1.เกาะอันดารา
EP01: เกาะอันดารา
“กรี๊ดดด! มึงสวยมากก เคยเห็นแต่ในรูป พอได้มาเห็นของจริงสวยมากกว่าสิบเท่า!”
ลิษาส่ายหัวให้เพื่อนรักน้อยๆ เมื่ออีกคนแสดงความตื่นเต้นออกมาจนโอเวอร์แอคติ้ง ดวงตากลมโตหันไปมองโรงแรมที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าก่อนจะพินิจพิจารณาถึงความสวยของมันตามคำพูดของฝ้ายเพื่อนสนิท
“อื้อ ก็สวยจริงๆนั่นแหละ” หญิงสาวตอบกลับเพื่อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบปกติทำเอาฝ้ายเพื่อนซี้ต้องหันมามองเธอด้วยสายตาขุ่นเคืองใจ
“อะไรกัน มึงนี่ขาดอารมณ์ศิลป์จริงๆเลยอีษา” ฝ้ายหันมาแวดใส่เพื่อนตามสไตล์ของเธอ
ถึงจะเป็นเพื่อนรักกันมานานแต่ฝ้ายก็ไม่เคยชินกับท่าทางเฉยเมยต่อทุกสิ่งของเพื่อนเลยสักครั้ง
ตอนนี้ทั้งสองอยู่ที่เกาะอันดารา เกาะที่ถูกขนานนามว่าเป็นสวรรค์บนพื้นทรายที่แท้จริง ลิษาและประกายฝันผ่านคัดเลือกให้เข้าฝึกงานที่เกาะนี้ ในฐานะนักศึกษาของมหาลัย H ปีที่สี่ สองสาวจึงตั้งใจอยากจะลงใต้มาฝึกงานเพื่อฝึกฝนทักษาด้านภาษาอังกฤษให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
และผลพลอยได้อีกอย่างนึงก็คือ ข้าวฟรี ที่พักฟรี พร้อมกับเงินเดือนของนักศึกษาแบบจุกๆ ทำให้สองสาวตาโตรีบสมัครมาฝึกงานที่นี่แบบไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง ใครจะไปคิดว่าเธอจะผ่านการสัมภาษณ์มาแบบฟลุคๆทั้งสองคน
“จะอะไรนักอีฝ้าย ก็แค่เกาะกลางทะเลมึงอย่าอวยเวอร์วังได้ปะ” ลิษายอมรับว่าเกาะนี้น่ะสวยมาก แต่เธอแค่อยากแกล้งเพื่อนเฉยๆ เพราะยัยฝ้ายเป็นพวกชอบทำอะไรเวอร์ๆ ส่วนเธอก็เป็นประเภทชอบกวนประสาท
“โอ้ยอีนี่ กูไม่คุยกับมึงละ ไปกันเถอะ HR น่าจะรอเจอเราละกูว่า”
“เออ ไปดิ”
อีกด้าน…..
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” น้ำเสียงทุ้มของเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยอนุญาติคนด้านนอก
ปกรณ์เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับไอแพดคู่ใจ มาร์ตินวางปากกาลงก่อนจะบิดขี้เกียจเบาๆเพื่อไล่ความเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นมาจากการนั่งทำงานทั้งวัน
มาร์ติน มัส ถ้าเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาคงไม่มีใครไม่รู้จักเขา เจ้าของเกาะอันดาราแห่งนี้ที่สามารถทำให้เกาะรกร่างกลายเป็นแหล่งทำเงินมากมายมหาศาลได้ตั้งแต่อายุ 30 ถึงแม้ตอนนี้เขาจะปาไป 33 แล้ว แต่ความหล่อสไตล์หนุ่มลูกครึ่ง ไทย-เยอรมัน นั้นยังคงไม่จางหายไป
“อีกสองชั่วโมง คุณลูน่าจะมาดูแลเจ้านายนะครับ”
“ใครคือลูน่า?” ร่างสูงเอ่ยถามขึ้นเพราะเขาจำไม่ได้จริงๆ
คำว่าดูแล สำหรับมาร์ตินก็คือการอยู่ในห้องนอนกับผู้หญิงแบบสองต่อสอง มันถือเป็นเรื่องปกติของเขาที่จะมีสาวๆวนเวียนมาบำเรอความใคร่ให้ด้วยความเต็มใจ ทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนี้ ไม่แปลกที่จะมีผู้หญิงห้อมล้อมมากมาย
