บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 กำไลข้อมือ

ท่านประธานใหญ่คือปู่ของหลี่อวี้หานคือผู้อยู่เบื้องหลังธุรกิจทั้งหมด พ่อแม่ของหลี่อวี้หานเกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินจนเสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนที่หลี่อวี้หานอายุได้ห้าขวบ การดูแลหลี่อวี้หานจึงไปตกเป็นหน้าที่ของปู่ทั้งหมด

หลี่อวี้หานเองเป็นคนเก่งฉลาดไอคิวสูงถูกจัดอยู่ในกลุ่มอัจฉริยะตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มเข้ามาเรียนรู้งานในบริษัทตั้งแต่อายุสิบแป็ดปี

นิสัยสุขุมเย็นชารอบคอบ เด็ดขาดเจ้าเล่ห์และเลือดเย็นไม่เคยปราณีคู่แข่งคู่ค้าหรือคู่ต่อสู้ขอแค่เขาไม่ชอบเขาก็สามารถกำจัดได้อย่างเลือดเย็น

ข้อดีของเขาคือเขามองว่าผู้หญิงผู้ชายมีความเท่าเทียมกัน

ในตอนนี้คุณปู่ตระกูลหลี่นั่งจ้องหญิงสาวตรงหน้าที่ท่าทางกำลังครุ่นคิดวิเคราะห์สิ่งที่เขาพูดอยู่นั้นเขาเองก็รู้สึกเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้าไม่น้อย เขาอยู่มาจนอายุปูนนี้แล้วพบเจอผู้คนมามากมายหลายรูปแบบนับไม่ถ้วนเขามั่นใจว่าเขามองคนไม่ผิด เลือกใช้คนไม่ผิดแน่นอนเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า

" เอางี้ผมให้เวลาคุณกลับไปคิดสามวันแล้วมาให้คำตอบผม เมื่อคุณตัดสินใจได้แล้วคุณก็มาให้คำตอบพร้อมกับกระเป๋าเดินทางไปประเทศจีนพร้อมเราทันที "

เรื่องนี้คุณท่านหลี่รอช้าไม่ได้อีกแล้วเพราะหลานชายของเขาอายุครบ30ปีเดือนหน้าพอดี สำหรับเขาอะไรที่ไม่ดีต่อตระกูลควรขจัดทิ้งแม้มันจะทำให้ใจคนเจ็บปวดก็ตาม

เฟิร์นกำลังคิดว่า

เงินสิบล้านเธอสามารถส่งน้องสาวเรียนจนจบ ป.ตรี ได้สบาย แถมยังมีเงินซื้อบ้านให้น้องชายน้องสะใภ้และหลานๆอยู่กันอย่างอบอุ่นได้

และที่สำคัญที่สุดคือเงินจำนวนนี้สามารถซื้อรถซื้อบ้านซื้อที่เลี้ยงพ่อแม่เธอได้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดชีวิตได้โดยไม่ต้องลำบากหาเงินอีก แค่นี้เธอก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้วเพราะข้างหลังเธอมีน้องสาวน้องชายน้องสะใภ้คอยดูแลพ่อแม่แค่นี้เธอก็สบายใจ และเธอสามารถให้เงินเก็บกับแต่ละคนในครอบครัวของเธอได้อีกต่างหาก

[ อืม ทำก็ทำอดทนเอาแค่หนึ่งปี ]

ตอนนี้เธอคิดได้แค่นี้เพราะเธอเองก็เรียนจบแล้วยังไม่ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง

[ ชีวิตที่เหลือไปตายเอาดาบหน้าละกัน ]

เธอคิดคำนวณจัดการวางแผนคนในครอบครัวเสร็จเธอรู้สึกโล่งและตัดสินใจได้ทันทีแต่เธอจะต้องเล่นตัวสักหน่อยเธอจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบเพื่อไม่ให้เขาอ่านความคิดเธอออกเธอเก็บความตื่นเต้นดีใจไว้ในส่วนลึกสุดของใจ แม้จะไม่ใช่สิบสองล้านแบบที่เธอคิดแต่สิบล้านบวกกับระยะเวลาหนึ่งปีก็ถือว่าโชคดีที่สุดแล้ว ส่วนการรับมือกับคุณชายหลี่อวี้หานเธอเตรียมรับมือไว้แล้วงานนี้ได้ป่วนกันจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปวดขมับแน่ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งสนุกจนเผลอหลุดส่งเสียงออกมาในลำคออย่างเจ้าเล่ห์

