บทที่ 5
จากสระบุรีมากรุงเทพฯ พ่อเลี้ยงกฤตย์ใช้เวลาในการขับรถไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำไป และตอนนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มก็มาถึงร้านอาหารหรูหราในย่านที่เหล่าไฮโซมักจะมาท่องราตรีจัดงานปาร์ตี้เป็นประจำ
งานปาร์ตี้วันเกิดของไฮโซหนุ่มมีบรรดาสาวๆ และคนในสังคมเดียวกันมาร่วม
งานเลี้ยงเกือบร้อยคน แต่ไม่ว่าจะมีผู้คนมากเพียงใด ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพ่อเลี้ยง
กฤตย์ในการตามหาเจ้าสาวกลัวฝนของเขา
ภาพถ่ายของชาครียานับสิบๆ ใบที่ถืออยู่ในมือช่วยให้เขารู้ว่า หญิงสาวที่สวมชุดสีแดงสดแบบเกาะอก เปิดให้เห็นความขาวเนียนผ่องของลาดไหล่และเนินเนื้องามสล้างเหนือปทุมถันคือชาครียา ว่าที่เจ้าสาวที่ทำกับเขาไว้เจ็บแสบนัก
“สนุกให้พอแม่นกน้อย อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเธอก็จะขาดอิสรภาพแล้ว”
พ่อเลี้ยงกฤตย์นั่งรอชาครียาอย่างใจเย็น ทุกนาทีดวงตาคมกล้าสีดำสนิท จ้องมองหญิงสาวอย่างไม่กะพริบตา แทบจะไม่ให้หญิงสาวเล็ดลอดสายตาของเขาไปได้
ทางด้านของชาครียาไม่มีโอกาสรู้เลยว่าเธอกำลังถูกราชสีห์จ้องตะครุบตัวในทุกวินาที หญิงสาวยังคงสนุกเริงร่ากับงานเลี้ยงหรูหรา คอยเกาะติดกับไฮโซหนุ่มผู้เป็นเจ้า
ของงานวันเกิดแทบตลอดเวลา
“ฮึ! มีผัวอยู่ทั้งคน ยังคิดจะจับไอ้โฮโซคนนี้อีกหรือชาครียา”
ท่าทางยั่วยวนของชาครียาไม่ได้รอดสายตาของพ่อเลี้ยงกฤตย์ และทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องกัดฟันกรอดๆ ด้วยความโกรธจัดในทุกขณะ
“ยั่วมันเข้าไปชาครียา ก่อนที่เธอจะไม่มีโอกาสทำแบบนี้อีก” พ่อเลี้ยงกฤตย์รอคอยเวลาตะครุบเจ้าสาวกลัวฝน
และการรอคอยของพ่อเลี้ยงกฤตย์ก็สิ้นสุดลงในเวลาตีสาม เมื่องานเลี้ยงเลิกราบรรดาไฮโซทั้งหลายเริ่มทยอยออกมาจากงานเลี้ยงรวมทั้งชาครียาและซูซี่ด้วย
“ครีม เธอขับรถไหวหรือเปล่า ให้ฉันไปส่งไหม” ซูซี่เอ่ยถามเพื่อนรักขณะเดินคู่กันออกมาจากงานเลี้ยง
ชาครียาหยุดยืนอยู่ข้างๆ รถปาเจโร่แบบสปอร์ตหรูสีดำสนิท ซึ่งเผอิญเหลือเกินว่าเป็นรถของพ่อเลี้ยงกฤตย์ ที่จอดซุ่มรอเจ้าสาวกลัวฝนอยู่
“ไม่ต้องไปส่งหรอกซูซี่ ครีมขับรถได้ ครีมไม่ได้ดื่มมากเท่าไร”
“ดื่มไม่มาก แต่ก็มึนใช่ไหมครีม” ซูซี่ดักคออย่างรู้ทัน
ชาครียาโบกมือปฏิเสธว่อน ก่อนจะเอ่ยตอบอีกครั้ง “ครีมไม่ได้ดื่มมากขนาดนั้นหรอกซูซี่ ไวน์แค่สองแก้วไม่ได้ทำให้ครีมเมาได้หรอกน่า”
“ไม่เมาก็ไม่เมา” ซูซี่ยอมเพื่อนรัก ก่อนจะเอ่ยถามเรื่องที่ชาครียาลืมไปสนิทใจ “ว่าแต่เธอได้โทรไปเช็กข่าวบ้างไหมว่าเจ้าบ่าวของเธอเป็นยังไงบ้าง”
“ซูซี่! เธออย่ามาเหมาให้ไอ้พ่อเลี้ยงบ้านนอกหน้าโง่คนนั้นมาเป็นเจ้าบ่าวฉันนะ”
ชาครียาตวาดต่อว่าเพื่อนสาวด้วยความโกรธจัด แล้วพ่นวาจาดูถูกพ่อเลี้ยง
กฤตย์ต่อ โดยหารู้ไม่ว่าคนที่เธอกำลังดูถูกเหยียดหยาม ได้ยินคำพูดของเธอหมดทุกถ้อยคำ
“พูดถึงพ่อเลี้ยงบ้านนอกคนนี้ทีไร ฉันขนลุกซู่เพราะความขยะแขยงทุกที”
ขณะถากถางพ่อเลี้ยงหนุ่ม ชาครียาก็ยกมือลูบต้นแขนตัวเอง ทำหน้าเหยียดแสดงให้เห็นความรังเกียจเต็มที่
“ป่านนี้พ่อเลี้ยงกฤตย์ไม่เอาปี๊บคลุมหัวแล้วหรือครีม”
ซูซี่เอ่ยถามกลั้วหัวเราะ และชาครียาก็หัวเราะร่วนผสมโรงกับเพื่อนรัก
“จะเหลือหรือซูซี่ ฉันว่านอกจากจะเอาปี๊บคลุมหัวแล้ว ดีไม่ดี ป่านนี้พ่อเลี้ยงบ้านนอกแสนโง่ คงกำลังซบหน้ากับอกพ่อ ร้องไห้กระจองอแงไม่ต่างจากพวกเด็กตัวเล็กๆ”
“อุแหม! ฉันอยากเห็นภาพนั้นจังเลยครับ คงตลกน่าดู ตอนคนตัวใหญ่ๆ ซบกับอกพ่อร้องไห้เพราะไม่มีเจ้าสาวไปแต่งงานด้วย”
“สมน้ำหน้าไอ้พ่อเลี้ยงหน้าโง่ คิดจะแต่งงานกับสาวไฮโซอย่างฉันหรือ ไม่มีทางหรอก”
ในขณะชาครียากับซูซี่พากันหัวเราะเยาะถากถางกันอย่างสนุกสนาน พ่อเลี้ยง
กฤตย์ก็กัดฟันดังกรอดๆ กำมือกับพวงมาลัยรถแน่น ถ้าหากไม่กลัวเสียแผน เขาคงได้เปิดประตูกระชากเจ้าสาวกลัวฝนมาสั่งสอนให้หลาบจำด้วยบทลงทัณฑ์ตามแบบฉบับดิบเถื่อนที่เขาถนัด
“ฮึ! ไอ้พ่อเลี้ยงบ้านนอก ไอ้โง่ หัวเราะไปเถอะชาครียา อีกไม่นานเกินรอเธอก็จะมีไอ้บ้านนอกคนนี้เป็นผัว!”
ชาครียากับซูซี่หารู้ไม่ว่าพ่อเลี้ยงกฤตย์ได้ยินคำพูดของพวกเธอทุกถ้อยคำ เมื่อสนุกสนานกับการเยาะหยันพ่อเลี้ยงกฤตย์มากพอแล้ว ชาครียาและซูซี่ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ขณะขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน ชาครียาก็ฮัมเพลงตามเสียงเพลงในรถอย่างมีความสุขกับแผนการหักหน้าพ่อเลี้ยงกฤตย์ จนไม่ทันสังเกตว่ามีรถปาเจโร่แบบสปอร์ตขับตามเธอมาเป็นเวลานานแล้ว
พ่อเลี้ยงกฤตย์รอจังหวะให้ชาครียาขับรถเข้าไปซอยลึก ก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้าน พอสบโอกาสก็ขับรถปาดหน้าแล้วจอดในระยะกระชั้นชิดจนชาครียาแทบเบรกรถไม่ทัน