ถึงแม้ตอนนี้เขาจะมีข่าวคาวว่ากำลังศึกษาดูใจอยู่กับ แก้ม ดาราสาวที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหา เพราะเขาไม่ได้คบกับเธอจริงๆ มันเป็นเพียงผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างเขากับเธอเท่านั้น
“ลูน่าคือสาวน้อยวัยยี่สิบห้าที่เพิ่งได้รับตำแหน่งนางงามประจำจังหวัดครับ เธอเสนอตัวเข้ามาดูแลคุณเพราะอยากได้สปอนเซอร์ไปประกวดระดับเทศ”
มาร์ตินพยักหน้าเข้าใจในคำบอกเล่าของเลขาหนุ่ม แต่มีอย่างนึงที่เขายังตะหงิดๆอยู่ก็คืออายุของลูน่า
“ยี่สิบห้า เด็กไปหรือเปล่า” ถ้าเทียบกับเขาคือห่างกันตั้งแปดปีเชียวนะ
ถึงจะมั่วผู้หญิงไปทั่ว แต่ส่วนใหญ่มาร์ตินมักจะไม่ชอบกินเด็ก เขาไม่ได้มีนิสัยเหมือนพี่ชายคนโตสักหน่อยที่จะได้ชอบเด็ก รายนั้นอายุห่างกับเมียตั้ง 15 ปี ทุกวันนี้เขายังสงสัย ว่ามาติเนสคุยกับเมียรู้เรื่องได้ยังไง
“ไม่หรอกครับ อย่าทำเหมือนคุณไม่เคยมีอะไรกับเด็กอายุยี่สิบห้า ยี่สิบสี่ก็มีมาแล้ว”
“ปกรณ์…..” ชายหนุ่มกดเสียงลงต่ำเมื่อถูกลูกน้องพูดถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำเอาไว้
“ครับ ผมเตรียมห้องข้างล่างเอาไว้ให้แล้วนะครับ อีกสองชั่วโมงเชิญลงไปด้วย”
“อืม”
เขารับคำอย่างว่าง่าย มาร์ตินคือบุรุษจอมเสเพล เขากินได้หมด ไม่ได้เลือกกินและที่สำคัญที่พูดถึงอยู่นี้ไม่ใช่อาหารแต่อย่างใด เขากำลังหมายถึงผู้หญิง เกิดเป็นผู้ชายมันก็ต้องปลดปล่อย เรื่องความรักเขาไม่ได้สนใจ ทำไมคนเราจะต้องหยุดเพื่อมีอะไรกับคนแค่คนเดียว
หากเป็นเขาคงเบื่อตาย!
Line
กระต่าย: เดือนนี้ขึ้นมากทมไหมคะ กระต่ายน้อยคิดถึงจัง
“หึ” ร่างสูงแสยะยิ้มออกมาทันควันเมื่อเห็นจำนวนข้อความของสาวๆหลากหลายคนที่ชอบทักมาตามตื๊อเขาเป็นระยะ
หล่อรวย เลือกได้อย่างเขาก็ดีแบบนี้แหละ มีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลัง ถึงแม้จะมีนักข่าวหลายคนเอาเรื่องฉาวๆของเขาไปทำข่าว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกาะอ้นดาราเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด หนำซ้ำนักท่องเที่ยงยังเพิ่มมากขึ้นทุกปี
มาร์ติน: ไว้เดี๋ยวไปจะโทรหานะครับ คิดถึงเหมือนกันกระต่ายน้อยของติน
มาร์ตินหยิบโทรศัพท์ลงกระเป๋าหลังจากตอบกลับข้อความจนครบหมดทุกคนแล้ว ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงาน เขาอยากไปฟิตร่างกายที่ยิมสักหน่อย ถึงเวลาออกรบขะได้สร้างความประทับใจให้สาวๆได้ถนัดตา
เกาะอันดารามีครบทุกอย่างเสมือนกับที่แห่งนี้เป็นเมืองเล็กๆเมืองนึงที่มาร์ตินผูกขาดทางการตลาดไปเลย ที่พักมีเพียงสองที่คือโซนโรงแรมกับโซนรีสอร์ท นอกจากจะมีห้องอาหารในตัวโรงแรม ยังมีร้านอาหารอยู่รอบเกาะอีกสองสามที่ เพื่อเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยง รวมไปถึงผับ ร้านขายของชำและอีกหลากหลายอย่างที่มาร์ตินลงทุนไป ซึ่งมันสร้างผลตอบรับให้เขาได้อย่างมากมายมหาศาล
@ห้องอาหาร
“สวัสดีค่ะน้องๆ พี่เป็น HR แผนก Food and Beverage นะคะ ^^”
“พี่ชื่อพี่ไผ่หลิวค่ะ แล้วน้องๆชื่ออะไรกันบ้างคะ” ไผ่หลิวเอ่ยทักเด็กๆที่มาฝึกงานด้วยรอยยิ้มใจดี
