ตอนที่ 4 รอยรักที่เธอฝากไว้
เสียงนาฬิกาหัวเตียงดังขึ้นในช่วงรุ่งสาง เจ้าของรีบกดปิดชันกายลุกนั่งถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ สะบัดผ้าห่มก้าวเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัว วันนี้เธอมีถ่ายแบบริมทะเล เลยต้องรีบไปเพื่อให้ทันแสงแดด จัดการสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขายาวสวมแว่นตาพรางใบหน้า หยิบกระเป๋าสะพายเปิดประตูก้าวลงบันไดอย่างรวดเร็ว
ดารณีชำเลืองมองบุตรสาว เห็นท่าทีรีบร้อนอยากให้ทานอาหารเช้าเสียก่อน เพราะลูกไม่เคยทานอะไรตรงเวลากลัวจะไม่สบายเสียก่อน
“กั้งมากินข้าวก่อนไหมลูก”ดารณีถามบุตรสาว ขณะที่กังสดาลกำลังเดินลงมาจากชั้นบน
“คงไม่ทันแล้วค่ะแม่ กั้งไปก่อนนะคะ”เธอบอกแม่เร่งฝีเท้าเปิดประตูออกจากรั้วบ้าน
กรกาญจ์ชะเง้อมองพี่สาวผ่านหน้าต่างห้องนอน ความจริงอยากเดินทางออกไปพร้อมกัน แต่เธอตื่นไม่ทันเพราะเมื่อคืนกลับค่อนข้างดึก ลงจากชั้นล่างเพื่อเดินทางไปมหาวิทยาลัย วันนี้มีกีฬาสียกเรียวแขนดูนาฬิกาข้อมือเกือบหกโมงแล้ว
“แม่คะ กุ้งไปก่อนนะคะ”กรกาญจ์บอกมารดาขณะใส่รองเท้าอยู่หน้าบ้าน
“ไม่กินข้าวก่อนเหรอลูก”
“ไม่ทันแล้วค่ะแม่ เดี๋ยววันนี้หนูกลับมากินนะคะ”เข้าไปหอมแก้มมารดาหนึ่งฟอด ก่อนสาวเท้าเดินเปิดประตูออกนอกรั้วบ้าน
ถึงมหาวิทยาลัยเจ็ดโมงเพื่อนนักศึกษารีบพาดรัมเมเยอร์ไปแต่งหน้าทันที ได้ยินเสียบ่นเรื่องมาสายกันเสียยกใหญ่ เร่งมือกันพักหนึ่งจึงเสร็จเรียบร้อย เจ้าของร่างบางลุกยืนหันกายมาทางเพื่อน ทุกคนจ้องมองแววตาเป็นประกาย
“กุ้งสวยมากเลย”ปันนายิ้มไม่หุบ
“ไม่ต้องมาชมเลย เห็นว่าปีนี้ใกล้จบแล้วถึงได้ยอมหรอกนะ”
“จ้าๆ”ปันนาคล้องแขนรีบประจบ
เดินออกมาจากห้องแต่งตัวมองดูนักศึกษาชั้นปีหนึ่งที่ทำหน้าที่กองเชียร์บนสแตนด์ ก่อนเห็นชัยวัฒน์กวักมือเรียกเพื่อให้ดรัมเมเยอร์สาวเตรียมทำหน้าที่
“ไปกันเถอะกุ้ง ขบวนตั้งแล้ว”
สองสาวเร่งฝีเท้าเพื่อเตรียมเข้าขบวน เพราะชุดที่ใส่ทำให้กรกาญจ์เสียความมั่นใจ กระโปรงก็สั้นรองเท้าสูงเสียอีก เลยทำให้ลำบากต่อการเคลื่อนที่ทางเท้าแตกหักทำให้สะดุดจนร่างบางเซ
“ว้าย!”หลับตาร้องด้วยความตกใจ แต่ร่างกายกลับไม่ได้กระแทกพื้น
ลืมตาขึ้นเห็นสายตาคู่หนึ่งมองมา ใบหน้าเรียวคม ดวงตาคมกริบ ริมฝีปากแดง จมูกโด่งเป็นสัน ทุกสัดส่วนบนใบหน้าสร้างดึงดูดความสนใจเพศตรงข้ามได้อย่างดี แววตากรุ่มกริ่มกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้คนเผลอตัว รีบดันกายออกห่าง แต่กลับถูกกอดรัดไว้แน่นเหมือนต้องการแกล้ง ไอ้หมอนี่เธอรู้จักดีเพราะเป็นเดือนคณะปีเดียวกับเธอ
“ปล่อยนะนายเต!”หญิงสาวบอกเสียงดุ
เตชิษฎ์มองหน้าสาวดาวมหาลัย ยิ้มยั่วกวาดสายตาดู ไม่อยากเชื่อว่ากรกาญจ์จะยอมเป็นดรัมเมเยอร์ให้สีเขียว น่าแปลก
“คิดว่าฉันอยากจะจับเธอเหรอ!”เตชิษฎ์ย้อนเสียงแข็งแล้วปล่อยร่างบางเป็นอิสระ
ใบหน้าเรียวสวยงอลง รู้สึกหมั้นไส้ ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าโดนหมอนี่หาเรื่องตลอด ตกลงจงใจจะประกาศสงครามกันใช่ไหม ปันนามองดูสองคนด้วยความอยากรู้ท่าทางราวกับคู่รักทะเลาะกันก็ไม่ปาน
“ไปเถอะปัน ฉันไม่อยากโดนหมากัด!”จับข้อมือปันนาเดินห่างออกมา
เตชิษฏ์หันมองตามแผ่นหลังอมยิ้มเล็กๆ ใช่... เธอสวย น่ารัก จนเขาแทบอดใจไม่ไหวถือว่าวันนี้ได้กำไร ยังจำสัมผัสเมื่อครู่ไม่จาง ร่างนุ่มนิ่มสีหน้าไม่พอใจ หัวใจพาลเต้นตึกตักไม่หาย
“โห! วันนี้กุ้งสวยเป็นบ้าเลยว่ะ”เพื่อนในกลุ่มตบไหล่เตชิษฏ์มองตามสาวเจ้าดวงตาทอประกาย
“ไม่เห็นจะสวย เหมือนจับกระดานมาแต่งตัว!”เตชิษฎ์แย้งด้วยความหงุดหงิด ไม่ชอบเลยเวลากรกาญจ์ถูกผู้ชายคนอื่นชื่นชมแบบนี้