" หึ หึ ! "

ผู้ช่วยเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรเพลินจนหลุดออกมาแสดงว่าเธอมีความคิดที่ร้ายไม่เบาถึงขั้นส่งเสียงแบบนี้ออกมาผู้ช่วยจึงกระแอมเสียงขึ้นทันที

" อะหื้ม! "

เฟิร์นสะดุ้งทันทีนี่เธอคิดไปไกลแล้วทั้งที่ยังไม่เริ่มงานเลยเธอเรียกสติกลับมาทันที

คุณท่านหลี่จึงเอ่ยถามอีกครั้งด้วยรอยยิ้มว่า

" คุณว่ายังไงจะให้คำตอบเลยหรือลองกลับไปคิดทบทวนก่อน "

เฟิร์นยิ้มขึ้นอย่างบริสุทธิ์และตอบไปว่า

" ดิฉันขอกลับไปคิดดูก่อนนะคะสามวันจะมาให้คำตอบพร้อมเดินทางไปกับคุณค่ะ "

คำตอบนี้คุณท่านหลี่พอใจมากเขารู้ว่าเธอตกลงแล้วแต่เขาอยากรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้านี้เบื้อหลังใบหน้าสวยสดใสน่ารักนี้ยังมีลูกเล่นอะไรมาเสนอกับเขาอีก จึงเอ่ยขึ้นอย่างยิ้มๆ

" อืมได้ๆผมจะรอคำตอบของคุณนะ "

" ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวก่อนนะคะ "

คุณท่านหลี่พยักหน้าอนุญาตเฟิร์นก็เดินออกไปพร้อมกับผู้ช่วยลู่ที่เดินมาส่งเธอพอถึงหน้าประตูผู้ช่วยลู่ก็หยิบนามบัตรออกมายื่นให้เธอ

" นามบัตรผมครับมีอะไรสามารถติดต่อมาได้ทันทีตลอด24ชั่วโมงครับ "

" โอเคค่ะ ขอบคุณมากนะคะไว้ตัดสินใจได้แล้วจะโทรแจ้งทันทีค่ะ "

" ครับเชิญครับ "

พูดจบผู้ช่วยลู่เปิดประตูให้เธอ เธอเดินออกมาอย่างสบายใจและโล่งใจสุดๆวันนี้เธอรู้สึกว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่อีกสวรรค์เมตตาเธอจริงๆเธอเดินยิ้มออกไปอย่างมีความสุข

ผู้ช่วยลู่มองตามหลังหญิงสาวผู้สดใสร่าเริงเฉลียวฉลาดคนนี้แล้วสีหน้าดูไม่ดีขึ้นมาทันทีเพราะเขารู้ดีว่าทุกอย่างมันแค่เริ่มต้น จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าไปหาคุณท่านหลี่ทันที

คุณท่านหลี่เมื่อเห็นผู้ช่วยของตนเองก็เอ่ยขึ้น

" เด็กผู้หญิงคนนี้สวยน่ารักฉลาดมีไหวพริบกล้าหาญไม่ยกย่องคนมีฐานะเป็นเด็กที่มีคุณธรรมพร้อมช่วยเหลือคนอื่นอย่างกล้าหาญดี ดีจริงๆเพียงแต่เธอเกิดมาผิดที่ไปหน่อยน่าเสียดายจริงๆ "

ผู้ช่วยลู่ได้แต่ตอบว่า " ครับ "

