บท
ตั้งค่า

3

“นี่แม่อร!!! หมายความว่ายังไงคำว่าไม่ได้เตรียมของหล่อนน่ะ ทำไมจะต้องเตรียมด้วย หล่อนไม่รู้เหรอว่าฉันจะต้องเรียกหารังนกเย็นๆ เวลากลับมาเหนื่อยๆ แล้วทำไมหล่อนไม่ให้แม่ผ่อนทำไว้ให้ล่ะ ฉันบอกตั้งแต่หล่อนมาทำงานวันแรกๆ ไม่ใช่เหรอ”

เป็นอย่างที่ผ่อนคาดไว้ไม่มีผิด เมื่อคุณผู้หญิงกลับจากบ้านด้วยท่าทีเหนื่อยๆ แล้วร้องหาของบำรุง แต่กลับได้คำตอบอันไม่คาดคิดจากปากเลขา และดูเหมือนจะเป็นอีกเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดหัวใจกับความไม่ได้เรื่องของเลขาจนอดปากไว้ไม่ไหวถึงได้ด่าออกไปอย่างไม่ไว้หน้า

“ก็อรไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะเรียกกินของกลางดึกอย่างนี้นี่คะ เห็นบอกว่ารักษาหุ่นๆ ไม่กลัวอ้วนหรือไงคะ”

“นี่แม่อร!!! บอกไว้หลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าอยากมาเถียง ฉันไม่ชอบ!! และถ้าฉันอยากจะกินหรืออยากจะได้อะไรตอนไหน หล่อนเป็นเลขาต้องมีให้ฉันทุกเมื่อ จำวันที่หล่อนมาสมัครงานได้มั้ย บอกแล้วว่าทำงานกับฉันจะต้องทำอะไรหรือตระเตรียมอะไรบ้าง วันนี้หล่อนทำฉันเสียอารมณ์มาหลายเรื่องแล้วนะ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันว่าหล่อนไปหางานอื่นทำเถอะฉันไม่ไหวแล้ว”

“เอาล่ะๆ คุณพอได้แล้ว ดึกมากแล้วขึ้นนอนเถอะ”

จิรเดช วัชราเวโรจน์เห็นท่าไม่ดีรีบห้ามทัพ เพื่อไม่ให้เมียอารมณ์เสียจนเรื่องลุกลามไปใหญ่

“ขึ้นห้องก่อนเถอะพี่จิณ ระเบิดลงแล้ว”

จิรนันท์ วัชราเวโรจน์รีบเดินเข้าไปสะกิดแขนพี่ชายให้ไปพร้อมกัน เพราะรู้ดีว่าลองแม่ได้ออกโรงขนาดนี้คงจะต้องเรื่องใหญ่แน่ จิณณวัตรหันไปมองน้องด้วยความสงสัย ครั้นพอหันไปหาพ่อก็ได้การพยักหน้าให้แทน เขาจึงยอมเดินตามน้องไปทันที

“ฉันไม่พอ คุณไม่ต้องมายุ่งจะไปไหนก็ไป วันนี้ถ้าไม่ได้สั่งสอนแม่นี่ฉันคงจะนอนไม่หลับแน่ อะไร้!! จ้างมาทำงานแท้ๆ เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ กินอยู่ก็สุขสบาย ทำงานแค่นี้ยังไม่ได้เรื่อง โง่ๆ อย่างนี้จะไปทำมาหากินอะไรได้ล่ะ”

“อ้าว!!! คุณผู้หญิงพูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ ไอ้งานแค่นี้ของคุณหญิงนี่มันตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบเลยนะคะ และถ้ารู้ว่าจะต้องเป็นเบ๊ขนาดนี้จ้างให้อรก็ไม่ตกลงมาทำด้วยหรอก คิดว่าจะง้อเหรอ ทำที่อื่นกับคนอื่นไม่เรื่องมากขนาดนี้ด้วย”

“งั้นแกก็ไสหัวไปทำกับคนอื่นเลยไป้!!! ถ้าอยู่กับฉันแล้วไม่ดี คุณเดชเอาเงินฟาดหัวมันสามเดือนแล้วอย่าให้มันโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีกนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป คิดว่าฉันจะง้อเหรอ คนตกงานกันทั้งประเทศ”

สิ้นคำชมจันทร์ก็เดินฉับๆ ขึ้นบันไดไป ทิ้งให้ผู้เป็นสามีรับหน้าอยู่เพียงลำพัง ไม่นานเช็กหนึ่งแสนบาทใบที่สามก็ถูกสั่งจ่ายให้เลขาคนที่สาม ก่อนจะขับรถออกจากบ้านเจ้านายไปด้วยความอารมณ์เสีย

“แม่ผ่อนหาอะไรเย็นๆ มาให้ฉันที เหนื่อยจังเลยกับคุณผู้หญิงของแม่ผ่อนเนี้ยะ”

