนางนี้หลับตาลงข่มกลั้นความทรมานปางตายที่อัดแน่นในโพรงอกเอาไว้ แล้วกล่าวเสียงเย็นออกมา
“หึ! รักกันมากนักหรือ เช่นนี้อยู่ด้วยกันในนั้นไปจนตายเถิด...”
นางกล่าวพร้อมส่งสายตาให้บ่าวรับใช้นำเชือกมารัดบานประตูห้องให้แน่น ตามด้วยนำแผ่นไม้ขวางหน้าประตูเอาไว้มิให้ใครก็ตามที่อยู่ด้านในออกมาจากเรือนได้อีกต่อไป
เมื่อเสร็จสิ้นการกักขังสามีกับหญิงคนรักของเขา ภรรยาเอกก็เดินนวยนาดจากไปทันที
ตรงมุมมืดมุมหนึ่งของเรือนหลังนี้ที่กำลังเกิดศึกรักระหว่างสามีภรรยากับสาวใช้อุ่นเตียง พลันมีเงาร่างของคนผู้หนึ่งพรางตัววูบไหวไปมาไร้ร่องรอย
นางคือเสี่ยวชุ่ยหรือนามจริงคือ เจวียนชุ่ย
หญิงสาวเป็นสายลับแห่งบ้านฟงในคราบสาวใช้ร่างอวบ และได้รับหน้าที่มาสืบข่าวยังบ้านหลังนี้ นางกำลังมองทุกคนด้วยสายตาเฉียบขาดคาดการณ์ได้ทุกอย่าง พลางเก็บข้อมูลเอาไว้ด้วยดวงตาหรี่หยีบนใบหน้ากลมผ่อง เพื่อเป้าหมายของการเปิดเส้นทางการค้าสายใหม่ให้คุณชายรอง
และข่าวที่ได้รับในวันนี้ก็ไม่ทำให้นางผิดหวัง
ข่าวว่าประมุขของบ้านกำลังหลงใหลสตรีงดงามนางหนึ่งจนละทิ้งภรรยาเอกที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเนิ่นนานปีตั้งแต่มีแค่ตัวเสื่อผืนหมอนใบ
และสตรีที่สามีกำลังหลงใหลจะโงหัวจากหน้าอกหยุ่นนุ่มไม่ขึ้นนางนี้ก็มิใช่ใคร
นางคือสาวใช้ภายในบ้านนั่นเอง
อันที่จริงการที่สามีจะแต่งภรรยามากกว่าหนึ่งหรือมีอนุหลังเรือนมากมายนั้น นับว่าไม่ผิดทั้งยังเป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่หากเป็นสามีภรรยาที่ร่วมฝ่าฟันกันมา
ทั้งยังมีสัญญาต่อกันว่าจะรักมั่น นั่นจึงผิดมหันต์
และที่สำคัญการละเลยภรรยาคนสำคัญนั้นนับได้ว่าผิดร้ายแรง
ฝ่ายสามีนั้นพอมีเงินมากหน่อยก็หลงระเริงลืมตัวไม่สนใจกิจการ จนฝ่ายภรรยาต้องออกหน้าทำการค้าด้วยตนเองทุกอย่าง เรื่องนี้ยังไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ หากแต่ต่อมาฝ่ายสามีกลับทำพลาด
เมื่อมีเงินมากพอจะรับบ่าวรับใช้เข้าเรือน สามีจึงรับสาวใช้งดงามเข้ามาปรนนิบัติจนไม่ลืมหูลืมตา กระทั่งมัวเมาเสพสมกับสาวใช้จนละเลยภรรยา หลายวันผ่านมาแล้วก็ยังไม่ออกจากเรือนสาวใช้ ทำให้ภรรยาโกรธเคืองเป็นอย่างมาก ถึงขั้นสั่งขังสองชายหญิงนั่นประไร
หากแต่เรื่องนี้ไม่นับว่าเป็นอะไรสำหรับเจวียนชุ่ย เพราะข่าวที่นางสนใจหาใช่เรื่องหลังเรือนเหล่านี้ไม่ แต่เป็นผลพวงผลประโยชน์จากเรื่องเหล่านี้ต่างหาก
ผลพวงที่ว่าก็คือภรรยาเอกนางนี้ได้เตรียมการออกจากบ้านไปยังต่างเมือง โดยการวางแผนขายกิจการทางเหนือเพื่อนำเงินเป็นทุนรอนเดินทางไกล
ส่วนสามีของนางก็แค่ถูกทิ้งเอาไว้กับสาวใช้งดงามให้รักกันจนเน่าตายในเรือนนั่น
และแน่นอนว่า คนที่รู้ข้อมูลก่อนใคร ย่อมต้องได้เข้ามาฮุบซื้อเอาไว้ไม่ยากเย็น
กิจการค้าเครื่องประดับของบ้านนี้ คุณชายรองบ้านฟงย่อมต้องได้ไว้ทั้งหมด หึหึ!
เมื่องานที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้น เจวียนชุ่ยจึงสลัดคราบสายลับกลับไปเป็นสาวใช้ร่างอวบนามว่า เสี่ยวชุ่ย ของจวนตระกูลฟงดังเดิม