บทย่อ
เมื่อน้องเป็นต้นเหตุให้ผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งต้องฆ่าตัวตาย พี่ชายที่แสนดีอย่างเขาไม่อาจนิ่งเฉยได้ แม้จะยากเย็นมากเพียงใดก็ต้องตามหาหลานสาวให้พบ เพียงเพื่อกล่าวคำขอโทษ และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับการให้อภัยจากครอบครัวของเธอ
บทที่ 1
บทที่ 1
ร่างสูงใหญ่ล่ำสันในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ส่งให้ผู้สวมใส่ดูหล่อเหลาระคนน่าเกรงขาม ได้เดินเข้ามาภายในคฤหาสน์ด้วยท่าทีอ่อนล้าจากการทำงานมาทั้งวัน
ขณะเดินผ่านห้องโถงกำลังจะตรงไปยังบันไดบ้าน ก็ต้องส่ายหน้าอย่างระอา เมื่อเห็นน้องชายนั่งซดบรั่นดีหมดไปครึ่งขวด และด้วยไม่อยากอยู่คุยกับน้องชาย ซึ่งดูท่าว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องจึงก้าวเท้าขึ้นบันไดบ้าน แต่ก้าวขึ้นได้แค่เพียงขั้นเดียวก็ถูกผู้เป็นน้องชายเอ่ยเรียกเสียงอ้อแอ้
“ฌอน...ไอ้พี่ชาย...มาดื่มด้วยกันไหมครับ”
ฌอน เจย์ฟอร์ต ผู้ถูกน้องชายเอ่ยเรียก ถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะปฏิเสธเสียงแข็งห้วนพร้อมกับเอ่ยต่อว่าน้องชายไปด้วย
“ไม่ล่ะ พี่เหนื่อยอยากพักผ่อน นายก็เหมือนกัน ควรหยุดดื่มเหล้า ไปนอนพักได้แล้ว คลินต์...”
“ผมยังอยากดื่มต่อ และอยากคุยกับพี่ด้วย มานั่งคุยกันก่อนสิ ฌอน”
คราวนี้ร่างใหญ่ของคลินต์ เจย์ฟอร์ต เดินเอียงซ้ายเอียงขวาราวกับงูเลื้อยมาจับมือพี่ชายไว้ ฉุดรั้งให้อีกฝ่ายไปนั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์ภายในห้องโถงด้วยกัน
ฌอนสบัดมือหนี ไม่มีอารมณ์ไปนั่งดื่มกับน้องชาย แต่กลับถูกคลินต์จับยึดข้อมือไว้แน่น แถมยังเอ่ยขอร้องเสียงยานด้วย
“ดื่มด้วยกันหน่อย...พี่ชาย ดื่มคนเดียวน่าเบื่อชะมัด”
คลินต์พยายามจะลากร่างใหญ่ของพี่ชายให้ก้าวลงจากบันไดบ้าน เพื่อไปนั่งดื่มเหล้ากับเขา
ฌอนเริ่มโมโหน้องชายจึงอดต่อว่าไม่ได้ “ถ้านายเบื่อ ก็ลองหาอะไรทำสิ อย่างเช่นไปทำงาน เล่นกีฬา ไม่ใช่นั่งดื่มแต่เหล้า”
“ไม่เอา ผมไม่อยากทำงาน ผมมีหุ้นในบริษัทของเราห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ถึงไม่ทำงานผมก็มีกินมีใช้ไปอีกสิบชาติ ถูกต้องไหมครับ พี่ชาย...”
ฌอนไม่เถียง เพราะที่คลินต์พูดมานั้นคือเรื่องจริง เขาและคลินต์มีกิจการในเครืออยู่มากมายทั่วเมืองชิคาโก และในอีกหลายๆ รัฐทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีทรัพย์สินทั้งอสังหาริมทรัพย์และเงินสดที่อยู่ในบัญชีธนาคารในสหรัฐอเมริกาและประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ถึงไม่ทำงานเลยพวกเขาก็มีเงินใช้ตลอดทั้งชาติ
แต่! เขาไม่ได้ให้น้องชายไปทำงานเพื่อเงิน แต่เพื่อไม่ให้มีเวลาว่างมานั่งดื่มเหล้าจนกลายเป็นคนติดเหล้าไปแล้ว
“พี่ให้นายทำงานเพื่อจะได้ไม่เหงาและไม่เบื่อเหมือนที่นายกำลังบ่นอยู่ตอนนี้ยังไงล่ะ มีงานมากมายล้นมือให้นายทำทั้งวัน จะทำให้นายไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น และไม่ต้องมานั่งซดเหล้าต่างน้ำแบบนี้ด้วย”
“ฌอน...หยุดด่าผมได้ไหม ผมมีเรื่องอยากพูดกับพี่จริงๆ”
คราวนี้คลินต์ขอร้องทั้งสีหน้าและสายตา พลางส่ายหน้าแรงๆ เพื่อไล่อาการมึนเมาออกไปจากหัว
ฌอนถอนหายใจยาว แม้เหน็ดเหนื่อยจากหน้าที่การงาน อยากนอนแช่น้ำอุ่นๆ แล้วเข้านอนมากเพียงใด ก็จำต้องยอมทำตามความต้องการของคลินต์ เมื่อเห็นสีหน้าอ้อนวอนจากอีกฝ่าย
“ก็ได้ พี่ให้เวลานายพร่ำรำพันแค่สิบนาที หลังจากนั้นพี่จะไปพักผ่อน และนายก็ควรหยุดกินเหล้าหลังจากคุยกับพี่เสร็จแล้ว”
“สิบนาที...ได้ครับ”
คลินต์คลี่ยิ้มออกมาได้ และหากฌอนสังเกตสักนิด เขาจะเห็นว่าในรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าหมองที่ปะปนมาด้วย ทว่าฌอนไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะเขาเดินลิ่วๆ นำหน้าน้องชายไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา เพื่อรอฟังเรื่องที่คลินต์อยากปรึกษากับเขา
“นายมีเรื่องอะไรจะพูดกับพี่ เริ่มได้เลย”
คลินต์สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ดวงตาซึ่งแดงก่ำจากฤทธิ์ของน้ำสีอำพันจ้องมองพี่ชายเขม็ง ก่อนจะเอ่ยบอกช้าๆ ว่า
“เมื่อห้าปีที่ผ่านมา ผมทำเพื่อนร่วมคลาสท้อง และผมก็ปัดความรับผิดชอบ บอกว่าไม่ใช่ลูกของผม ผมให้เธอไปทำแท้ง จากนั้นผมก็ไม่ติดต่อกับเธออีกเลย อีกหลายสัปดาห์ต่อมาเธอก็กลับประเทศไทยทั้งๆ ยังเรียนไม่จบ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเธอได้ทำแท้งหรือว่าเก็บลูกในท้องไว้”
ฌอนมองหน้าของคลินต์ ไม่ได้เชื่อในเรื่องที่น้องชายพูดมา เพราะคิดว่าอีกฝ่ายเมาจนเพี้ยน
“นายเมาหนักแล้วคลินต์ ไปนอนซะ”
ขณะไล่น้องชาย ร่างใหญ่ก็ผุดลุกขึ้นยืนแต่ถูกคลินต์จับยึดข้อมือไว้แน่น ส่ายหน้าปฏิเสธในคำพูด แล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงติดเคร่งเครียด
“ฌอน...ผมพูดเรื่องจริง ผมทำผู้หญิงท้อง แล้วผมก็ทิ้งเธอไป มันคือเรื่องจริงที่ผมปกปิดไว้ไม่เคยบอกใครแม้แต่คนเดียว”
ฌอนหรี่ตามองน้องชาย ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเหมือนเดิม เมื่อเห็นสีหน้าของคลินต์ติดหมองเศร้าไม่มีอาการมึนเมาหลงเหลือให้เห็นอีก
“นายพูดจริงหรือคลินต์”
คลินต์พยักหน้ารับช้าๆ เอ่ยย้ำคำตอบเสียงแผ่วเบาว่า “ผมพูดเรื่องจริงทั้งหมดครับ”
คราวนี้ฌอนเริ่มเชื่อในคำพูดของน้องชาย พลางซักไซ้ถึงความลับที่คลินต์เก็บงำไว้นานหลายปี
“นายบอกพี่ว่าผู้หญิงหนีกลับประเทศไทย หมายความว่าเธอเป็นคนไทยยังงั้นหรือ”
“ครับ ชีวาพรคือผู้หญิงที่ผมทำท้อง และไม่ยอมรับลูกในท้องของเธอ” คลินต์เอ่ยเสียงเศร้า รู้สึกเสียใจกับการกระทำในอดีตของตน
และเมื่อเชื่อในคำพูดของน้องชายว่าเป็นเรื่องจริง ฌอนก็ถึงกับสบถด่าด้วยความโมโห
“บ้าชะมัด! คลินต์ นายไม่เคยถูกสอนให้เห็นแก่ตัวและเห็นผู้หญิงเป็นแค่เพียงของเล่น หรือเครื่องบำบัดความใคร่ของนาย พรุ่งนี้เดินทางไปประเทศไทยตามหาชีวาพร และไม่ว่าเธอจะเก็บลูกในท้องไว้หรือไม่ นายก็ควรไปขอโทษเธอ และถ้าหากชีวาพรเก็บลูกไว้ ป่านนี้ลูกของนายต้องมีอายุราวๆ สี่ขวบ นายต้องรับผิดชอบในตัวเด็ก ลูกของนายต้องมีสิทธิ์ทุกอย่างในทรัพย์สินของตระกูลเรา”