ผ่อนยืนดูอยู่ห่างๆ รีบเข้าครัวแล้วรินเบียร์กระป๋องสุดท้ายในตู้เย็นออกมาให้คุณผู้ชายที่ยืนรออยู่หน้าบันได ก่อนจะประคองแก้วเดินเอื่อยเฉื่อยขึ้นชั้นบนเงียบๆ ทิ้งให้เจ้าของร่างอ้วนอวบมองตามตาละห้อย พร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆ ด้วยความอ่อนใจไม่แพ้กัน

“กูว่าแล้ว ไม่เชื่อคำอีผ่อนเป็นไงล่ะทีนี้ ตกงานอีกจนได้”

“โห! คุณพ่อฟิตแต่เช้าเลยนะครับ”

จิณณวัตรเอ่ยทักทาย เมื่อเห็นพ่อเดินเข้าห้องฟิตเนสมาขณะที่ตัวเองกำลังก้าวฉับๆ ไปตามลู่วิ่งจนเหงื่อท่วมตัวอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุด ผู้พ่อที่มาในชุดเตรียมพร้อมก็มองหาอุปกรณ์วอร์มร่างกายไปด้วย ปากก็ตอบลูกไปด้วย

“ได้ไงล่ะ เดี๋ยวน้อยหน้าแกแย่น่ะสิ อายุมากขึ้นก็ต้องรักษาหุ่นกันหน่อย”

แล้วสองพ่อลูกก็ทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับการฟิตร่างกายไปควบคู่กับการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันและกันในช่วงเวลาที่ต่างคนต่างอยู่คนละมุมโลกมาเป็นสิบปี

แม้จิณณวัตรจะกลับบ้านบ้างในระหว่างเรียนและทำงานหาประสบการณ์อยู่อเมริกา แต่ก็น้อยครั้งเต็มที ด้วยเวลาว่างนั้นแทบจะไม่มี หรือถ้ามีก็ไม่มากพอให้บินกลับบ้านได้ บวกกับตัวเขาเองก็ไม่ใคร่อยากจะกลับด้วย

“เจอกันที่โต๊ะอาหารนะครับคุณพ่อ”

ลูกชายโบกมือลาเพราะล่วงหน้ามาก่อนพ่อเป็นชั่วโมงแล้ว อีกทั้งอยากจะเดินดูบรรยากาศรอบบ้านที่เขาจากไปนานด้วย จึงออกวิ่งเหยาะๆ ตั้งแต่หน้าบ้านยันท้ายสวนอันกว้างถึงสิบห้าไร่

ต้นไม้แทบทุกต้นก่อนเขาไปยังสูงเท่าหัวเข่า แต่ตอนนี้จะท่วมหลังคาแล้ว เขารับไหว้พร้อมส่งยิ้มให้คนสวนที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ ซึ่งเขาเองก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าชายผู้นั้นชื่ออะไร

เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาอาหารแล้วถึงได้รีบขึ้นห้องกลับลงมาอีกทีก็พบว่าแม่กับน้องสาวคนกลางนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“ยัยแอ๊นกับตาเจไปไหนล่ะครับคุณแม่ ตั้งแต่ผมมายังไม่เห็นหน้าเลย”

ร่างสูงทรุดกายลงนั่งที่ประจำ

“ออกบ้านไปตั้งแต่เช้าละ ตาเจบอกว่าไปเข้าค่าย ยัยแอ๊นเห็นว่าจะไปติวหนังสือเตรียมสอบบ้านเพื่อน”

ผู้แม่เป็นคนตอบ ด้วยอาการครุ่นคิด สักพักก็จะตัดสินใจเอ่ยในเรื่องที่คิดตรึกตรองมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

“จิณวันนี้ช่วยทำอะไรให้แม่สักอย่างจะได้มั้ย”

ผ่อนกำลังตักข้าวต้มใส่ชามให้คุณผู้ชายอยู่รู้ดีกว่าใคร และก่อนคุณผู้หญิงจะเอ่ยปากซะอีก

“คุณแม่จะให้ผมทำอะไรครับ”

เขาหันไปยิ้มเป็นการขอบคุณสำหรับกุ้งตัวโตๆ ที่ผ่อนตักแถมใส่ชามให้ มือก็ยกขวดพริกไทยเหยาะใส่ชามไป ปากก็ถามโดยไม่ยี่หร่านักว่าธุระของแม่จะสำคัญอะไรมากมายจนเขาทำไม่ได้

“ช่วยไปตามยัยตะวันกลับมาทำงานให้แม่ทีนะ เบื่อหาคนใหม่มาทำงานแล้ว เบื่อจะสอน เบื่อจะด่าจะว่า เบื่อจะทะเลาะด้วย แม่ไม่อยากคิดไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นมันปวดหัว อยากได้คนที่เดินมาบอกว่าวันนี้แม่ต้องทำอะไร ใส่ชุดไหน ต้องกินอะไรมากกว่าจะคิดเอง ยัยตะวันอยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ อยากจะพักที่ไหนหรือมีข้อแม้อะไรแม่ก็จะไม่ว่ามันแล้ว ขออย่างเดียวให้มันกลับมาก็พอ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel