ร้อยเล่ห์ เกมรัก

333.0K · จบแล้ว
Paizay
100
บท
57.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เฟิร์น หรือเสี่ยวเฟิน หญิงสาวบุคลิกดีเฉลียวฉลาดมีไหวพริบ เพราะเงิน 12 ล้านเธอจึงรับงานจากท่านประธานใหญ่ผู้สาวุโสแห่งตระกูลหลี่ เธอจะต้องไปทำลายความรักของประธานบริษัทข้ามชาติกับแฟนสาว เธอทำทุกวิธีเพื่อให้พวกเขาเลิกกัน แต่เมื่อทำสำเร็จเขากลับเขากลับไม่ยอมปล่อยเธอให้หลุดมือและหวังจะครอบครองเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัว เมื่อเขารู้ว่าเธอมีแฟนแล้วและกำลังจะแต่งงานกันเขาจะทำยังไงต่อไป เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นไปในทิศทางไหนเธอจะได้แต่งานกับคนรักไหมไปติดตามอ่านในเรื่องเลยค่ะ

นางเอกเก่งสัญญาทางรักโรแมนติกดราม่าเศรษฐี

ตอนที่ 1 ชื่อเฟินเฟินเหรอก็งั้นๆ

ภายในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ เด็กเสิร์ฟต่างกำลังยุ่งกับการเตรียมเสิร์ฟอาหาร

" เฟินเฟินนำอาหารจานนี้ไปเสิร์ฟที "

เชฟในห้องครัวเอ่ยเรียกขณะที่มือยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด

" ค่ะ "

หญิงสาวรีบไปรับอาหารแล้วยกไปวางบนโต๊ะที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี ไม่นานงานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น เหล่าผู้บริหารต่างเริ่มทยอยเข้ามาในงาน

เฟิร์นรู้สึกเหนื่อยล้าและเพลียเธอจึงเดินออกมาพักข้างนอกกับเพื่อนสาวของเธอในระหว่างที่ผลักเปลี่ยนกันพักกับคนอื่นที่ตอนนี้คอยดูแลแขกในงาน

" หนิงฉันจะไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าสักหน่อยไปด้วยกันมั้ย "

เธอเอ่ยถามเพื่อนสาวข้างๆ เพื่อนสาวก็ตอบอย่างรวดเร็ว

" อื้มไปสิ อยากเข้าอยู่เหมือนกัน "

ทั้งสองเข้าไปทำธุระในห้องน้ำพอหนิงทำธุระเสร็จก่อนเธอก็บอกเพื่อนสาวว่า

" เฟินเฟิน ฉันออกไปรอข้างนอกก่อนนะไม่ต้องรีบ "

พูดจบเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้นเธอก้มลงเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อรับโทรศัพท์

แต่เธอดันชนเข้ากับของแข็งบางอย่างทำเอาเธอตกใจจนโทรศัพท์ตกพื้นแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ

เธอมองชิ้นส่วนของโทรศัพท์ที่แตกกระจัดกระจายด้วยความเจ็บปวดหัวใจ

" โทรศัพท์ฉัน โอ้วลูกรัก ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อใหม่เนี่ย "

พอได้สติเธอค่อยๆเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนช้าๆด้วยความโมโหทำให้รู้ว่าสิ่งที่เธอชนนั้นคือรูปร่างของคน

เธอตั้งใจจะด่าให้สมกับที่ทำให้เธอตกใจทำให้เธอโมโหแถมโทรศัพท์ที่เพิ่งซื้อใหม่ก็มาแตกอีก เธอกำมือแน่นกัดฟันพูดขึ้นด้วยความโกรธในขณะที่ยังมองไม่เห็นหน้าตาของอีกฝ่าย

" คุณไม่มี....." ตารึไงห๊ะ!

แต่คำหลังเธอไม่ได้พูดออกมา ได้แต่ตกตะลึงจ้องเขาไม่กะพริบตา เพราะใบหน้าที่กำลังจ้องมองเธอนั้นหล่อเหลาไร้ที่ติ

[ จมูกโด่งสวย ดวงตาคมสีดำน้ำตาลมีเสน่ห์ราวกับเหยี่ยวที่กำลังจ้องมองเหยื่อ ริมฝีปากไม่หนาไม่บางได้รูปเข้ากันกับใบหน้า ทรงผมก็ถูกจัดทรงอย่างดีส่งให้ใบหน้าดูหล่อเหลารวมๆแล้วเพอร์เฟคสุดๆ