เขาอยู่กับคุณท่านหลี่มาตั้งแต่ยังหนุ่มๆทำไมเขาจะไม่รู้นิสัยของคุณท่านหลี่

ทางด้านเฟิร์นเมื่อเธอเดินออกมางานเลี้ยงก็เลิกราบรรดานักธุรกิจต่างทยอยกันกลับออกไปเธอเดินลงมาถึงใต้ตึก เดินเท้าไปตามทางเดินสวนเธอเหลือบไปเห็นเงาของคนในสวนจึงไปแอบดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นพอเห็นว่าสองคนกำลังจูบกันอย่างดูดดื่มเธอถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูกรีบวิ่งหนีออกไปจากพื้นที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

เพราะกลัวจะถูกจับได้จึงวิ่งชนิดไม่สนใจอะไรกำไลข้อมือเธอไปเกี่ยวกับกิ่งไม้จนหลุดจากมือเธอไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว

เสียงรองเท้าของเธอทำให้สองคนที่กำลังจูบกันนั้นหมดอารมณ์ที่จะทำกิจกรรมต่อทันที

" อวี้หานมีคนเห็นเรา "

หลี่อวี้หานรู้สึกหงุดหงิดที่มีคนมาขัดจังหวะแต่เขาก็ไม่แสดงออกมาให้หญิงสาวตรงหน้ารู้สึกได้เขาเอามือไปจับไหล่ของหญิงสาวตรงหน้าอย่างเบามือพร้อมกับเอ่ยอย่างอบอุ่นว่า

" หรงเอ๋อร์ พรุ่งนี้ผมจะพาคุณกลับนะคุณกลับไปรอผมที่ห้องก่อนผมยังมีธุระต้องไปคุยกับคุณปู่ "

หญิงสาวพยักหน้าอย่างเชื่อฟังน่ารักและอ่อนโยนดูแล้วน่าทะนุถนอมที่สุด

" ได้ค่ะ ฉันจะรอคุณนะคะ "

หลี่อวี้หานดึงหญิงสาวเข้ามากอดแล้วจูบไปที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน แล้วหญิงสาวก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในโรงแรมส่วนหลี่อวี้หานเดินไปดูร่องรอยของคนที่มาแอบดูเขา เขาสงสัยว่าเป็นคนที่ปู่เขาส่งมาหรือเปล่า

เขาเดินดูรอบๆก็เหลือบไปเห็นบางอย่างจึงหยิบมันขึ้นมา มันคือกำไลข้อมือสีเงินสลักอักษรตัวเอฟและตัวดับบิวW&Fไว้บนกำไลข้อมือดูก็รู้ว่าเป็นกำไลที่ถูกสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ

การออกแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะมีการฝังเพชรแท้รูปหัวใจไว้ตรงกลางระหว่างตัวอักษรอีกด้วย

" คงเป็นกำไลที่สั่งทำขึ้นมาเป็นคู่สินะ "

เขาคิดว่าเดี๋ยวค่อยไปฝากไว้ที่พนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ของโรงแรมเผื่อเจ้าของจะมาตามหา

ขณะที่พึมพำเขาเผลอยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวและแอบอิจฉาความรักของพวกเขานิดๆโดยไม่รู้ตัว

ในขณะที่กำลังพินิจพิจารณากำไลข้อมือนั้นโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นเขารู้ว่าต้องเป็นปู่เขาแน่นอน

มือข้างหนึ่งรีบรับโทรศัพท์ มือที่ถือกำไลก็เก็บเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้วยความเคยชิน

" ครับคุณปู่ จะไปหาเดี๋ยวนี้ครับ "

พูดจบก็วางสายและรีบเดินขึ้นตึกไปยังห้องของปู่ทันที

เมื่อไปถึงก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างสบายๆ เขาจะเป็นแบบนี้แค่ตอหน้าปู่เขาคนเดียว

" คุณปู่มีอะไรรึเปล่าครับเรียกผมมาในเวลานี้ "

" มีสิถ้าไม่มีจะเรียกแกมาอย่างเร่งด่วนเหรอ "

คุณท่านหลี่พูดขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจเพราะเขารู้ว่าคุณหนูตระกูลหรงตามหลานชายเขามาถึงที่นี่

" คุณหนูหรงนั่นน่ะดูก็รู้ว่าเข้าหาแกมีจุดประสงค์ไม่ดี อีกอย่างเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแออย่างที่เห็น "