ในทุกๆปีเกาะอันดาราจะเปิดรับสมัครนักศึกษาฝึกงานตามความเหมาะสม ซึ่งช่วงนี้ใกล้จะปีใหม่แล้ว หรือเรียกง่ายๆว่าช่วงไฮท์ซีซั่นของสถานที่ท่องเที่ยง หลายๆบริษัทจึงอยากรับนักศึกษาฝึกงานเข้ามาเพื่อช่วยเบาแรงพนักงานประจำ รวมไปถึงเกาะอันดาราแห่งนี้เช่นกัน
“ผมชื่อพีพีครับ” หนุ่มนิสิตหน้าตาดีคนนึงก้าวออกมาแนะนำตัวเป็นคนแรก
“ฟ้าใสค่ะ”
“มิ้นค่ะ”
“ลิษาค่ะ”
“ชื่อน่ารักทุกคนเลยค่ะเด็กๆ ก่อนอื่นพี่ไผ่จะแนะนำห้องอาหารของโรมแรมให้น้องๆรู้จักก่อนนะคะ ห้องอาหารของเราเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ รองรับแขกได้มากกว่า 100 คนเลยค่ะ”
“ซึ่งตอนเช้านะคะจะเป็นการเสิร์ฟอาหารแบบบุพเฟ่ ส่วนตอนเที่ยงเป็นต้นไปจะเป็นห้องอาหารปกติ คือเรานะมีทั้งอาหทรจานเดียวและแบบเป็นคอส มีตั้งแต่อาหารไทย อิตาเลี่ยน รวมไปถึอาหารญี่ปุ่น ส่วนการทำงานพี่จะแบ่งเป็นกะสลับกันให้นะคะ”
“อันดับแรกพี่จะพาพวกเราไปดูชุดที่ต้องใส่ทำงานกันก่อน”
ไผ่หลิวเดินพาเด็กๆทั้งสี่คนไปที่ห้องเปลี่ยนชุด ซึ่งชุดที่ลิษาต้องใส่คือชุดผ้าฝ้ายแบบไทยๆ เสื้อเป็นเสื่อสีขาวติดป้ายชื่อสีน้ำตาลแมทซ์กับกระโปรงผ้าถุง ส่วนทรงผมจะทำทรงไหนก็ได้ยกเว้นปล่อยผมและกฎเหล็กของที่นี่คือต้องประดับผมด้วยดอกไม้สดที่ปลูกไว้อย่างสวยงามด้านหน้าโรงแรม
“เอาล่ะ วัดไซต์ชุดกันเสร็จแล้วพรุ่งนี้พี่ขอนัดให้พวกเราเข้างานเวลาเดียวกันไปก่อนนะคะ นั่นก็คือแปดโมงเช้าเข้ามาเปลี่ยนชุดที่ห้องนี้ได้เลย มีใครสงสัยอะไรไหมคะ”
“ไม่มีค่ะ” ฟ้าใสเอ่ยตอบอย่างมั่นใจ เธอเป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างสวย รูปร่างดีหุ่นสูงราวกับนางแบบ
ลิษาได้แต่ก้มลงไปมองตัวเอง เธอสูงเพียงร้อยหกสิบเท่านั้น โชคดีแค่ไหนแล้วที่เขารับเข้ามาทำงานแผนกนี้ ส่วนฝ้ายเพื่อนของเธอกำลังศึกษางานเหมือนกัน แต่รายนั้นได้ทำแผนกต้อนรับก็เลยได้เรียนรู้อยู่คนละที่กัน
“โอเค~งั้นเราไปหาอร่อยๆฉลองตอนรับน้องๆกันดีกว่าเนาะ ตามพี่มาเลยจ้า”
ลิษาเดินตามทุกคนเข้าไปในห้องอาหารพนักงาน เธอได้รู้จักพี่ๆพนักงานเพิ่มหลายคน ทุกคนน่ารักและใจดีมากๆ หญิงสาวหวังว่าตัวเองจะสามารถฝึกงานที่นี่ได้อย่างมีความสุขและราบรื่นไปจวบจนวันสุดท้าย
“ชื่อลิษาเหรอ” พีพีที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอเอ่ยถาม
“อื้ม จะเรียกว่าษาก็ได้นะ”
“เธอหน้าเหมือนคนเกาหลีมากเลยอะษา~” มิ้นต์ที่นั่งอยู่ข้างๆลิษาเอ่ยขึ้น ทำให้ฟ้าใสที่นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกันหันมามองลิษาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“อ๋อ พ่อฉันเป็นคนเกาหลีน่ะ”
“จริงเหรอ ว้าว ถึงว่าทำไมน่ารักจัง”
“ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฟ้าใสเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นไปแบบไม่สนสายตาคนรอบข้าง
เธอไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่าฟ้าใสไม่ชอบเธอ….สายตาที่ยัยนั่นมองเธอมันไม่ใช่สายตาที่เป็นมิตรเท่าไหร่เลยให้ตายเถอะ!
มาวันแรกฉันก็จะสร้างศัตรูเลยหรือไง!