อกอิแม่จะแตก หุ่นก็แซ่บได้สัมผัสซิกแพคแน่นๆเป็นมัดๆ กลิ่นตัวหอมมีระดับแถมตัวสูงเอามากๆอีก โอ้ว! นี่มันเทพบุตรชัดๆสวรรค์เล่นตลกอะไรกันเนี่ย การแต่งตัวดูภูมิฐาน หล่อชนิดไม่อยากจากไป ยอมตายคาตีนเลยก็ย่อมได้ ]

หนิงพรรณนาถึงคนตรงหน้าในใจด้วยท่าทางเคลิบเคลิ้มล่องลอย

ท่าทางของหนิงทำให้คนตัวสูงรู้สึกรำคาญจนหงุดหงิดใจอารมณ์เสียที่ใครก็ไม่รู้มาชนเขาแล้วยังมายืนขวางทางเขาอีกขอโทษสักคำก็ไม่มี

หนิงยืนจ้องไม่กะพริบราวกับกำลังฝันถึงเทพบุตรรูปงามตรงหน้าแบบไร้สติไปชั่วขณะกว่าจะรู้สึกตัวก็ถูกผลักออกไปเธอทรงตัวไม่ได้เซจนเกือบล้มไปถึงพื้นแล้ว

ดีที่เฟิร์นมาเห็นเข้าพอดีเลยรีบคว้าเธอไว้ทันทำให้เธอมีสติขึ้นมาอีกครั้ง เฟิร์นถามเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงว่า

" เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า "

" ฉัน ฉันไม่เป็นไร ไม่เจ็บตรงไหนเลย "

คนตัวสูงเหลือบมองคู่สนทนาแวบหนึ่งอย่างเย็นชาก่อนจะเดินผ่านสองคนนั้นไปด้วยท่าทางสูงส่งสง่างาม

แต่เขาเพิ่งจะก้าวขาออกไปได้สามก้าวก็มีเสียงตะโกนดังมาจากทางด้านหลัง

" นี่ คุณ หยุดนะ! "

เฟิร์นโกรธมากเธอเห็นเพื่อนสาวถูกผู้ชายคนนี้ผลักอย่างไม่ปราณีเต็มสองตาเธอจะไม่ทวงความยุติธรรมให้เพื่อนได้ยังไงกัน

แต่แม้เธอจะบอกให้เขาหยุดเขาก็ไม่ฟังที่เธอพูดและยังคงเดินตรงไปยังห้องน้ำต่อไปยิ่งทำให้เธอโกรธมากขึ้นไปอีก เธอเดินก้าวเท้าออกไปยาวๆตามหลังชายตัวสูงพร้อมกับกัดฟันพึมพำ

" ผู้ชายไร้มารยาทไร้ความเป็นผู้ชายทำร้ายผู้หญิงแล้วไม่ขอโทษอย่างงั้นเหรอ ดี! "

จากนั้นเธอวิ่งไปขวางเขาไว้ยืนประจันหน้ากับเขาใบหน้าสวยขาวใสไร้เครื่องสำอางติด แต่แก้มกลับแดงระเรื่อเพราะความโกรธดวงตากลมโตเอาเรื่อง มือกำแน่นด้วยความโมโห

ชายหนุ่มมาดรวยยืนสำรวจหญิงสาวตรงหน้าจากนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปากเอ่ยเบาๆอย่างไม่ใส่ใจแล้วเอ่ยเป็นภาษาจีนว่า

" หึ ใจกล้าไม่เบาหนิ "

เมื่อเห็นท่าทีที่สุขุมเย็นชาวางมาดรวยเฟิร์นก็รู้สึกหมั่นไส้ เธอเลยเปลี่ยนท่าทางเสียใหม่หันมากอดอกแทนเดินสำรวจรอบตัวคู่กรณีแล้วเอ่ยปากพูดเป็นภาษาจีนที่เธอคาดว่าเขาคือเจ้าของภาษาเพราะเธอได้ยินเขาว่าเธอใจกล้าเมื่อครู่

" ฮื่อ ใจกล้าไม่เบาหนิ เป็นผู้ชายแต่กลับผลักผู้หญิงแล้วไม่ขอโทษ แบบนี้บ้านฉันเขาไม่เรียกผู้ชายนะแต่เขาเรียกหน้าตัวเมีย "