หลี่อวี้หานเองก็รู้สึกเบื่อกับอะไรเดิมๆเขาหวังว่าสักวันคุณปู่เขาจะเปลี่ยนความคิดมีทัศนคติที่ดีต่อหรงเอ๋อร์ของเขาแต่เหมือนเขาจะคิดผิด

จากนั้นหลี่อวี้หานก็เอ่ยขึ้นอย่างเบื่อหน่ายและไม่สบอารมณ์ว่า

" คุณปู่ครับผมกับหรงเอ๋อร์เราโตมาด้วยกันเรารู้นิสัยกันดี เธอไม่ได้ไม่ดีอย่างที่คุณปู่คิด ตระกูลเราก็รู้จักกันดีคุณปู่ก็รู้ว่าเราสองคนรักกันมานานแล้วต่อให้คุณปู่หาผู้หญิงทุกคนบนโลกใบนี้มาทุกคนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราวของผมไม่มีทางที่ผมจะไปชอบไปสนใจใส่ใจผู้หญิงพวกนั้นเด็ดขาดนอกจากหรงเอ๋อร์แล้วผมจะไม่รักคนอื่นอีกแล้ว "

คุณท่านหลี่นั่งกุมขมับรู้ว่ายิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งแย่กลัวจะต้องมาทะเลาะกันใหญ่โตกับหลานชายเพียงคนเดียวของเขาเพราะผู้หญิงคนนั้นอีก

ทำไมเขาจะไม่รู้ต้นตระกูลของผู้หญิงคนนี้ดีล่ะเขารู้ดีที่สุดรู้เป้าหมายของตระกูลหรงดีด้วยตระกูลหรงน่ะต้องการเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเขาเขารู้ดีและหลานชายเขาก็รู้ดี แต่เขากลัวหลานชายจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนตระกูลหรงเท่านั้นจนถึงทุกวันนี้เขาเลยต้องอยู่เบื้องหลังคอยคุมอยู่ตลอดไม่วางใจที่จะมอบอำนาจทั้งหมดไปให้หลานชายรับผิดชอบคนเดียวถ้าข้างกายหลานยังมีคุณหนูตระกูลหรงผู้นั้นอยู่เขาไม่สามารถเกษียณตัวเองออกมาพักผ่อนอย่างสบายใจได้

แต่ความจริงหลี่อวี้หานเขาก็รู้ดีว่าตระกูลหรงนั้นมีจุดประสงค์อะไรและเขาสามารถรับมือได้อย่างสบายหรงเอ๋อร์นั้นเขาต้องการไม่อาจสูญเสียได้แต่ธุรกิจเขานั้นคนตระกูลหรงก็เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ได้เช่นกัน

สำหรับเขาหากได้แต่งงานกับหรงเอ๋อร์ตามที่ปรารถนาพ่อตาแม่ยายแล้วยังไงไม่หวังดีคิดไม่ซื่อเขาไม่ลังเลที่จะกำจัดทิ้ง ความเลือดเย็นนี้คุณปู่เขาไม่เคยรู้เพราะสำหรับปู่แล้วเขาคือเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังลุ่มหลงในรสชาติของความสนุก

สุดท้ายคุณท่านหลี่ก็ต้องยอมหลานอีกตามเคยเพราะเขามีหลานเพียงคนเดียวที่สามารถพึ่งพาใช้งานได้ในตอนนี้จึงไม่อยากไปทะเลาะเพราะคนนอก แบบนั้นมันไม่คุ้มเลยจริงๆ

" อืม ปู่จะไม่ยุ่งไม่ห้ามแล้ว หลานรักใครปู่ก็จะรักด้วยแต่หลานอย่าเพิ่งรีบมีทายาทให้ปู่แล้วกันหลานยังหนุ่มใช้ชีวิตให้คุ้มถึงเวลาที่เหมาะสมค่อยหมั้นหมายกัน หลานคิดว่าไง "

หลี่อวี้หานมองปู่อย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเขาจ้องจับผิดสำรวจความไม่ปกติของปู่อยู่นานแต่ก็ไม่พบอะไร

คุณท่านหลี่รู้ทันจึ้งพูดขึ้นว่า

" ปู่ก็แก่แล้วขี้เกียจที่จะมาทะเลาะกับแกเพราะเรื่องนี้ปู่คิดมาหลายวันแล้วหลานรักใครปู่ก็จะยอมรับขอแค่หลานมีความสุขก็พอหรือหลานอยากจะทะเลาะกับปู่จนปู่อกแตกตายเพราะเรื่องนี้กันล่ะ "

สองปู่หลานคุยกันงอนง้อกันอย่างกับเด็กๆ

" ไม่แน่นอนครับ ผมไม่ยอมให้ปู่ตายง่ายๆหรอกครับ ผมดีใจที่ปู่เข้าใจผมและยอมรับหรงเอ๋อร์สักทีถ้าเธอรู้ต้องดีใจมากแน่ๆ ผมรักปู่ครับ "

สองปู่หลานยืนกอดกันอย่างมีความสุขเป็นภาพที่อบอุ่นหาได้ยากมากแทบจะหาดูไม่ได้เลยตั้งแต่ที่คุณชายหานกับคุณหนูหรงประกาศคบกัน

ตอนเช้าหลี่อวี้หานก็พาคุณหนูหรงขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่แต่เช้า ทั้งสองเดินจับมือกันคู่สวยหล่อก็เป็นธรรมดาที่จะเป็นที่สะดุดตาผู้คนในสนามบินจากนั้นทั้งสองเข้าไปนั่งในเครื่องอย่างมีความสุข

ทางด้านคุณท่านหลี่ผู้ช่วยหลงเดินเข้ามารายงาน

" ท่านประธานใหญ่ครับ คุณชายกับคุณหนูหรงออกเดินทางไปเรียบร้อยแล้วครับ "

เมื่อรู้ว่าหลานเดินทางกลับประเทศแล้วก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์มันช่วยไม่ได้เขาไม่ยอมรับผู้หญิงคนนี้เป็นหลานสะใภ้ รวยชาติตระกูลดีแต่คุณสมบัติไม่ตรงตามสเปคที่เขาต้องการแถมเป็นหญิงร้ายลึกซ่อนกรงเล็บไว้แบบนี้เขาไม่ต้องการ

เก็บไว้ข้างกายหลานเขานั้นไม่ใช่เรื่องดีกำจัดก็ยากยิ่งกว่าอะไรแบบนี้ไม่เรียกร้ายไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนั้นคุณท่านหลี่หันไปถามผู้ช่วยที่มารายงาน

" คุณหนูเฟิร์นติดต่อมาหรือยัง "

ผู้ช่วยลู่ตอบเพียงว่า " ยังครับ "

ทางด้านเฟิร์นนั้นเธอกำลังหากำไลข้อมือของเธอทั่วห้องก็หาไม่เจอสุดท้ายเธอก็ต้องหาตามสถานที่ต่างๆที่อยู่ในความทรงจำของเธอแต่หายังไงก็หาไม่เจอ

" เรื่องกำไลข้อมือพักไว้ก่อนดีมั้ยนะแต่ถ้าหาไม่เจอพี่วินรู้ต้องโกรธแน่ๆเลยจะทำยังไงดี หาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอไปตกหายแถวไหนนะ เอ้หรือว่าจะไปสั่งทำขึ้นมาใหม่แต่นั่นมันก็คงจะหลายพันฮือๆๆๆทำไงดีๆ "

เธอหาไปบ่นไปงอแงไปราวกับเด็กจนผู้ช่วยลู่มาพบเข้ากับเธอพอดี

" เอ่อ คุณเฟิร์นครับคุณกำลังหาอะไรอยู่เหรอครับ ให้ผมช่วยมั้ย "

เฟิร์นสะดุ้งที่คนมาไม่ให้สุ้มให้เสียง

" อุ่ย ตกใจหมดเลย เอ่อ อ้อ ไม่มีค่ะไม่เป็นไรขอบคุณมากฉันขอตัวนะคะ "