พูดจบเธอก็ผลักเขาคืนเหมือนที่เขาผลักเพื่อนเธอแต่ผู้ชายฉลาดนักธุรกิจอันดับหนึ่งอย่างคุณชายหลี่อวี้หานมีหรือจะยอมถูกด่าฟรีและยอมล้มคนเดียวจังหวะที่หญิงสาวผลักจนเขาเซเขาคว้าตัวเธอมาดึงไว้ในอ้อมอก กอดเธอแน่นและพลิกตัวเธอลงสู่ใต้ร่างของเขาไม่พอยังจูบเข้าที่ปากเธอเต็มๆเพื่อเป็นการสั่งสอน

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ตกอยู่ในสายตาของสองผู้ช่วยที่อยู่ไม่ไกลออกไป

ส่วนหนิงตกตะลึงอ้าปากค้างที่เพื่อนสาวถูกจูบเฟิร์นเองก็ตกใจไม่แพ้กันเธอตกใจจนลืมไปว่าที่ตรงนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคนดวงตาเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจใจเต้นแรงตุบๆไม่หยุด

ส่วนผู้ชายหน้าหล่อร่างใหญ่อย่างหลี่อวี้หานกลับรู้สึกสะใจที่ได้จูบผู้หญิงที่กล้ามาด่าทอเขาความรู้สึกนี้เขาชอบแบบแปลกๆ

เขาค่อยๆพละปากออกจากปากเธอเผยรอยยิ้มชั่วร้ายพร้อมกับคำพูดที่กระตุ้นความโกรธของเฟิร์นเบาๆว่า

" หึ เคลิ้มเลยละสิ นี่คือจุดจบของคนที่กล้าด่าผมจำเอาไว้ "

พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนจัดระเบียบเสื้อผ้าตัวเอง

หนิงที่อยู่ข้างหลังรีบวิ่งมาพยุงเพื่อนสาวอย่างห่วงใย

" เฟินเฟินเธอโอเคมั้ย จะกลับบ้านก่อนก็ได้นะฉันจะบอกหัวหน้าให้ "

หลี่อวี้หานจัดระเบียบเสื้อเสร็จได้ยินที่ทั้งคู่คุยกันก็เหลือบมองเฟิร์นแว่บหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น

" ชื่อเฟินเฟินหรอ ก็งั้นๆ "

หนี้เก่ายังไม่ได้ชำระเอาหนี้ใหม่มาทับเฟิร์นตาคมกริบขึ้นมาทันทีราวกับใบมีดที่พร้อมเฉือน สายตาจ้องไปที่จังหวะการก้าวเท้าของชายตรงหน้าจากนั้นเธอก็สไลด์ตัวถีบไปที่ขาของหลี่อวี้หานอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้เขาได้ทันตั้งตัว

" คุณชายระวัง! "

ไม่ทันแล้วเฟิร์นเร็วกว่าคำพูดของผู้ช่วยเขาอีกแต่หลี่อวี้หานนักธุรกิจข้ามชาติอันดับหนึ่งอย่างเขาก็ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีพลาดแต่ก็คงความสง่าและดูดีได้อีกนั่นทำให้เฟิร์นหมั่นไส้กว่าเดิมแต่ทำไงได้เมื่อเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอทางเดียวคือวิ่งหนี

เธอจับมือเพื่อนสาวแล้วรีบวิ่งออกไปจากสถานที่แห่งนี้เข้าไปอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพนักงานหนิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่ดีเพราะเธอเป็นห่วงเพื่อนสาวที่ปกป้องเธอจนถูกลวนลาม

" เฟินเฟินฉันว่านะเธอกลับบ้านไปดีกว่าเธอไปมีเรื่องกับคนหน้าตาดีมีฐานะคนนั้นฉันว่าเขาไม่น่าปล่อยเธอไปง่ายๆแน่ หนีไปตอนนี้ยังทันนะ "

" อืม ฉันก็คิดเหมือนเธอ งั้นฉันกลับก่อนเธอดูแลตัวเองดีๆ มีอะไรอย่าตกใจจนเสียสติยืนบื้อให้เขารังแกอีกล่ะ "

" อืม ฉันรู้แล้วขอบคุณมากนะฉันรักเธอ "

หนิงเอ่ยพร้อมกับกอดลาเพื่อนสาวด้วยความซาบซึ้ง

" อื้ม ฉันก็รักเธอ ไปละ บาย "

เธอผละออกจากการกอดแล้วโบกมือลากัน เฟิร์นหันไปบิดลูกบิดเตรียมเปิดประตูเดินออกไปจากโรงแรมพอเปิดประตูก็พบเข้ากับหัวหน้างาน

เฟิร์นคิดว่าไหนๆก็เจอแล้วลาเองตรงนี้เลยละกันจึงเอ่ยขึ้น

" เอ่อ หัวหน้าคะวันนี้เฟิร์นขอลาค่ะพอดีรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวมากๆ "

หัวหน้างานสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่พูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เฟิร์นขอกลับบ้านก่อนเพราะเธอไปสร้างวีรกรรมไว้จนถูกคนใหญ่คนโตระดับอภิมหาเศรษฐีเรียกพบ กล้องวงจรเขาก็ได้ดูแล้วเขาช่วยเธอไม่ได้แล้วจริงๆ

" เฟิร์นเดี๋ยวค่อยกลับแล้วกันนะ ท่านประธานใหญ่ของบริษัทข้ามชาติอันดับหนึ่งเรียกพบน่ะ ไปพบเขาสักหน่อยค่อยๆอธิบายให้เขาเข้าใจนะว่าเธอไม่มีเจตนาทำร้ายหลานชายเขา "

เมื่อได้ฟังเฟิร์นและหนิงเข้าใจทันทีหนิงเข้ามาจับมือเฟิร์นไว้แน่นด้วยความกังวลและเป็นห่วง

" เฟินเฟินฉันไปเป็นเพื่อนเธอนะฉันจะช่วยเธออธิบายเองเพราะฉันเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ "

เฟิร์นตบมือเพื่อนสาวเบาๆพร้อมกับเอ่ยปลอบว่า

" ไม่ต้องหรอกเรื่องแค่นี้เองฉันคนเดียวสบายมาก ถึงเธอจะไปช่วยพูดก็ไม่มีประโยชน์ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะดูจากกล้องวงจรปิดมาหมดละไม่งั้นคงไม่เร็วขนาดนี้หรอก เธอไปทำงานเถอะสบายใจได้ฉันเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว "

หัวหน้างานก็พูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า

" จริงอย่างที่เฟินเฟินพูดหนิงเธอไปทำงานเถอะเฟินเฟินมีฉันคอยอยู่เป็นเพื่อนอยู่ไม่ต้องห่วงถ้าซวยก็ซวยไปด้วยกันทั้งหัวหน้าและลูกน้องนี่แหละ "

คำพูดของหัวหน้าส่วนหนึ่งคือพูดให้สบายใจแต่อีกส่วนหนึ่งก็เผื่อใจไว้เช่นกัน

หลังจากที่หนิงออกจากห้องไปทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้บริหารระดับสูงทันที

เมื่อไปถึงก็มีบอดี้การ์ดสองคนเฝ้าอยู่หน้าห้องและเปิดประตูให้เฟิร์นเข้าไปคนเดียว

" ขออภัยครับนายใหญ่สั่งไว้ให้คุณผู้หญิงเข้าไปคนเดียว คนอื่นรอด้านนอกครับ "

หัวหน้างานกังวลใจมากเอ่ยกระซิบเบาๆว่า

" เฟินเฟินเธอต้องพูดให้ตัวเองรอดและดูไม่ผิดให้ได้นะ ฉันเชื่อใจเธอ "

เฟิร์นตอบกลับไปว่า " หัวหน้าสบายใจได้เลยค่ะ "

เธอมั่นใจมากเธอไม่ผิดเธอไม่ยอมแน่นอนเธอจึงเดินเข้าไปอย่างสง่างาม เธอถูกผู้ช่วยที่มารอพาเธอไปพบกับประธานใหญ่ทันที

" มาแล้วเหรอ หนูชื่ออะไรล่ะ "

ชายชราเอ่ยถามพร้อมกับใบหน้ายิ้มอย่างเป็นมิตร ผิดคาดเลยสำหรับเธอ

" เฟิร์นค่ะ คุณเรียกพบดิฉันเป็นการส่วนตัวมีอะไรรึเปล่าคะ "

เฟิร์นตอบพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งสงบสุขุมทำให้ชายชรายิ่งแปลกใจและสนใจในตัวหญิงสาวมากขึ้นไปอีก ชายชราเผยรอยยิ้มบนใบหน้าอีกครั้งพร้อมกับหันไปทางผู้ช่วยส่วนตัวเป็นอันรู้กันผู้ช่วยจึงเอ่ยขึ้น

" ที่ท่านประธานใหญ่เรียกพบคุณ เพราะท่านอยากร่วมงานกับคุณ โดยคุณจะต้องทำให้คุณชายที่คุณชนเมื่อกี้นี้เลิกกันกับแฟนให้สำเร็จภายในเวลาหนึ่งปี "

เฟิร์นแอบบ่นพึมพำในใจ " แบบนี้เขาเรียกร่วมงานที่ไหนกันบ้านฉันเขาเรียกใช้งานต่างหากล่ะ "

เห็นหญิงสาวนิ่งเงียบชายชราจึงเอ่ยขึ้นอย่างสุขุมดุจราชาที่อยู่เหนือทุกสิ่งราวกับเป็นเจ้าชีวิตคนและมีผู้ช่วยส่วนตัวยืนอยู่ข้างดูองอาจน่าเกรงขาม

" ผมเลือกคุณเพราะคุณดูฉลาดมีไหวพริบกล้าหาญท้าทายและซื่อตรงดี "

" ขอบคุณค่ะ " เธอกล่าว

" ถ้าคุณทำให้พวกเขาเลิกกันได้ผมจะให้เงินคุณก้อนหนึ่งโอนเข้าบัญชีคุณทันที ยิ่งพวกเขาเลิกกันเร็วเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งเป็นอิสระเร็วมากขึ้นเท่านั้น "

เธอในชุดพนักงานเสิร์ฟยืนกุมมือตัวเองแน่นใบหูตั้งใจฟังคำพูดของชายชราตรงหน้าดวงตาคู่งามจ้องมองคู่สนทนาพร้อมกับใช้สมองคิดตามอย่างรวดเร็ว

" ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ "

ผู้ช่วยได้ยินเช่นนั้นก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า

" ถ้าคุณปฏิเสธคงจะเป็นความคิดที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย คงไม่มีงานไหนง่ายสบายและได้เงินเยอะเท่านี้อีก เกรงว่าทั้งชีวิตของคุณคงจะไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากเท่านี้อีกแล้ว เว้นแต่คุณจะถูกรางวัลที่หนึ่ง "

ที่ผู้ช่วยพูดนั้นเป็นความจริงขนาดเขาเป็นผู้ช่วยยังไม่เคยมีเงินเยอะเท่านี้ แม้จะเป็นความจริงแล้วยังไงล่ะคนฟังอย่างเฟิร์นมีหรือที่จะไม่อารมณ์เสียเพราะเธอไม่ชอบให้ใครมาดูถูก แต่ความโกรธกดเอาไว้ก่อนเพราะเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าที่ผู้ช่วยคนนั้นพูดว่ารางวัลที่หนึ่งนั้นจะเป็นอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า

" ถ้าฉันรับงานนี้คุณจะบอกฉันได้มั้ยว่าได้เงินทั้งหมดเท่าไหร่ สวัสดิการมีอะไรบ้าง ฉันจะเชื่อคำพูดพวกคนรวยอย่างคุณได้อย่างไร "

ผู้ช่วยเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นช่างกล้าเกินไปแล้ว ใช้คำพูดไม่ให้เกียรติเจ้านายของเขาเขาไม่พอใจมากโดยเฉพาะคำว่า พวกคนรวย

" นี่ ! คุณ "

แต่เขายังไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องสงบนิ่งไว้เพราะท่านประธานใหญ่ของเขานั้นหันมองทางเขาพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจอย่างชัดเจน

แต่สำหรับเฟิร์นแล้วเมื่อกี้ผู้ช่วยที่พูดจาดูถูกเธอแต่กลับไม่ถูกตำหนิจากผู้เป็นนายเธอนั้นยอมไม่ได้จึงตั้งใจเรียกเขาว่าพวกคนรวย

" ถ้าคุณทำงานนี้สำเร็จ ผมจะโอนเงินสิบล้านเข้าบันชีคุณทันที ในระหว่างทำงานคุณจะได้รับการดูแลช่วยเหลือให้คำแนะนำจากผู้ช่วยของผมตลอดจนกว่าจะสำเร็จ คุณสบายใจได้ ระหว่างนั้นคุณอยากได้อะไรต้องการอะไรขอให้บอกผู้ช่วยลู่คุณจะได้รับทันที "

..........................................................................

*** ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะ ฝากกดติดตามและกดหัวให้กำลังใจกันด้วยน๊ะ^_^

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองของนามปากกาPaizayแล้วฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

เราชื่อเฟิร์นนะ เรารู้สึกยินดีที่ได้รู้จักทุกคนมากๆ พวกเราสามารถร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดผ่านคอมเม้นใต้นี้ได้เลยนะ^_^

และต้องขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกๆคนมากๆที่สละเวลาเข้ามาอ่านและสนับสนุนผลงานของเฟิร์น อยู่ด้วยกันไปยาวๆพูดคุยกันผ่านคอมเม้นใต้นี้เลยนะคะ (ขอบคุณมากๆค่ะ)^_^  ***