เธออยังไม่อยากจะคุยกับคนผู้นี้ในเวลานี้เธอไม่มีอารมณ์จริงๆ

แต่พอจะจากไปก็นึกถึงจำนวนเงินที่ต้องสั่งทำกำไลจะสั่งทำใหม่ก็คงต้องใช้เงินหลายพัน

ผู้ช่วยลู่เห็นว่าเธอจะจากไปจึงรีบเอ่ยทันที

" เอ่อ คุณหนูเฟิร์นครับพอดีท่านประธานใหญ่ถามถึงคุณตลอดเลยว่าคุณติดต่อมาหรือยัง คุณพอจะให้คำตอบได้หรือยังครับ "

" อืม งั้นขอเป็นพรุ่งนี้เราก็นัดเซ็นสัญญาทำข้อตกลงกัน ดีมั้ยคะ "

" ครับผมจะเรียนท่านประธานใหญ่ให้นะครับ ผมขอเบอร์คุณไว้ติดต่อนัดเวลาเซ็นสัญญาด้วยครับ "

" ได้ค่ะ "

เฟิร์นยื่นเบอร์เธอให้กับผู้ช่วยลู่ทั้งสองเมมเบอร์กันไว้เพราะยังไงเธอคิดว่ายังต้องอยู่กันอีกยาว

" ฉันขอตัวนะคะ "

" ครับ "

เฟิร์นก็เดินหันหลังออกไปที่จริงเธอตัดสินใจตั้งแต่วันแรกแล้วยิ่งกำไลข้อมือมาหายอีกเธอยิ่งอารมณ์ไม่ดี

เพราะนั่นคือสิ่งของแทนใจเดียวที่เธอกับธาวินมีไว้คิดถึงกัน ธาวินได้มอบให้เธอก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศ พวกเขาสัญญากันว่า

" ถ้าวินเรียนจบกลับมาจะไปขอเฟินเฟินแต่งงานนะเฟินเฟินต้องรอพี่นะ ห้ามนอกใจกันเด็กขาดเข้าใจมั้ย "

เธอพยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่ายดูน่ารักน่าเอ็นดูแล้วก็เอ่ย

" พี่วินก็เหมือนกันนะห้ามนอกใจกันเด็ดขาด "

" โอเคพี่สัญญาว่าจะไม่นอกใจและจะรักเฟินเฟินคนเดียวตลอดไป "

จากนั้นธาวินก็นำกำไลข้อมือที่เขาสั่งทำขึ้นออกมา

" นี่เป็นกำไลคู่เป็นตัวแทนของเราสองคน เฟินเฟินชอบมั้ย "

เฟิร์นยิ้มอย่างมีความสุขพยักหน้า

" ของที่พี่วินให้เฟิร์นชอบทั้งนั้นค่ะ "

จากนั้นธาวินก็สวมกำไลนั้นให้เฟิร์นทันทีพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า

" เฟินเฟินชอบก็ดีแล้วทีแรกพี่กลัวว่าเฟินเฟินของพี่จะไม่ถูกใจ "

พูดจบก็ยื่นกำไลอีกวงให้เฟิร์น

" อ่ะ สวมให้พี่บ้าง "

" ค่ะ " เฟิร์นรับกำไลมาจากนั้นก็สวมใส่ข้อมือของธาวินทันที

" ใส่แล้วห้ามถอดห้ามทำหายนะเข้าใจมั้ยในเวลาที่เราห่างกัน หวั่นไหวหรือท้อแท้กับสิ่งใด กำไลนี้จะเป็นตัวแทนของเราสองคนคอยเตือนสติให้รู้ว่าเราอยู่ข้างๆกันตลอดเวลา "

" ค่ะสัญญาว่าจะใส่ไว้ติดตัวตลอดรักษามันอย่างดี "

ทั้งสองกอดกันเกี่ยวก้อยสัญญาต่อกันโดยที่ข้อมือของทั้งสองนั้นมีกำไลข้อมือที่เหมือนกันอยู่เป็นสิ่งของแทนใจของทั้งสองคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel